บรรยากาศกระแสการเลือกตั้งท้องถิ่น เริ่มระอุขึ้นทุกวัน หลังมีการประกาศเตรียมพร้อมจัดการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ.ทั่วประเทศ โดยเฉพาะพื้นที่ จ.นครพนม ถือเป็นพื้นที่สำคัญ ที่น่าจับตามอง ทั้งกระแสการขับเคี่ยวของพรรคการเมืองใหญ่ ที่ มี ส.ส.หลายขั้ว จากการเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งที่ผ่านมา ทำให้หลายพรรคการเมือง พยายามส่งตัวผู้สมัครวัดบารมี ชิงคะแนนนิยมจากชาวบ้าน ในพื้นที่ เช่นเดียวกันกับ นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) หรือสหายแสง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิไจไทย ได้เปิดตัวลูกสาวคนสวย ตั้งแต่ยังไม่กำหนดวันเลือกตั้ง คือ น.ส.ศุภพานี โพธิ์สุ หรือน้องขวัญ อายุ 36 ปี ทายาททางการเมืองคนโต ที่คอยติดตามเก็บเกี่ยวประสบการณ์ สืบทอดอุดมการณ์ทางการเมือง จาก ครูแก้ว มานานหลายปี จนกระทั่งถึงเวลาได้โอกาสเปิดตัว พร้อมสู้ศึกชิงนายก อบจ.นครพนม ในการเลือกตั้ง ครั้งนี้ นั่นหมายถึง เกิดกระแสร้อนแรง ของปมแตกหักระหว่าง ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม คนปัจจุบัน ที่เคยทำงานร่วมกันเสมือนคนในครอบครัวมาตลอด แต่ภายหลังการเลือกตั้ง ส.ส.ที่ผ่านมา ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม ได้ผันตัวไปสนับสนุน พรรคพลังประชารัฐ รวมถึง ผู้สมัคร ส.ส.เขต 1 คือ นายธงทิพย์ชลิต แห่สถิตย์ อดีต ส.อบจ.นครพนม และยังเคยเป็นคนสนิท ของ ครูแก้ว ทำให้เกิดจุดร้าวทางการเมือง เพราะเป็นการแข่งขัน ในเขตเลือกตั้งที่ 1 นครพนม เป็นที่มาของ นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) หรือสหายแสง ต้องส่งลูกสาววัดบารมี ประกาศสู้ศึกชิงนายก อบจ.นครพนม ในครั้งนี้ หวังล้มแชมป์เก่า หนำซ้ำยังมีการดึงตัว นายชูกัน กุลวงษา อดีต ส.ส.เขต 4 นครพนม พรรคเพื่อไทย ที่ผันตัวไปสมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา แต่สอบตก รวมถึง นายแพทย์ อลงกต มณีกาศ อดีต ส.ส.นครพนม พรรคเพื่อแผ่นดิน และอดีต ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ แต่สอบตกในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ร่วมสนับสนุนเป็นฐานเสียง วางตัวนั่งรองนายก อบจ.นครพนม หวังล้มแชมป์ ส่วน ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม ในฐานะแชมป์ ไม่เพียงเจอศึกวัดบารมีของ นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) หรือสหายแสง ยังต้องเจอศึกรอบด้าน ทั้ง พรรคเพื่อไทย ที่มีกระแสความนิยมสูงในพื้นที่ ทั้ง 12 อำเภอ กำลังวางแนวทางเพื่อสนับสนุนการเลือกตั้งท้องถิ่น สู้ศึก นายก อบจ.นครพนม โดยมี นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ อดีต ส.ส.นครพนม บัญชีรายชื่อพรรคภูมิใจไทย และ เป็นอดีต ผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อชาติ ซึ่งพยายาม อิงกระแสพรรคเพื่อไทย เตรียมเปิดตัวสู้ศึกนายก อบจ.นครพนม แต่ยังติดปัญหาความไม่ลงตัว ของบรรดา ส.ส.พรรคเพื่อไทย ทั้ง 3 เขตเลือกตั้งในพื้นที่ จ. นครพนม ที่กำลังหาข้อสรุปวางตัวผู้สมัครชิงนายก อบจ.นครพนม ทำให้ นายภูมิพัฒน์ พชรทรัพย์ ยังเป็นตัวเลือกของ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เท่านั้น ที่ยังต้องผลมติจากพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ อีกด้าน ยังมีกลุ่มของ มหานครนครพนม นำโดย นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ เป็นหัวหน้าทีม ออกมาประกาศตัวสู้ศึกเลือกตั้ง ชิงนายก อบจ.นครพนม อดีตเคยเป็นเลขารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐบาล นายสมัคร สุนทรเวช อีกทั้งยังเป็นน้องชายของ อดีต ส.ส.หลายสมัย สมาชิก บ้านเลขที่ 111 คือ นายอรรถสิทธิ์ (คันคาย) ทรัพยสิทธิ์ อดีต ส.ส.พรรคไทยรักไทย โดยการประกาศเปิดตัวครั้งนี้ นายณพจน์ศกร ทรัพยสิทธิ์ ยังประกาศตัวภายใต้การสนับสนุนจาก คณะก้าวหน้า ของ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ และสมาชิกพรรค หวังเรียกคะแนนนิยมจากกลุ่มเยาวชนคนรุ่นใหม่ ทำให้การเลือกตั้งศึก อบจ.นครพนม ครั้งนี้ แชมป์เก่า คือ ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม ต้องเจอศึก 3 ด้าน อีกทั้งยัง เป็นการวัดบารมีระหว่าง นายศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) หรือสหายแสง รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิไจไทย ถึงแม้จะมีกระแสข่าวว่า ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม พยายามเข้าไปซบกระแสฝ่าย ส.ส.เพื่อไทย หวังลดแรงเสียดทาน ชิงคะแนนนิยม แต่ยังคงเป็นไปได้ยาก เนื่องจากเคยมีกระแสเปิดตัวสนับสนุน ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ในการเลือกตั้งที่ผ่านมา ทางรอดสุดท้าย ต้องหวังคะแนนนิยมส่วนตัว และวัดผลงานที่ผ่านมาเท่านั้น ดร.สมชอบ นิติพจน์ นายก อบจ.นครพนม กล่าวว่า ตนทำงานการเมืองพัฒนานครพนม มาหลาย 10 ปี เริ่มต้น ตั้งแต่ สมาชิก อบจ.นครพนม จนก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งนายก ดำรงตำแหน่งมาเป็นสมัยที่ 2 ยอมรับว่า ฟันผ่าอุปสรรคทางการเมืองมาทุกรูปแบบ มาถึงวันนี้ ตนยังพร้อมที่จะทำงาน สานงานต่อพัฒนาเพื่อชาว จ.นครพนม ต่อเนื่อง ในการเลือกตั้ง ที่จะมาถึง ตนมีความพร้อมทุกด้าน มั่นใจมีทีม ส.อบจ.จากพื้นที่ 12 อำเภอ ยังพร้อมร่วมงานสู้ศึกเลือกตั้งกับทีมของตนเกินครึ่ง ถึงแม้การเลือกตั้งที่จะมาถึง จะมีหลายฝ่ายการเมือง คนสำคัญที่เคยทำงานร่วมกัน รวมถึง ท่านศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิไจไทย ซึ่งเคยทำงานร่วมกันมาตลอด จะส่งลูกสาวลงสู้ศึก ตนยืนยันไม่มีความขัดแย้ง และไม่เคยติดใจในเรื่องของการทำงานการเมือง แต่ตอนมองว่า เป็นเส้นทางการเมือง ที่มีโอกาสเกิดขึ้น ทุกคนย่อมต้องการเกิดความก้าวหน้าทางการเมือง เช่นเดียวกัน ท่าน ศุภชัย โพธิ์สุ (ครูแก้ว) ครูแก้ว ย่อมอยากมีทายาททางการเมือง ตนถือว่า เป็นเรื่องของเส้นทางการเมือง สุดท้ายอยู่ที่ประชาชน ตนขอทำหน้าที่ให้เต็มความสามารถ และเชื่อมั่นว่าผลงานที่พัฒนาดูแลชาวนครพนม ตลอดการรับตำแหน่ง จะเป็นตัวชี้วัดสำคัญ ในการตัดสินใจ เมื่อประชาชนเลือกตนต้องยอมรับไม่ว่าแพ้หรือชนะต้องสู้ และเชื่อว่าการเลือกตั้งครั้งนี้กระแสพรรคใหญ่ ไม่มีผลต่อการเลือกตั้งระดับท้องถิ่น สำคัญที่ตัวบุคคล ++++++++++++++++