จบการต่อสู้คดียาวนาน 15 ปี ของ “น้องบีม” ที่ประสบอุบัติเหตุถูกรถบรรทุก 18 ล้อ ชนจนขาพิการตั้งแต่เด็ก เมื่อปี 2548 และถูกทนายความโกงเงินในคดี หลังศาลมีคำสั่งพิพากษาให้ชนะคดี ล่าสุดบริษัทเจ้าของรถบรรทุกยินยอมชดใช้ค่าเสียหายกว่า 3.8 ล้านบาท ตามคำสั่งศาลฎีกา เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 8 ต.ค.63 ที่ห้องประชุม ชั้น 4 สภาทนายความ ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ ทางสภาทนายความได้ทำการแถลงสรุปผลคดี “น้องบีม” และสภาทนายความได้แต่งตั้งคณะทำงาน ให้ความช่วยเหลือในการบังคับคดี ได้รับเงินเยียวยาจากคู่กรณีจนถึงที่สุด โดยมี น้องบีม, มารดาน้องบีม, ว่าที่ร้อยตรี ดร.ถวัลย์ รุยาพร นายกสภาทนายความ, นายนิพนธ์ จันทเวช เลขาธิการ และคณะทำงานคดีช่วยเหลือน้องบีม ร่วมแถลงข่าว โดยสภาทนายความในพระราชูปถัมภ์นำเช็คเงินสด จำนวน 900,000 บาท ของบริษัทเจ้าของรถบรรทุก 18 ล้อ ที่ขับชน รถกระบะของครอบครัว นางสาว ภัทรดา แก้วผ่อง หรือน้องบีม อายุ 17 ปี จนทำให้น้องบีมเส้นประสาทได้รับความเสียหาย ไม่สามารถเดินได้ตามปกติ มามอบให้กับน้องบีมตามขอตกลง หลังก่อนหน้านี้ นิติกร เจ้าพนักงานบังคับคดี พร้อมด้วยทนายความ นำหมายศาลเข้าไปเจรจากับทางผู้บริหารบริษัทเจ้าของรถบรรทุกดังกล่าว โดยผู้บริหาร ขอสั่งจ่ายเช็คเงินสดเป็นรายเดือน แบ่งเป็นเดือนแรกจ่าย 3 แสนบาท เดือนที่ 2-4 จ่าย 2 แสนบาท รวม 900,000บาท จากนั้นบริษัทจะจ่ายเดือนละ 1 แสนบาท ต่อเนื่องจนกว่าจะครบ จำนวน 3,815,985 บาท ภายหลังจากได้รับเงินเยียวยางวดแรก น้องบีม บอกว่า ก่อนหน้านี้รู้สึกกังวลใจ กลัวว่าจะไม่ได้รับเงินเยียวยาจากบริษัทเนื่องจากทางบริษัทเคยจ่ายเงินเยียวยาทางครอบครัวแล้วแต่ถูกทนายความคนก่อนโกงไป จนมาถึงวันนี้ที่เธอได้รับเงินเยียวยาแล้ว ก็รู้สึกดีใจเพราะเงินส่วนนี้มีความสำคัญกับครอบครัวของเธอมาก โดยวางแผนไว้ว่าจะนำเงินไปซื้อบ้าน เพราะตอนนี้ต้องรับภาระค่าเช่าบ้านอยู่ รวมถึงจะนำเงินไปรักษาตัวเองและแม่ที่ร่างกายมีปัญหาหลังประสบอุบัติเหตุด้วย ขณะที่แม่ของน้องบีม เผยว่า ที่ผ่านมากว่า10ปี ตนเองรู้สึกกดดันในการต่อสู้คดีทุกครั้ง เพราะคดีค่อนข้างยืดเยื้อไม่มีทิศทางว่าจะสิ้นสุดเมื่อไหร่ แต่มาถึงวันนี้ที่ได้รับการเยียวยาก็กลับมามีความหวังอีกครั้ง ซึ่งแม่วางแผนไว้ว่าจะนำเงินก้อนนี้เก็บไว้รักษาตัวน้องบีม และนำไปใช้เรื่องการเรียนในอนาคตของน้องบีม