ตามที่เกิดเหตุขบวนรถไฟบรรทุกสินค้าคอนเทนเนอร์ที่ 852 จากสถานีแหลมฉบัง-ไอซีดีลาดกระบัง ชนกับรถบัสหมายเลขทะเบียน 30-1476 พระนครศรีอยุธยา ที่บริเวณ สทล.51/1 ป้ายหยุดรถคลองแขวงกลั่น จ.ฉะเชิงเทรา เมื่อช่วงเช้าวันที่ 11 ต.ค. 63 เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 18 ราย และบาดเจ็บอีก 30 คน นั้น ล่าสุด การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) แจ้งว่า การรถไฟฯ จัดตั้งศูนย์ one stop service (ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุเฉพาะกิจ) เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ผู้บาดเจ็บ และญาติของผู้ที่เสียชีวิต ตลอด 24 ชั่วโมง โดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการด้านปฏิบัติการ เป็นหัวหน้าศูนย์ฯ พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่คอยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในอุบัติเหตุครั้งนี้ อาทิ กรมการขนส่งทางบก จังหวัดฉะเชิงเทรา บริษัทประกันภัย โรงพยาบาลต่าง ๆ รวมถึงกำชับให้เจ้าหน้าที่การรถไฟฯ ช่วยดูแลผู้บาดเจ็บและเสียชีวิตอย่างเต็มที่ โดยติดต่อ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง โทรศัพท์ 0-2272-5068 ขณะที่นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม กล่าวว่า ได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคม อธิบดีกรมการขนส่งทางบก อธิบดีกรมการขนส่งทางราง ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุ เพื่ออำนวยความสะดวกและจัดให้มีศูนย์ประสานงานช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ โดยมีนายอนันต์ โพธิ์นิ่มแดง ผู้ช่วยผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เป็นหัวหน้าศูนย์ประสานงานฯ พร้อมทั้งมอบหมายให้การรถไฟแห่งประเทศไทยและกรมการขนส่งทางราง ตรวจสอบข้อเท็จจริงและสาเหตุ การเกิดอุบัติเหตุ ซึ่งจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าบริเวณดังกล่าวอยู่ในพื้นที่องค์การบริหารส่วนจังหวัดฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นทางลักผ่าน ยังไม่มีการติดตั้งเครื่องกั้นถนน ทั้งนี้ การรถไฟแห่งประเทศไทยจะดำเนินการแก้ไขปัญหาจุดตัดทางลักผ่านดังกล่าว โดยด่วนต่อไป ทั้งนี้กระทรวงคมนาคมมีเจตนารมณ์ที่จะป้องกันการเกิดอุบัติเหตุบริเวณจุดตัดทางถนนและทางรถไฟอย่างยั่งยืน โดยกรมการขนส่งทางรางได้รับการจัดสรรงบประมาณจากกองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน เพื่อใช้ในการศึกษาเพื่อลดอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ โดยจะนำเสนอแผนแม่บทการแก้ปัญหาอุบัติเหตุจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ แบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว พร้อมทั้งนำเสนอแผนปฏิบัติการ และแบบรายละเอียดการปรับปรุงกายภาพจุดตัดทางถนนและทางรถไฟที่มีความเสี่ยงจะต้องเร่งดำเนินการ และจัดทำมาตรฐานจุดตัดทางถนนและทางรถไฟ