เพจเฟซบุ๊ก Vaccine โพสต์ข้อความระบุว่า... โอละพ่อ หนูถูกหลอก เรื่องเพลงสรรเสริญฯ เรื่องจริง “คณะราษฎร” บังคับให้ยืนเคารพในโรงหนัง มีโทษทั้งจำและปรับ . Vaccine เรื่องจริงที่ผู้ใหญ่บางคนไม่เคยบอกเด็ก เพลงสรรเสริญพระบารมี ที่บรรดาพลพรรค 3 นิ้ว ต่อต้านไม่ลุกทำความเคารพในโรงหนัง แท้จริงแล้ว ท่านผู้นำคณะราษฎรเป็นคนบังคับ ให้ยืนเคารพในโรงหนัง โดม สุขวงศ์ ผ.อ.หอภาพยนตร์แห่งชาติ ระบุว่าธรรมเนียมการบรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมีในโรงภาพยนตร์ในประเทศไทย น่าจะมีมาแต่ครั้งรัชกาลที่ 5 เมื่อเริ่มมีโรงภาพยนตร์แล้ว โดยเพลงสรรเสริญพระบารมีในยุคหนังเงียบ ต้องมีแตรวงหรือวงเครื่องสายผสมบรรเลงประกอบการฉายเพื่อถวายความเคารพเมื่อภาพยนตร์ฉายจบ หรือ “หลัง” ฉายภาพยนตร์ โดยแรกๆ คงบรรเลงอย่างเดียว ต่อมาจึงฉายกระจกพระบรมรูปพระเจ้าแผ่นดินขึ้นบนจอด้วย ปฏิบัติเป็นธรรมเนียมทั่วทุกโรงภาพยนตร์ในสยาม โดยมิได้มีกฎหมายบังคับแต่อย่างใด แต่เป็น คณะราษฏรฯ ที่เปลี่ยนธรรมเนียมปฏิบัตินี้เป็นการบังคับ โดยออกเป็นกฎหมาย พระราชบัญญัติ วัฒนธรรมแห่งชาติ พุทธศักราช 2485 ในพระปรมาภิไธยสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวอานันทมหิดล โดยมี พระเจ้าวรวงศ์เธอพระองค์เจ้า อาทิตย์ทิพอาภา และ นายปรีดี พนมยงค์ ผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ ลงนามใน วันที่ 4 สิงหาคม พุทธศักราช 2480 และมาประกาศบังคับใช้เป็นกฎหมายในปี 2485 สมัยจอมพล ป. พิบูลสงคราม โดยในพระราชกฤษฎีกาวัฒนธรรมแห่งชาติ พ.ศ. 2485 มาตรา 6 วรรค 3 ว่าไว้ดังนี้ “ บุคคลทุกคนจักต้องเคารพตามระเบียบเครื่องแบบหรือตามประเพณี คือ เคารพเพลงชาติ เพลงสรรเสริญพระบารมีและเพลงเคารพอื่นๆ ซึ่งบรรเลงในงานตามทางราชการ ในงานสังคม หรือในโรงมหรสพ ผู้ใดฝ่าฝืนพระราชกฤษฎีกาซึ่งออกตามความในมาตรา6 (ตามพระราชบัญญัติวัฒนธรรมแห่งชาติพ.ศ.2485) มีความผิด ต้องระวางโทษปรับไม่เกินหนึ่งร้อยบาท (ในสมัยนั้น) หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน หรือทั้งปรับทั้งจำ” ต่อมา พรบ.นี้ถูกยกเลิกและได้ถูกแทนที่โดยพระราชบัญญัติวัฒนธรรม พ.ศ. 2553 ซึ่งไม่มีบทบัญญัติดังกล่าวในพระราชบัญญัติใหม่นี้ ยิ่งไปกว่านั้น จอมพล ป.ยังได้ได้ริเริ่มให้โรงภาพยนตร์จะต้องเปิดเพลงมหาฤกษ์มหาชัย และให้ผู้ชมทุกคนยืนตรง เพลง “สดุดี ป. พิบูล-สงคราม” จะถูกเปิดก่อนฉายภาพยนตร์ โดยโรงหนังประกาศขอให้ผู้ชม “ลุกขึ้นคารวะท่านผู้นำ” เมื่อหนังจบจึงขึ้นพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและเพลงสรรเสริญพระบารมี ประชาชนจึงตะโกนด่าในโรงหนัง “กูไม่ยืนเคารพโว้ย ท่ามจอมพลไม่ใช่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือในหลวงของเรา” เสียงตะโกนเช่นนี้มีดังทุกรอบ เจ้าหน้าที่โรงไปแจ้งความตำรวจ ตำรวจเข้ามาก็จับใครไม่ได้ เขาตะโกนตรงโน้นตรงนี้ จนไม่รู้ว่าใครบ้างที่ตะโกน… ต่อมามีการสร้างความเสียหายจึงมีคำสั่งให้หยุดฉายเพลงจอมพล ป. พิบูลสงครามในที่สุด . Vaccine เรื่องของเรื่องท่านผู้นำนั่นล่ะเป็นคนสั่ง และมีบทลงโทษทั้งปรับและจำคุก สำหรับผู้ไม่ปฎิบัติตาม ทีนี้รู้ยังว่า บรรดาคณะราษฎร นี่แหละคือเผด็จการบ้าอำนาจตัวจริง แบบเผ็ดจัดๆ แต่งงใจที่บรรดาแกนนำประชาธิปไตยมุ้งมิ้งทั้งหลาย ยกย่องเผด็จการยุค 2475 เป็นไอดอลเพื่อเรียกหาประชาธิปไตย . ข้อมูล https://www.thaimoveinstitute.com/35060/