นางสาวรสนา โตสิตระกูล เป็นนักรณรงค์ด้านสุขภาพและสิทธิผู้บริโภค โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กระบุว่า...เมื่อได้อ่านข้อเขียนของอาจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ว่าคณะนิติศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ยกเลิกพื้นที่เช่าร้านกาแฟ “ยิ้มสู้”ที่เปิดโอกาสให้คนพิการได้มีงานอาชีพ โดยยกสัมปทานให้เจ้าอื่น และยังเก็บค่าเช่าเดือนพ.ยเต็มเดือน ทั้งที่ให้อยู่ถึง 10 พ.ย 2563 ในฐานะศิษย์เก่าธรรมศาสตร์รู้สึกเสียใจที่ได้ทราบข่าวเช่นนี้ แต่เมื่ออ่านคำชี้แจงของทางคณะนิติศาสตร์ก็พอเข้าใจได้ว่า เป็นไปตามระบบการบริหารจัดการตามปกติภายในคณะฯ อย่างไรก็ตาม ดิฉันขอแสดงความคิดเห็นดังนี้ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เป็นคณะที่เกิดขึ้นตั้งแต่การก่อตั้งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์และการเมือง ซึ่งผู้ประศาสน์การมุ่งหมายจะให้มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง เป็นสถานที่สำหรับประสิทธิประสาทศาสตร์แห่งธรรม กล่าวคือความรู้ที่ให้ความเป็นธรรมแก่สังคม ดังนั้นกิจการของธรรมศาสตร์จึงไม่ได้มุ่งหมายสร้างผลกำไรเป็นหลัก เหมือนมหาวิทยาลัยเอกชนอื่นๆ แต่มุ่งหมายให้ความรู้ในการสร้างกำลังคนออกไปสร้างความเป็นธรรมต่อสังคมให้สมดังชื่อของธรรมศาสตร์ อาจารย์ป๋วย อึ้งภากรณ์ อดีตอธิการบดีเคยกล่าวคำที่น่าประทับใจคือ “คนที่มีน้อย รัฐต้องให้มาก”ดิฉันอยากเห็นผู้บริหารได้ดำเนินกิจการของมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ให้สมดังเจตนารมณ์ของมหาวิทยาลัย และอดีตอธิการบดีอย่างอาจารย์ป๋วยที่ปรารถนาจะเห็นหน่วยงานของรัฐ สนับสนุนผู้ที่มีน้อยให้ได้มากขึ้น ซึ่งคือหลักแห่งการสร้างความเป็นธรรมของสังคม การอนุญาตให้มูลนิธิสากลเพื่อคนพิการ ซึ่งเป็นองค์กรสาธารณประโยชน์ ได้ดำเนินกิจการต่อไปในรั้วมหาวิทยาลัย ย่อมเป็นรูปธรรมแห่งความเป็นธรรมศาสตร์ที่ประจักษ์ชัดแก่สังคมยิ่งกว่าคำพร่ำสอนหรือการประชาสัมพันธ์ใดๆ รสนา โตสิตระกูล 3 ตุลาคม 2563 ****************** ผม ศาสตราจารย์วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ในฐานะผู้ก่อตั้งร้านยิ้มสู้คาเฟ่ ซึ่งเป็นร้านกาแฟที่สร้างอาชีพให้แก่คนพิการ บาริสต้าของร้านเป็นคนหูหนวก ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณผู้ที่เคยให้การอุดหนุนกาแฟของเรามาโดยตลอด แต่ ณ วันนี้ ผมต้องขอแจ้งให้ทุกท่านทราบว่า ร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สาขาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ จำเป็นต้องปิดตัวลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ในวันที่ 10 พฤศจิกายน พ.ศ.2563 นี้ ซึ่งจะทำให้คนพิการหลายคนที่ปฏิบัติงานอยู่สาขานี้ต้องตกงาน ขาดรายได้ในการเลี้ยงชีพ สาเหตุเนื่องจาก ทางเจ้าของสถานที่ได้มอบสัมปทานให้แก่ร้านกาแฟอื่นไปเรียบร้อยแล้ว ผมรู้สึกเสียใจเป็นอย่างยิ่งที่ความพยายามในการหาช่องทางสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่คนพิการ กลับพ่ายแพ้ต่อระบบนายทุนใหญ่ ซึ่งจะส่งผลให้คนพิการจะต้องดำเนินชีวิตด้วยความยากลำบาก สุดท้ายนี้ ผมขอให้ทุกท่านช่วยกันเป็นกระบอกเสียง แชร์ข้อความที่บรรยายจากความรู้สึกของผม ที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเสียใจ เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้แก่คนพิการ ในการเรียกร้องโอกาสในการประกอบอาชีพ ให้กลับมาเป็นของคนพิการดังเดิม สำหรับท่านใดที่ต้องการอุดหนุนกาแฟของเรา ทางคณะฯ ได้สั่งให้คนพิการเลิกขายกาแฟที่ร้านนับตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน 2563 แต่ต้องจ่ายค่าเช่าเต็มเดือน ดังนั้นอีก 20 วันที่เหลือ เราจึงต้องขายตามซอกตามมุมอย่างยากลำบาก หากไม่ขายจะโดนปรับวันละ 500 บาทแวะมาอุดหนุนและให้กำลังใจร้านยิ้มสู้คาเฟ่ สาขาธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ได้ถึงภายในวันที่ 25 พฤศจิกายนนี้นะครับ #มูลนิธิสากลคนพิการ #YimsooCafe