ย้อนดูคำพยากรณ์ "โหรภิญโญ” หรือ นายภิญโญ พงศ์เจริญ นายกสมาคมโหราศาสตร์นานาชาติ ที่เปิดเผยถึง ดวงเมือง ปี 2563 กับสยามรัฐ ว่า ในปี 2563 นี้ดวงเมืองอายุย่าง 238 ปี โดยจะอายุเต็ม 238 ปี ในวันที่ 21 เมษายน 2563 ภาพรวมของปี 2563 จะมีดาวที่มีความสัมพันธ์กับดวงเมืองหลายดวง คือ ดาวมฤตยู ดาวราหู ดาวอังคาร ดาวพฤหัส ดาวเสาร์และอื่นๆ ดาวแต่ละดวงต่างส่งผลกระทบและมีอิทธิพลต่อดวงเมืองแตกต่างกัน เริ่มด้วย “ดาวมฤตยู” หรือ ยูเรนัส ซึ่งกำลังโคจรอยู่ราศีเมษ ในหนึ่งปีดาวมฤตยูโคจรได้ประมาณ 4-5 องศาเท่านั้น ดังนั้น ในหนึ่งราศีดาวมฤตยูจะใช้เวลายาวนานถึง 7 ปี ซึ่งที่ผ่านมาดาวมฤตยูได้เข้าสู่ราศีเมษตั้งแต่ปี 2557 และจะออกจากราศีเมษสู่ราศีพฤษภในปี 2565 การที่มฤตยูย้ายเข้าราศีเมษทาให้เกิดการเปลี่ยนแปลงค่อนข้างมาก เริ่มด้วย คสช.ยึดอานาจ อันเนื่องมาจาเหตุความวุ่นวายที่เกิดขึ้น มีการปฏิรูปการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และด้านอื่นๆ และนำความสูญเสียมาสู่ชาติบ้านเมือง ขณะเดียวกันก็ส่งผลดี ทำให้มีสิ่งใหม่ๆเกิดขึ้น ดังนั้นในปี 2563 ดาวมฤตยูยังโคจรอยู่ในราศีเมษตลอดปีจึงยังคงมีความเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง การปกครอง เศรษฐกิจและสังคม ส่วนเปลี่ยนแปลงจะรุนแรงไหม และเปลี่ยนแปลงอย่างไรก็ต้องดูดาวดวงอื่นๆด้วย มาถึง “ดาวอังคาร” ดาวแห่งสงคราม อุบัติเหตุ อุบัติภัย ภัยธรรมชาติ และความรุนแรง ซึ่งในปี 2563 ในช่วงแรกดาวอังคารจะโคจรเป็นปกติ แต่ช่วงที่น่าจับตามอง คือช่วงที่ดาวอังคารเกิดโคจรวิปริตในราศีเมษและราศีมีนที่เรียกว่า “ถอยหลัง” หรือภาษาโหรเรียกว่า “พักร์” ซึ่งการถอยหลังครั้งนี้จะเป็นการ “พักร์ราศี” หมายถึง “ถอยหลังข้ามราศี” ข้ามจากราศีเมษไปสู่ราศีมีน (8 ก.ย.63 – 26 พ.ย.63) ช่วงพระอังคารถอยหลังและช่วงอังคารเพ็ญนี้สำคัญมาก โดยเฉพาะจุดกึ่งกลางของการ”เพ็ญพักร์” คือวันที่ 15 ต.ค.63 เกิดอังคารสัมพันธ์มฤตยูและจุดตั้งรับสำคัญในดวงเมือง จึงอาจจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญที่รุนแรงเกิดขึ้นได้ อาจเกิดเกิดอุบัติเหตุ อุบัติภัย ภัยธรรมชาติ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองครั้งสำคัญได้ โดยครอบคลุมไว้ในช่วงเดือนตุลาคม ซึ่งเป็นจุดกึ่งกลางของการ”เพ็ญพักร์” ดังกล่าว สำหรับ สัญญาณการเปลี่ยนแห่งยุคสมัยที่อันตรายในปี 2563 เกิดการเปลี่ยนแปลงบนท้องฟ้าที่สำคัญ คือ การกุมกันครั้งใหญ่ 3 ครั้ง ของดาวพฤหัสบดี และดาวเสาร์ ภาษาาโหรเรียกว่า The Great Conjunction 2020 คือ ดาวพฤหัสโคจรเดินหน้า และถอยหลัง ดาวเสาร์โคจรเดินหน้า และถอยหลัง ทำให้เกิดการกุมกัน (ระยะองศาเท่ากัน) เป็นการกุมกันครั้งยิ่งใหญ่ถึง 3 ครั้ง และเมื่อเช็คปฏิทินสุริยยาตร์ 2563 มีดังนี้ ครั้งที่หนึ่ง 1 เม.ย.63 ครั้งที่สอง 23 ก.ค.63 ครั้งที่สาม 20 ต.ค.63 ปรากฏการณ์นี้เคยเกิดขึ้นเมื่อ 397 ปีก่อน ในแผ่นดินพระเจ้าทรงธรรม สมัยอยุธยา ซึ่งเมื่อเข้าไปศึกษาพบว่า ศาสนารุ่งเรือง (เนื่องจากพระเจ้าทรงธรรม เป็นพระมหากษัตริย์ที่สึกออกมาครองราชย์) แต่การทหารกับการเมืองเป็นปัญหา โดยในห้วงเวลานั้นได้เสียทวายให้แก่พม่า ส่วนอาณาจักรเขมรซึ่งเป็นประเทศราชก็แยกตัวเป็นอิสระ และล้านช้างก็แยกตัวเป็นอิสระด้วย ซึ่งแสดงถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ อย่างไรก็ตามการซ้อนทับจริงๆบนท้องฟ้าของ ดาวพฤหัสกับดาวเสาร์ ซึ่งมีองศาที่เท่ากัน ระนาบการโคจรเป็นระนาบเดียวกัน เมื่อมองไปจากโลกจะเห็นการซ้อนทับกัน เหลื่อมกันแค่ 1 ลิปดา คือวันที่ 21 ธ.ค.63 เกิดซ้อนทับเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันตรงราศีมังกร ซึ่งเป็นเรือนชะตาที่ 10 ของดวงเมือง หมายถึง นายกรัฐมนตรี ครม. การบริหารราชการแผ่นดิน เพราะฉะนั้นก็เป็นไปได้ว่าจะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ดังนั้น จึงควรระวังถึงระวังเป็นอย่างมาก อย่าให้เกิดประวัติศาสตร์ซ้ำรอย