เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 7 ตุลาคม พ.ศ.2563 รับแจ้งจากประชาชนพบงูหลามยักษ์ขนาดใหญ่นอนขดตัวหลบอยู่ในโพรงหญ้าใกล้เคียงกับบ้านเรือนประชาชนเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็กและสัตว์เลี้ยง จึงได้ประสานให้หน่วยกู้ชีพโคกสะอาด พร้อมอาสากู้ภัยในพื้นที่ที่มีความชำนาญทางด้านการจับสัตว์เลื้อยคลานออกตรวจสอบให้การช่วยเหลือนำออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน
จากการสอบถามจากชาวบ้านที่พบงูหลามยักษ์ตัวดังกล่าว ทราบชื่อ นายอุดมศักดิ์ นพเก้า อายุ44ปี ประชากร ม.8 บ.โคกตะแบง ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ ขณะกำลังเดินผ่านป่าอ้อยเพื่อไปหาเห็ดเดินไปเจองูหลามยักษ์ขดตัวข้างรั้วอยู่บริเวณริมป่าอ้อย หลังจากนั้นจึงได้ตะโกนเรียกชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงให้มาจับ แต่เจ้างูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวตัวใหญ่มากและมีพฤติกรรมดุร้าย จึงได้โทรแจ้งนายสมพุท บุตรเทศ อายุ43ปี เป็นเจ้าหน้าที่อาสาสมัครกู้ภัยในพื้นที่มีความชำนาญการจับงูฆ่า ช่วยกันนำอุปกรณ์ลงพื้นที่ตรวจสอบในเวลา
ต่อมาสามารถจับงูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวได้พร้อมนำใส่กระสอบเอาไปมอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท ให้นำออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน จากการสอบถาม นายอุดมศักดิ์ นพเก้า อายุ44ปี ประชากร ม.8 บ.โคกตะแบง ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เล่าให้ฟังว่าในพื้นที่ดังกล่าวเคยมีชาวบ้านพบงูหลามยักษ์ค่อยข้างบ่อยเพราะบริเวณนั้นนิยมทำไร่อ้อยประกอบอาชีพ จึงทำให้มีงูมาอาศัยอยู่เยอะ ก่อนหน้านั้นเคยมีชาวบ้านถูกงูหลามยักษ์กัดเข้าที่ขาขณะที่กำลังตัดหญ้าบริเวณไร่อ้อยโชคดีที่คนตัดหญ้าใส่รองเท้าบูทจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนงูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวได้นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาเฉพาะกิจชำนาญการจับงู ต่อมาได้นำมาทำการศึกษาพฤติกรรมความดุร้ายพบว่าเจ้างูหลามยักษ์ขนาดความยาวประมาณ 3.5เมตร ขนาดน้ำหนักกว่า20กิโลกรัม ขณะที่นำออกจากกระสอบเจ้างูหลามยักษ์ได้ทำการขย่อนเหยื่อออกจากท้อง พบว่าเป็นลูกสุนักตัวเล็ก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท จึงได้นำเจ้างูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวนำไปปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในป่าใหญ่ต่อไป.
ต่อมาสามารถจับงูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวได้พร้อมนำใส่กระสอบเอาไปมอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท ให้นำออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน จากการสอบถาม นายอุดมศักดิ์ นพเก้า อายุ44ปี ประชากร ม.8 บ.โคกตะแบง ต.โคกสะอาด อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ เล่าให้ฟังว่าในพื้นที่ดังกล่าวเคยมีชาวบ้านพบงูหลามยักษ์ค่อยข้างบ่อยเพราะบริเวณนั้นนิยมทำไร่อ้อยประกอบอาชีพ จึงทำให้มีงูมาอาศัยอยู่เยอะ ก่อนหน้านั้นเคยมีชาวบ้านถูกงูหลามยักษ์กัดเข้าที่ขาขณะที่กำลังตัดหญ้าบริเวณไร่อ้อยโชคดีที่คนตัดหญ้าใส่รองเท้าบูทจึงไม่ได้รับบาดเจ็บ
ส่วนงูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวได้นำไปมอบให้เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท พร้อมเจ้าหน้าที่อาสาเฉพาะกิจชำนาญการจับงู ต่อมาได้นำมาทำการศึกษาพฤติกรรมความดุร้ายพบว่าเจ้างูหลามยักษ์ขนาดความยาวประมาณ 3.5เมตร ขนาดน้ำหนักกว่า20กิโลกรัม ขณะที่นำออกจากกระสอบเจ้างูหลามยักษ์ได้ทำการขย่อนเหยื่อออกจากท้อง พบว่าเป็นลูกสุนักตัวเล็ก หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่อาสาหน่วยกู้ภัยสว่างจรรยาธรรม จุด อ.ปราสาท จึงได้นำเจ้างูหลามยักษ์ตัวดังกล่าวนำไปปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติในป่าใหญ่ต่อไป.