จูบสุดท้าย ก่อนจากของดีเจหนุ่มบนรถทัวร์งานบุญกฐิน เมียรำพันถึงสุดเศร้าเคล้าน้ำตา ระหว่างเดินทางมาขอรับศพกลับบ้าน เผยอาชีพหลักของสามีเป็นบุรุษไปรษณีย์ ได้เอ่ยปากบอกอยากหาเงินไปช่วยจัดงานทำบุญวันเกิดให้แก่ผู้เป็นยายที่ได้เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก ก่อนออกเดินสายมารับงานขายเสียงสร้างความสนุกให้แก่ผู้คนบนรถทัวร์แดนซ์ แต่สุดท้ายทุกอย่างกลับกลายมาเป็นความเศร้าคืนสู่ครอบครัว วันที่ 12 ต.ค.63 เวลา 11.00 น. ที่สุสานสมาคมสงเคราะห์การกุศล หน่วยกู้ภัยฉะเชิงเทรา บรรดาญาติของ นายปัญจพล ตรูสมูล อายุ 27 ปี บุรุษไปรษณีย์หนุ่มสาขาบางนา ที่ได้มารับงานจ๊อบพิเศษเป็นดีเจเปิดเพลงขายเสียงบนรถทัวร์แดนซ์ สร้างความสุขให้แก่ผู้คนบนรถโดยสารเที่ยวงานบุญกฐิน ก่อนมาถูกขบวนรถไฟสินค้าพุ่งชนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทราได้พากันเดินทางมาเกือบ 20 คน เพื่อขอรับศพกลับบ้าน และนำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้เป็นมารดา และภรรยา ซึ่งมีบุญสาวด้วยกัน 2 คน วัย 9 ขวบ และ 1 ขวบ 6 เดือน ที่ต่างกลั้นน้ำตากันไว้ไม่อยู่ ต่อการจากไปแบบเฉียบพลันอย่างไม่ทันได้ตั้งตัวของผู้เป็นสามี พลางร้องบอกให้กลับบ้านกัน โดย น.ส.ปิยะดา เฉียวทอง อายุ 27 ปี อยู่บ้านเลขที่ 100/76 ม.12 ต.บางหัวเสือ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ ผู้เป็นภรรยาได้กล่าวบอกต่อผู้สื่อข่าวว่า วันเกิดเหตุสามีได้เดินทางออกจากบ้านเมื่อเวลาประมาณตีห้า โดยก่อนจากไปได้ทำการหอมแก้ม ซึ่งเป็นการจูบลาก่อนออกจากบ้านไปทำงานในทุกครั้ง ที่ผู้เป็นสามีนั้นมักจะทำอยู่เป็นประจำ แต่ไม่คิดว่าจะเป็นการจูบสั่งลาเป็นครั้งสุดท้าย ที่เขาจะไม่มีวันกลับมาหาอีกแล้วทั้งชีวิตนี้ ซึ่งปกติสามีมีอาชีพการงานหลัก เป็นบุรุษไปรษณีย์ แต่ได้มารับจ๊อบหารายได้พิเศษในวันหยุด ด้วยการเป็นดีเจตามรถทัวร์ท่องเที่ยวมานานกว่า 2 ปีแล้ว ซึ่งเขามักจะรับงานอยู่เป็นประจำหากมีโอกาส และในครั้งนี้เห็นสามีบอกว่าอยากจะหาเงินมาทำบุญวันเกิดให้แก่ผู้เป็นยายที่ได้เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็ก จึงได้ออกรับงานหาเงินรายได้พิเศษอีกครั้ง จนสุดท้ายต้องมาเสียชีวิตไปจากเหตุการณ์นี้ เธอกล่าวพรางน้ำตาซึมไหลออกมาอยู่เป็นระยะ พร้อมกับบอกกับผู้เป็นสามีว่า "มารับกลับบ้านแล้วนะ กลับบ้านเราเถอะ" ระหว่างจุดธูปเรียกชื่อนำศพออกจากสุสานห้องเย็น พร้อมกับบอกว่า จะนำศพของผู้เป็นสามีไปตั้งบำเพ็ญกุศลยังที่วัดบางโปร่ง ตั้งอยู่ ม.2 ต.บางโปรง อ.เมือง จ.สมุทรปราการ และจะตั้งพิธีสวดเป็นเวลา 5 คืนก่อนที่จะทำการฌาปนกิจศพ น.ส.ปิยะดา กล่าว ขณะที่บรรดาญาติๆ ของผู้เสียชีวิตรายนี้ ยังได้บอกกับผู้สื่อข่าวว่า ถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานใดได้เข้ามาดูแลหรือเยียวยาจิตใจต่อคนในครอบครัวผู้สูญเสียแต่อย่างใด และยังไม่เคยได้รับการติดต่อใดๆ จากทางราชการทั้งสิ้นเกี่ยวกับเรื่องพิธีศพ ขณะที่ตอนนี้บรรดาญาติๆ นั้น ล้วนแต่ยังคงอยู่ในความโศกเศร้า และเสียใจจากการจากไปอย่างเฉียบพลันทันด่วน จนยังทำใจรับกันไม่ได้ โดยผู้เป็นพี่สาวที่เคยเลี้ยงดูมาตั้งแต่เล็กบอกว่า ไม่คิดว่าเขาจะไปเร็วขนาดนี้ ไม่เคยคิดมาก่อนเลย และไม่มีลางบอกเหตุอะไรมาก่อน ได้ยินเขาบอกว่าจะหาเงินไปทำบุญวันเกิดให้ยาย ซึ่งเป็นญาติผู้ใหญ่ที่เขารักมาก ในวันที่ 24 ต.ค.63 นี้ แต่ไม่คิดว่าจะต้องมาจัดงานเขาเอง สำหรับตนเองนั้นก็สนิทกับเขามาก เพราะเคยได้เลี้ยงน้องมาตั้งแต่ยังเล็กเช่นกัน ผู้เป็นพี่สาวระบุ