นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านสินค้าและธุรกิจท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)กล่าวว่า การจัดการประกวดสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท ประจำปี 2563 นี้เป็นการดำเนินงานเพื่อให้สอดคล้องกับเป้าหมายของรัฐบาลที่ต้องการสนับสนุนการท่องเที่ยวในชุมชน โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับองค์กรมากมายรวมถึง Airbnb ซึ่งมีแพลตฟอร์มครอบคลุมและเข้าถึงทั้งระดับท้องถิ่นและระดับโลก เป็นการนำมาช่วยกระตุ้นให้นักเดินทางมาท่องเที่ยวแหล่งชุมชนในชนบทของประเทศไทย ส่งผลให้การท่องเที่ยวในชุมชนเติบโต และกระจายรายได้จาการท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ สำหรับความร่วมมือในครั้งนี้ ทาง Airbnb ได้เปิดตัวเว็บไซต์ที่จัดทำขึ้นโดยเฉพาะเพื่อนำเสนอ 15 ชุมชน ที่ได้รับรางวัลจากการประกวดสุดยอดหมู่บ้านท่องเที่ยวชนบท ประจำปี 2563 อาทิ ชุมชนจากอุดรธานี แม่ฮ่องสอน เชียงราย นครศรีธรรมราช และระนอง ทั้งนี้ผู้ที่สนใจสามารถจองที่พักและเอ็กซ์พีเรียนซ์จากชุมชนเหล่านี้ได้ผ่านแพลตฟอร์มของ Airbnb ได้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อช่วยกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจและเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับชุมชน และนอกจากโปรโมทผ่านเว็บไซต์แล้ว ทาง Airbnb ยังปล่อยแคมเปญการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียเพื่อสร้างการรับรู้และดึงดูดความสนใจไปยังที่พักและเอ็กซ์พีเรียนซ์ดังกล่าวอีกด้วย โดย นายอมันพรีท บาจาจ ผู้จัดการทั่วไป ประจำอินเดีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ฮ่องกง และไต้หวัน Airbnb กล่าวว่า การร่วมเป็นพันธมิตรกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สามารถสนับสนุนการท่องเที่ยวในชุมชนอย่างยั่งยืนทั่วประเทศ เนื่องจากนักเดินทาง Airbnb เป็น ผู้ที่ชอบเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวใหม่ๆ รวมถึงออกสำรวจและเข้าไปมีส่วนร่วมกับชุมชนในละแวกโดยรอบอยู่แล้ว สอดคล้องกับความตั้งใจของ Airbnb ที่ต้องการนำเสนอประสบการณ์การเดินทางในท้องถิ่นที่มีเอกลักษณ์ รวมถึงเป้าหมายของ ททท. ที่ต้องการโปรโมทจุดหมายปลายทางนอกเส้นทางหลัก ดังนั้นการร่วมมือในครั้งนี้จึงหวังที่จะสนับสนุนการฟื้นตัวของประเทศไทยต่อไปอย่างยั่งยืน อมันพรีท บาจาจ ขณะที่ก่อนหน้านี้ได้ร่วมมือกับ ททท. เพื่อกระตุ้นให้นักเดินทางไทยและต่างชาติท่องเที่ยวไปยังจุดหมายปลายทางที่อยู่นอกเส้นทางการท่องเที่ยวเดิมๆ เป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ Airbnb หวังที่จะผลักดันการท่องเที่ยวนอกเหนือเมืองใหญ่ เพื่อกระจายผลประโยชน์ของการท่องเที่ยวไปทั่วประเทศ เพราะฉะนั้นยุทธศาสตร์ความร่วมมือในครั้งนี้จึงมีบทบาทสำคัญที่จะช่วยนำชุมชนท้องถิ่นให้พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงด้านดิจิทัลของประเทศไทยต่อไป อย่างไรก็ตาม นายอมันพรีท กล่าวว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นผลต่อเนื่องจากความร่วมมือในช่วงที่ผ่านมา ทั้งแคมเปญการตลาดที่ Airbnb ได้โปรโมทสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ๆ นอกเหนือจากเมืองใหญ่ในประเทศไทย อาทิ จังหวัดบุรีรัมย์ จังหวัดสระบุรี และยังมีแคมเปญล่าสุดที่ได้ร่วมกับกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทยอย่าง เปิดหมู่บ้านนวัตวิถีไทยสู่ตลาดโลก ต่อยอดจากแคมเปญนอกเหนือจากเมืองใหญ่ เพราะฉะนั้นในยุคหลังโควิด-19 นั้น ทาง Airbnb หวังที่จะมีบทบาทสำคัญในการช่วยฟื้นการท่องเที่ยวไทย และทำให้มีสภาพคล่องมากยิ่งขึ้น ซึ่งรายงานชิ้นสำคัญของอ็อกซ์ฟอร์ด อีโคโนมิกส์ ล่าสุดระบุว่า ในปี 2562 Airbnb มีส่วนช่วยสร้างเม็ดเงินจำนวน 4.37 หมื่นล้านบาทให้กับจีดีพีของประเทศไทย และช่วยให้เกิดการจ้างงานถึง 113,300 ตำแหน่ง นอกจากนั้นในระหว่างปี 2558 - 2562 นักเดินทาง Airbnb ยังจับจ่ายในประเทศไทยไปกว่า 1.5 แสนล้านบาท