กระป๋องสังฆทานเป็นเหตุให้สาวใหญ่ถูกรถชนเสียชีวิตที่กาญจน์​ ขณะปั่นจักรยาน​ 2​ ล้อกลับจากบ้านแฟน​จะกลับบ้านระหว่างทางเจอคนทำกระป๋องสังฆทานและข้าวของตกอยู่​ สาวใหญ่​ เคราะห์ร้ายดวงถึงฆาตจึงจอดรถก้มๆ​ เงยๆ​ เก็บของจึงถูกรถกระบะวิ่งมาชนทั้งคนทั้งรถลากไปไกลถึง​10​ เมตรเสียชีวิตคาถนนในสภาพเลือดออกปากออกจมูก แพทย์ลงความเห็นอวัยวะภายในถูกกระแทกอยู่รุนแรงจนเสียชีวิต ด้านคนขับอ้างขับรถมาแค่​ 60​ กม./ชม.มองไม่เห็นเพราะถนนมืด​ เห็นอีกทีสุดวิสัยเบรครถไม่ทันพุ่งชนแล้ว​ คุมตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย เวลา​ 21.00 น.ของวันที่​ 11​ ต.ค.63​ พ.ต.ท.นพดล​ ปิ่นทอง​ สารวัตรเวรสอบสวน​ สภ.ท่าเรือ​ อ.ท่ามะกา​ จ.กาญจนบุรี​ ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ​ 191​ ว่าเกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะชนรถจักรยาน​ 2​ ล้อปั่น​ มีผู้เสียชีวิต​1​ ราย​ เหตุเกิดบนถนนแสงชูโตสายใน​ ​บ้านหนองรี​ เขตเทศบาลเมืองท่าเรือพระแท่น ใกล้เคียงโรงงานวุ้นเส้นท่าเรือ​ หลังรับแจ้งจึงรีบเดินทางไปตรวจสอบพร้อมประสานแพทย์เวร​ รพ.มะการักษ์​ ให้มาร่วมชันสูตรพลิกศพ​ พบว่าที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่มูลนิธิมิราเคิล​ ออฟไลฟ์(กู้ชีพขุนรัตนาวุธ)​จุดท่าเรือ-ท่ามะกาฯ​ กำลังยืนอำนวยความสะดวกด้านการจราจรยังจุดเกิดเหตุ​ เนื่องจากถนนสายดังกล่าวมียวดยานวิ่งสวนทางไปมาเป็นจำนวนมาก​ ประกอบกับถนนช่วงจุดเกิดเหตุไม่มีไฟฟ้าส่องสว่าง เกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนเกิดขึ้นได้ จากการตรวจสอบบนถนนพบร่างผู้เสียชีวิตเป็นหญิงสาวนอนเสียชีวิตจมกองเลือดอยู่ในสภาพเลือดออกปากออกจมูก แพทย์ได้ทำการชันสูตรพลิกศพสันนิษฐานว่า​ อวัยวะภายในถูกกระแทกอย่างรุนแรงจนเสียชีวิต​ จึงมอบศพให้มูลนิธิฯ​ นำศพไปที่​ รพ.ฯ​ เพื่อชันสูตรต่อเนื่องและเก็บศพไว้ที่​ รพ.ฯ​ เพื่อรอญาติมาติดต่อขอรับศพไปดำเนินการตามประเพณี ห่างจากจุดที่พบศพไปประมาณ​ 10​ เมตรพบรถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุดีแมค์​ สีบรอนท์เงิน​หมายเลขทะเบียน​ ตศ.-8719 กรุงเทพมหานครฯ​ จอดอยู่กลางถนนในสภาพที่ใต้ท้องรถมีรถจักรยาน​ 2​ ล้อปั่นถูกทับอยู่​ จึงนำรถออกมาไว้ข้างนอก​ สอบสวนทราบชื่อผู้ตายชื่อนางสาวส้มโอ​ การุณ อายุ​ 36​ ปี​ อยู่บ้านเลขที่​ 44/2​ หมู่​3​ ต.ตระคร้ำเอน​ อ.ท่ามะกา​ จ.กาญจนบุรี​ เบื้องต้นจากการสอบสวนทราบว่า​ ก่อนเกิดเหตุนางสาวส้มโอ​ ผู้ตายได้ปั่นรถจักรยานกลับจากบ้านแฟนที่ตลาดท่าเรือมุ่งหน้ากลับบ้านที่บ้านท่าสาร​ ต.หนองรีไปตามถนนแสงชูโตสายใน เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ​ ผู้ตายเห็นมีกระป๋องสังฆทานตกอยู่​ ผู้ตายจึงจอดรถเดินไปก้มๆ​ เงยๆเก็บสิ่งของอยู่กลางถนน​ จึงเป็นเหตุให้รถยนต์กระบะวิ่งมาชนจนเสียชีวิต​ และลากทั้งคนทั้งรถจากจุดเกิดเหตุไปไกลถึง​ 10​ เมตรดังกล่าว ด้านคนขับอ้างว่าขับรถมาตามถนนเพื่อมุ่งหน้ากลับบ้านพอมาถึงที่เกิดเหตุเพียง​แค่ 60​ กม./ชม.ไม่ทันเห็นเพราะถนนตรงนั้นมันมืด​ สุดวิสัยเบรคจริงๆ​ มาเห็นอีกทีรถก็ชนแล้ว ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ติดตามสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุครั้งนี้เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ...................................