รัฐบาลโดยกระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) จัดงาน “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” น้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2563 วันนี้ (12 ต.ค. 63) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานเปิดงาน “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร 13 ตุลาคม 2563 ในหลวงรัชกาลที่ 9 โดยมีนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม นางยุพา ทวีวัฒนะกิจบวร ปลัดกระทรวงวัฒนธรรม ผู้บริหาร ผู้แทนหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเครือข่ายวัฒนธรรมเข้าร่วมงาน ณ ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 70 ปีแห่งการครองราชย์ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงปกครองประเทศชาติและประชาชนด้วยทศพิธราชธรรม ทรงทุ่มเทกำลังพระวรกายและกำลังพระราชหฤทัยในการบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ เพื่อความกินดีอยู่ดี คุณภาพชีวิตที่ดีให้แก่อาณาประชาราษฎร์ และความเจริญก้าวหน้าอย่างยั่งยืนของประเทศชาติ พระองค์ทรงงานด้วยหลักการ เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา รวมทั้งได้พระราชทานหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อเป็นแนวทางสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืนผ่านโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริหลากหลายสาขากว่า 4,000 โครงการ ก่อเกิดเป็นศาสตร์แห่งพระราชา นอกจากนี้ พระราชดำรัสและพระบรมราโชวาทในวาระโอกาสต่างๆ คือปรัชญาคำสอนและคติธรรมที่พระองค์ทรงปรารถนาให้ชาวไทยตั้งมั่นอยู่ในความดีงาม ความพอดี ความพอเพียง รักษาไว้ซึ่งความเป็นชาติอารยะ “ในหลวง รัชกาลที่9 ทรงเป็นเอตทัคคะทั้งศาสตร์และศิลป์หลายแขนง ทรงเป็นทั้งปราชญ์และครูแห่งแผ่นดินที่ยิ่งใหญ่ ทรงเป็นกษัตริย์นักคิดและนักพัฒนาพระอัจฉริยภาพเป็นที่ประจักษ์ต่อสายตาและประทับใจทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ทรงได้รับการทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระราชสมัญญามากมายหลายด้าน เช่น อัครศิลปิน , พระบิดาแห่งการอนุรักษ์มรดกไทย , พระบิดาแห่งเทคโนโลยีของไทย , พระบิดาแห่ฝนหลวง , พระบิดาแห่งนวัตกรรมไทย , พระบิดาแห่งการวิจัยไทย เป็นต้น ที่สำคัญยิ่ง คือ องค์การสหประชาชาติได้น้อมเกล้าน้อมกระหม่อมถวายรางวัลความสำเร็จสูงสุดด้านการพัฒนามนุษย์ และทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายพระราชสมัญญาพระมหากษัตริย์นักพัฒนา อีกด้วย” “พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นศูนย์รวมดวงใจของคนไทยทั้งชาติได้เสด็จสู่สวรรคาลัยเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ.2559 นับเป็นวันที่พสกนิกรชาวไทยต่างโศกเศร้าอาลัยโดยทั่วกัน เนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต ชาวไทยล้วนมีจิตใจตั้งมั่นเพื่อร่วมกันแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ จะขอสืบสานพระราชปณิธาน จะยึดมั่นในกาปฏิบัติดีรักษาชาติบ้านเมืองและสร้างสรรค์คุณประโยชน์แก่ประเทศชาติ" นายวิษณุ รองนายกฯ กล่าว รองนายกฯ กล่าวอีกว่า รัฐบาลมอบหมายให้กระทรวงวัฒนธรรม(วธ.) ดำเนินการจัดกิจกรรมเพื่อน้อมรำลึกเนื่องในวันคล้ายวันสวรรคต โดยในส่วนของการจัดงาน “ธสถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” ระหว่างวันที่ 12-18 ตุลาคม ภายในงานประกอบด้วย การจัดแสดงนิทรรศการ “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” เพื่อน้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ แบ่งเป็น 4 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 น้อมรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ พระราชประวัติ และพระราชกรณียกิจ โซนที่ 2 อัครศิลปิน จัดแสดงภาพถ่ายและภาพวาดฝีพระหัตถ์ หนังสือพระราชนิพนธ์ และโน้ตดนตรีพระราชนิพนธ์ ซึ่งจะมีไฮไลท์ คือ การจัดแสดงภาพวาดฝีพระหัตถ์องค์จริงที่หาชมได้ยาก โซนที่ 3 จัดแสดงเพลงพระราชนิพนธ์ โดยให้ผู้เข้าร่วมกิจกรรมได้ฟังเพลงผ่านเทคนิคซาวด์โดม (Sound Dome System) โซนที่ 4 นิทรรศการหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง โครงการในพระราชดำริ อาทิ โครงการฝนหลวง โครงการแก้มลิง โครงการแกล้งดิน โครงการหลวงพัฒนาคุณภาพชีวิตชาวเขา โครงการหน่วยแพทย์พระราชทาน เป็นต้น โดยจัดแสดงในระบบ infographic touch screen โซนที่ 5 ปณิธานตามรอยเท้าพ่อ จัดแสดงในระบบ write digital on cloud ให้ผู้เข้าร่วมงานได้เขียนปณิธานการทำความดีสืบสานคำสอนของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร “พ่อของแผ่นดิน” และโซนที่ 6 เวทีการแสดงศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ การขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ โดยศิลปินรับเชิญ และการประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์ นอกจากนี้ มีกิจกรรมการแสดงศิลปวัฒนธรรม ได้แก่ การขับร้องเพลงพระราชนิพนธ์ โดยศิลปินรับเชิญ การประกวดร้องเพลงพระราชนิพนธ์ แบ่งเป็นรุ่นเยาวชนอายุไม่เกิน 12 ปี และรุ่นเยาวชนอายุ 13 – 18 ปี ทั้งนี้ ผู้เข้าร่วมงานจะได้รับของที่ระลึก ได้แก่ ภาพถ่ายระลึกเนื่องในนิทรรศการพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และหนังสือทศรัชบรมราชจักรีวงศ์ หนังสือศาสตร์พระราชาภาพถ่ายแสงและเงา (มีจำนวนจำกัด) ร่วมชมนิทรรศการ “ธ สถิตในดวงใจไทยนิรันดร์” กันได้ วันนี้ – 18 ต.ค. ไลฟ์สไตล์ ฮอลล์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามพารากอน