หมดฝนคนกรุงไม่หมดทุกข์ วิกฤติฝุ่นเตรียมรอช่วงธ.ค.-ก.พ. ผู้ว่าฯกทม.เปิดแผนเตรียมรับมือระลอกใหม่ พร้อมแนะโหลดแอพฯฯ AirBKK เช็กฝุ่นจิ๋ว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯกทม.โพสต์ผ่านเฟซบุ๊กระบุ หลังจากหมดฤดูฝนในช่วงปลายเดือนตุลาคม ก็จะเข้าสู่ฤดูหนาว ซึ่งสภาพอากาศจะแห้ง ทำให้เกิดปัญหาฝุ่นและมลพิษได้ง่าย ช่วงที่วิกฤตฝุ่นที่สุดจะเป็นช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ ดังนั้น เมื่อโควิดจะยังไม่ไป และฝุ่นกำลังจะมา หน้ากากอนามัยยังสำคัญ เพื่อลดความเสี่ยงโรคระบบทางเดินหายใจ ทั้งนี้ กทม.เตรียมรับมือกับปัญหาระลอกใหม่และทำอะไรเพื่อแก้ไขปัญหาไปแล้วบ้าง โดยได้ร่วมมือกับขสมก. ตรวจวัดควันดำรถโดยสารประจำทาง ก่อนนำออกมาให้บริการประชาชนบนถนน, กำชับโครงการก่อสร้างทุกพื้นที่ เคร่งครัดมาตรการป้องกันฝุ่น, เดินหน้าโครงการถนนอากาศสะอาด 1 เขต 1 ถนนสะอาด ภายใต้ 6 มาตรการ 12 กิจกรรม เช่น ควบคุมมลพิษที่แหล่งกำเนิด หมั่นทำความสะอาดถนน เพิ่มพื้นที่สีเขียวเน้นต้นไม้ดูดซับฝุ่น และจัดการจราจรลดการสะสมของรถ ล้างทำความสะอาดถนนและสะพานลอยเป็นประจำ, ส่งเสริมประชาชนใช้รถขนส่งมวลชนสาธารณะ โดยเชื่อมต่อการเดินทางแบบล้อ ราง เรือ ให้ถึงกันมากที่สุด, ปลูกไม้ยืนต้น 2 ฝั่งถนนที่สร้างใหม่ และปลูกต้นไม้ช่วยดูดซับฝุ่นบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าในเส้นทางต่างๆ ให้มากที่สุด, จัดทำแผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ช่วงเดือน ธ.ค. 63 – เม.ย. 64 ซึ่งอยู่ในช่วงวิกฤตฝุ่นละออง PM2.5 เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปัญหาฝุ่นละอองในอากาศน้อยที่สุด, ติดตั้งสถานีตรวจวัดคุณภาพอากาศ จำนวน 50 สถานี ครอบคลุมพื้นที่ 50 สำนักงานเขต และจะติดตั้งเพิ่มในสวนสาธารณะของกทม.อีก 20 แห่ง ซึ่งคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในเดือน ธ.ค.นี้ รวมทั้งจัดทำแอปพลิเคชัน AirBKK ตรวจเช็คสภาพฝุ่น PM 2.5 ในพื้นที่ที่อยู่ หรือกำลังจะเดินทางไปในพื้นที่นั้นๆ เพื่อประเมินความเสี่ยงและคำแนะนำในการป้องกันตนเองในเบื้องต้นได้ ดาวน์โหลดได้แล้วทั้งระบบ android และ ios โดยระบบแอนดรอยด์ https://play.google.com/store/apps/details?id=com.airbkk ระบบ ios https://apps.apple.com/th/app/airbkk/id1499044046?l=th หรือจะดูรายงานคุณภาพอากาศจากเว็บไซต์ www.bangkokairquality.com ก็ได้เช่นเดียวกัน