วันที่ 1 ต.ค. 2563 เวลา 09.30 น. ณ วิหารหลวงปู่วัดแก่งศิลา ในเขตเทศบาลตำบลสังคม อ.สังคม จ.หนองคาย นายยุทธนา ศรีตะบุตร นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย มอบหมายให้ ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย เป็นประธานเปิดการแข่งขันเรือยาวประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2563 โดยมี นายบุญเรียง บุตรศรี นายกเทศมนตรีตำบลสังคม กล่าวรายงาน มี นายชัยวัฒน์ คำสรดี รองนายกเทศมนตรีตำบลสังคม ,ส.ต.ท.ประพล มีสติ ปลัดเทศบาลตำบลสังคม ,ผู้บริหารเทศบาลตำบลสังคม ,หัวหน้าส่วนราชการ ,ผู้บริหารสถานศึกษา ,สมาชิกสภาเทศบาลตำบลสังคม ประชาชน นักเรียน นักศึกษา ร่วมในพิธีจำนวนมาก
นายบุญเรียง บุตรศรี นายกเทศมนตรีตำบลสังคม กล่าวว่าการจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวของอำเภอสังคมได้กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง วันที่ 3 ตุลาคม 2563โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าทางประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูงานประเพณีออกพรรษาให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อให้วัฒนธรรมไทยมีส่วนช่วยพัฒนา เศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่นให้เจริญให้หน่วยงานในภาครัฐ เอกชน ประชาชนในท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เป็นการเผยแพร่และสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น สนองนโยบายรัฐบาลในการจัดกิจกรรมส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างไทย – ลาว
สำหรับการแข่งขันเรือยาว ในครั้งนี้จัดให้มีการแข่งขันเรือทั้งหมด 2 ประเภท คือการแข่งขันเรือยาวประเภทหญิงทั่วไป 30 ฝีพาย จำนวน 7 ทีม ได้แก่ เรือธิดาไหลทอง ,เรือนางสาวโปงทอง ,เรือนางสาวลำดวน ,เรือศรปทุมทอง ,เรือเทพพยับนาวา ,เรือบรรพตนาวา และเรือคีรีวงกต และ การแข่งขันเรือยาวประเภทชายทั่วไป 30 ฝีพาย จำนวน 10 ทีม ได้แก่ เรือหนุ่มตังเซน M150 ,เรือธิดาไหลทอง ,เรือนางสาวลำดวน ,เรือศรปทุมทอง ,เรือคีรีวงกต ,เรือบรรพตนาวา ,เรือนางสาวสมพรนาวา ,เรือเทพพยับนาวา ,เรือเทพภูทอง ,เรือนางสาวโปงทอง
ในการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ตลอดจนประชาชนชาวอำเภอสังคม และได้รับการสนับสนุน จากห้างร้านต่างๆ และงบประมาณจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย จำนวนเงิน 50,000 บาท
ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า รู้สึกยินดี และภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด การแข่งขันเรือยาวประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2563 ในวันนี้ ดีใจที่ได้เห็นความพร้อมเพรียง ความสามัคคีของพี่น้องในชุมชน “การจัดงาน การแข่งขันเรือยาวถือเป็นประเพณีอันสำคัญของลุ่มน้ำโขง ขอชื่นชมเทศบาลตำบลสังคมที่เป็นเจ้าภาพและได้เล็งเห็นความสำคัญและคุณค่าทางประเพณีออกพรรษาให้คงอยู่ตลอดไป ในโอกาสนี้ขอให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเรือยาว มีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีความสนุกสนาน ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามสืบต่อไป ขอขอบคุณ ทุกฝ่าย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้มาร่วมการแข่งขันเรือยาวของชาวอำเภอสังคมในครั้งนี้ ซึ่งได้รับคำยกย่องชมเชยมาตลอด ว่าคณะกรรมการดำเนินการแข่งขันของอำเภอสังคม เป็นคณะกรรมการที่จัดการแข่งขันได้อย่าง บริสุทธิ์ ยุติธรรม ขอให้พวกเรารักษามาตรฐานการดำเนินงานนี้ ให้คงไว้ตลอดไป เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง
ตลอดจนนักท่องเที่ยว ที่ได้มาเที่ยว มาชมงานของชาวอำเภอสังคมในครั้งนี้” ดร.สมเกียรติ กล่าว
ด้าน นายชัยวัฒน์ คำสรดี รองนายกเทศมนตรีตำบลสังคม กล่าวถึงประวัติการแข่งขันเรือยาวของอำเภอสังคม ว่าการแข่งขันเรือของชาวอำเภอสังคมเมื่อ 20 – 30 ปี ให้หลังที่ผ่านมา ชาวอำเภอสังคมได้ขึ้นตรงอำเภอศรีเชียงใหม่ การแข่งขันเรือได้เริ่มจากการพายเรือกีบ เรือกุน ซึ่งมีขนาด 5 -7 เมตร ซึ่งเป็นเรือขุดใช้ในการทอหาปลาของชาวบ้านที่ตั้งตามแนวลำน้ำโขง ห้วยค้อ ห้วยสังคม ห้วยน้ำโสมและฝั่งลาว จะมีการพายเรือแข่งกันในช่วงวันออกพรรษาของทุกปี วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความสนุกสนานในวันออกพรรษา จากนั้นก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราไม่มีถนนเหมือนปัจจุบัน การเดินทางไปอำเภอศรีเชียงใหม่ หรือ อำเภอท่าบ่อ จะต้องเดินทางโดยทางเรือท่อ เรือยนต์ หรือแพไม้เหี้ย เมื่อไปถึงอำเภอศรีเชียงใหม่หรืออำเภอท่าบ่อ นำไม้ที่ใช้ร่องแพไปขายตอนกับนั่งเรือกลับมา จากอดีตงานแข่งเรือของอำเภอศรีเชียงใหม่ จัดบริเวณวัดกลาง จะเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ มีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไต่ถัง ต่อมาเมื่อได้แยกเป็นกิ่งอำเภอสังคม (ปี 2509) มีตำแหน่ง หัวหน้าส่วนราชการ มาประจำที่กิ่งอำเภอ ส่วนฝ่ายสงฆ์ คือ (พระครูสังคมคนารักษ์) เป็นเจ้าคณะอำเภอสังคม จำวัดที่บริเวณจุดตัดสินเรือ วัดแก่งศิลาเป็นจุดตัดสิน ซึ่งได้ถูกน้ำกัดเซาะพังจมน้ำไปหมด ได้ร่วมกันเชิญชวนผู้นำนำเรือมาแข่งขันกัน มีจำนวน 5 -10 ลำ สูงขึ้นเรื่อย ๆ
การแข่งขันเรือก็ได้สืบต่อกันมาโดยความเมตตาจากเจ้าคณะอำเภอสังคม หัวหน้าส่วนราชการ กรรมการสุขาภิบาล ทำการแข่งเรือร่วมแรงร่วมใจกันสืบทอดกันมา ในวันรุ่งขึ้นเป็นวันตักบาตรเทโวโรหนะ(วันออกพรรษา) ได้สืบทอดกันมา พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเรือใหญ่ เป็นเรือขนาดกลาง จัดงานวันเดียวเสร็จคือ วัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุก ๆ ปี มีรางวัลเพียงนิดเพียงหน่อยทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นท่านนายอำเภอสังคมในอดีต หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอสังคม ได้เน้นความสามัคคี ความร่วมแรงร่วมใจให้สมว่าอำเภอสังคม จากฝีพายประเภทชาย ประเภทหญิง 20 – 35 ฝีพาย ให้มีความรัก และส่งเสริมประเพณีสืบสานกันมาให้มีความทดทน โดยใช้จุดปล่อยเรือ ณ การประปาส่วนภูมิภาคอำเภอสังคม มาตัดสินที่วัดแก่งศิลาเก่า
เมื่อปี 2526 สุขาภิบาลอำเภอสังคม ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลสังคม คณะผู้บริหารได้มองเห็นความสำคัญ การแข่งขันเรือยาวเป็นสำคัญ ได้ย้ายจุดปล่อยจาก การประปาส่วนภูมิภาค มาปล่อยหน้าวัดหายโศกบ้านสังคม ตัดสินเรือแข่งที่หน้าอำเภอสังคม (ตลาดสดปัจจุบัน)ปี 2535 มีการเปลี่ยนแปลง มีการเลือกตั้งคณะกรรมการเทศบาลตำบลสังคม คณะบริหาร ได้ประสานในการสืบสานงานประเพณี การแข่งขันเรือร่วมกันท่านนายอำเภอสังคม เราน่าจะจัดงานวันออกพรรษาและจัดงานกล้วยน้ำว้า ชมบั้งไฟพญานาคเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอสังคมในวันออกพรรษา ให้เป็นงานยิ่งใหญ่ของอำเภอสังคม (นายอำเภอสังคม ชื่อนายธีระกุล เอี่ยมอำภา นายกเทศมนตรี ชื่อ นายนิเวศน์ แก่นพรหม) ได้นำพาพี่น้องจัดงานให้ยิ่งใหญ่ เรียนเชิญพี่น้องจาก สปป.ลาว มาร่วมแข่งขัน โดยจัดให้มีเรือประเภทหญิงมาตั้งแต่ปี 2535 และได้จัด 3 วัน คือ วันแรกแข่งเรือยาวประเภทชายภายใน วันที่สองแข่งเรือประเภทหญิงไทย – ลาว วันที่สามแข่งเรือยาวทั่วไปชายไทย – ลาว โดยย้ายจุดตัดสินเป็นบริเวณจุดชมวิวที่เทศบาลตำบลสังคมสร้างขึ้น ณ วัดแก่งศิลาเก่าเช่นเดิมนับว่าเป็นสิ่งที่ดีของพี่น้องชาวบ้านแก้งไก่ (แข่งเรือแก้งไก่ บุญบั้งไฟบ้านเจื้อง สงกรานต์บ้านสังคม)
ปัจจุบันการแข่งขันเรือยาวประจำปีของอำเภอสังคม เทศบาลตำบลสังคม เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ จุดประกายในการแข่งขันเรือยาวพร้อมชิงเงินสด ถ้วยรางวัล เทศบาลตำบลสังคม จัดได้ดีมากเป็นผลให้องค์การบริหารส่วนตำบลสังคม นำไปขยายผลสู่การแข่งขันเรือชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในวันห่อข้าวสากของทุกปี ขององค์การบริหารส่วนตำบลสังคม
ด้วยคุณภาพและมาตรฐานในการจัดงานและการบริหารของเทศบาลตำบลสังคม อาทิเช่น คณะกรรมการจัดการแข่งขัน คณะกรรมการตัดสินตลอดผู้จัดการเรือ ฝีพาย ชุมชน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างให้ความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ และเอกชน การจัดงานเทศกาลออกพรรษาแข่งเรือยาวของเทศบาลตำบลสังคม ชมบั้งไฟพญานาค เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งต่อพี่น้องที่มาเที่ยวงาน ชมงานจนถึงปัจจุบัน.
นายบุญเรียง บุตรศรี นายกเทศมนตรีตำบลสังคม กล่าวว่าการจัดงานประเพณีแข่งขันเรือยาวของอำเภอสังคมได้กำหนดจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม ถึง วันที่ 3 ตุลาคม 2563โดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อให้ประชาชนเกิดความตระหนักและเห็นคุณค่าทางประเพณีวัฒนธรรมของท้องถิ่น เพื่อส่งเสริมและฟื้นฟูงานประเพณีออกพรรษาให้คงอยู่ตลอดไป เพื่อให้วัฒนธรรมไทยมีส่วนช่วยพัฒนา เศรษฐกิจสังคมในท้องถิ่นให้เจริญให้หน่วยงานในภาครัฐ เอกชน ประชาชนในท้องถิ่น ได้มีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรม เป็นการเผยแพร่และสนับสนุนส่งเสริมการท่องเที่ยวในท้องถิ่น สนองนโยบายรัฐบาลในการจัดกิจกรรมส่งเสริมประเพณีท้องถิ่น รวมทั้งเพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธไมตรีระหว่างไทย – ลาว
สำหรับการแข่งขันเรือยาว ในครั้งนี้จัดให้มีการแข่งขันเรือทั้งหมด 2 ประเภท คือการแข่งขันเรือยาวประเภทหญิงทั่วไป 30 ฝีพาย จำนวน 7 ทีม ได้แก่ เรือธิดาไหลทอง ,เรือนางสาวโปงทอง ,เรือนางสาวลำดวน ,เรือศรปทุมทอง ,เรือเทพพยับนาวา ,เรือบรรพตนาวา และเรือคีรีวงกต และ การแข่งขันเรือยาวประเภทชายทั่วไป 30 ฝีพาย จำนวน 10 ทีม ได้แก่ เรือหนุ่มตังเซน M150 ,เรือธิดาไหลทอง ,เรือนางสาวลำดวน ,เรือศรปทุมทอง ,เรือคีรีวงกต ,เรือบรรพตนาวา ,เรือนางสาวสมพรนาวา ,เรือเทพพยับนาวา ,เรือเทพภูทอง ,เรือนางสาวโปงทอง
ในการจัดงานครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากส่วนราชการต่าง ๆ ตลอดจนประชาชนชาวอำเภอสังคม และได้รับการสนับสนุน จากห้างร้านต่างๆ และงบประมาณจาก องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย จำนวนเงิน 50,000 บาท
ดร.สมเกียรติ ตระกูลฟาร์มธวัช รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองคาย กล่าวว่า รู้สึกยินดี และภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง ที่ได้มาเป็นประธานในพิธีเปิด การแข่งขันเรือยาวประเพณีออกพรรษา ประจำปี 2563 ในวันนี้ ดีใจที่ได้เห็นความพร้อมเพรียง ความสามัคคีของพี่น้องในชุมชน “การจัดงาน การแข่งขันเรือยาวถือเป็นประเพณีอันสำคัญของลุ่มน้ำโขง ขอชื่นชมเทศบาลตำบลสังคมที่เป็นเจ้าภาพและได้เล็งเห็นความสำคัญและคุณค่าทางประเพณีออกพรรษาให้คงอยู่ตลอดไป ในโอกาสนี้ขอให้ผู้เข้าร่วมแข่งขันเรือยาว มีน้ำใจ รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย มีความสนุกสนาน ดำรงไว้ซึ่งวัฒนธรรม ประเพณีอันดีงามสืบต่อไป ขอขอบคุณ ทุกฝ่าย ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ที่ได้มาร่วมการแข่งขันเรือยาวของชาวอำเภอสังคมในครั้งนี้ ซึ่งได้รับคำยกย่องชมเชยมาตลอด ว่าคณะกรรมการดำเนินการแข่งขันของอำเภอสังคม เป็นคณะกรรมการที่จัดการแข่งขันได้อย่าง บริสุทธิ์ ยุติธรรม ขอให้พวกเรารักษามาตรฐานการดำเนินงานนี้ ให้คงไว้ตลอดไป เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเยาวชนรุ่นหลัง
ตลอดจนนักท่องเที่ยว ที่ได้มาเที่ยว มาชมงานของชาวอำเภอสังคมในครั้งนี้” ดร.สมเกียรติ กล่าว
ด้าน นายชัยวัฒน์ คำสรดี รองนายกเทศมนตรีตำบลสังคม กล่าวถึงประวัติการแข่งขันเรือยาวของอำเภอสังคม ว่าการแข่งขันเรือของชาวอำเภอสังคมเมื่อ 20 – 30 ปี ให้หลังที่ผ่านมา ชาวอำเภอสังคมได้ขึ้นตรงอำเภอศรีเชียงใหม่ การแข่งขันเรือได้เริ่มจากการพายเรือกีบ เรือกุน ซึ่งมีขนาด 5 -7 เมตร ซึ่งเป็นเรือขุดใช้ในการทอหาปลาของชาวบ้านที่ตั้งตามแนวลำน้ำโขง ห้วยค้อ ห้วยสังคม ห้วยน้ำโสมและฝั่งลาว จะมีการพายเรือแข่งกันในช่วงวันออกพรรษาของทุกปี วัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความสนุกสนานในวันออกพรรษา จากนั้นก็มีการพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเราไม่มีถนนเหมือนปัจจุบัน การเดินทางไปอำเภอศรีเชียงใหม่ หรือ อำเภอท่าบ่อ จะต้องเดินทางโดยทางเรือท่อ เรือยนต์ หรือแพไม้เหี้ย เมื่อไปถึงอำเภอศรีเชียงใหม่หรืออำเภอท่าบ่อ นำไม้ที่ใช้ร่องแพไปขายตอนกับนั่งเรือกลับมา จากอดีตงานแข่งเรือของอำเภอศรีเชียงใหม่ จัดบริเวณวัดกลาง จะเป็นการจัดงานที่ยิ่งใหญ่ มีชิงช้าสวรรค์ ม้าหมุน รถไต่ถัง ต่อมาเมื่อได้แยกเป็นกิ่งอำเภอสังคม (ปี 2509) มีตำแหน่ง หัวหน้าส่วนราชการ มาประจำที่กิ่งอำเภอ ส่วนฝ่ายสงฆ์ คือ (พระครูสังคมคนารักษ์) เป็นเจ้าคณะอำเภอสังคม จำวัดที่บริเวณจุดตัดสินเรือ วัดแก่งศิลาเป็นจุดตัดสิน ซึ่งได้ถูกน้ำกัดเซาะพังจมน้ำไปหมด ได้ร่วมกันเชิญชวนผู้นำนำเรือมาแข่งขันกัน มีจำนวน 5 -10 ลำ สูงขึ้นเรื่อย ๆ
การแข่งขันเรือก็ได้สืบต่อกันมาโดยความเมตตาจากเจ้าคณะอำเภอสังคม หัวหน้าส่วนราชการ กรรมการสุขาภิบาล ทำการแข่งเรือร่วมแรงร่วมใจกันสืบทอดกันมา ในวันรุ่งขึ้นเป็นวันตักบาตรเทโวโรหนะ(วันออกพรรษา) ได้สืบทอดกันมา พัฒนาขึ้นมาเรื่อย ๆ จากเรือใหญ่ เป็นเรือขนาดกลาง จัดงานวันเดียวเสร็จคือ วัน ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ของทุก ๆ ปี มีรางวัลเพียงนิดเพียงหน่อยทั้งนี้ทั้งนั้นไม่ว่าจะเป็นท่านนายอำเภอสังคมในอดีต หลวงพ่อเจ้าคณะอำเภอสังคม ได้เน้นความสามัคคี ความร่วมแรงร่วมใจให้สมว่าอำเภอสังคม จากฝีพายประเภทชาย ประเภทหญิง 20 – 35 ฝีพาย ให้มีความรัก และส่งเสริมประเพณีสืบสานกันมาให้มีความทดทน โดยใช้จุดปล่อยเรือ ณ การประปาส่วนภูมิภาคอำเภอสังคม มาตัดสินที่วัดแก่งศิลาเก่า
เมื่อปี 2526 สุขาภิบาลอำเภอสังคม ได้ยกฐานะเป็นเทศบาลตำบลสังคม คณะผู้บริหารได้มองเห็นความสำคัญ การแข่งขันเรือยาวเป็นสำคัญ ได้ย้ายจุดปล่อยจาก การประปาส่วนภูมิภาค มาปล่อยหน้าวัดหายโศกบ้านสังคม ตัดสินเรือแข่งที่หน้าอำเภอสังคม (ตลาดสดปัจจุบัน)ปี 2535 มีการเปลี่ยนแปลง มีการเลือกตั้งคณะกรรมการเทศบาลตำบลสังคม คณะบริหาร ได้ประสานในการสืบสานงานประเพณี การแข่งขันเรือร่วมกันท่านนายอำเภอสังคม เราน่าจะจัดงานวันออกพรรษาและจัดงานกล้วยน้ำว้า ชมบั้งไฟพญานาคเป็นเอกลักษณ์ของอำเภอสังคมในวันออกพรรษา ให้เป็นงานยิ่งใหญ่ของอำเภอสังคม (นายอำเภอสังคม ชื่อนายธีระกุล เอี่ยมอำภา นายกเทศมนตรี ชื่อ นายนิเวศน์ แก่นพรหม) ได้นำพาพี่น้องจัดงานให้ยิ่งใหญ่ เรียนเชิญพี่น้องจาก สปป.ลาว มาร่วมแข่งขัน โดยจัดให้มีเรือประเภทหญิงมาตั้งแต่ปี 2535 และได้จัด 3 วัน คือ วันแรกแข่งเรือยาวประเภทชายภายใน วันที่สองแข่งเรือประเภทหญิงไทย – ลาว วันที่สามแข่งเรือยาวทั่วไปชายไทย – ลาว โดยย้ายจุดตัดสินเป็นบริเวณจุดชมวิวที่เทศบาลตำบลสังคมสร้างขึ้น ณ วัดแก่งศิลาเก่าเช่นเดิมนับว่าเป็นสิ่งที่ดีของพี่น้องชาวบ้านแก้งไก่ (แข่งเรือแก้งไก่ บุญบั้งไฟบ้านเจื้อง สงกรานต์บ้านสังคม)
ปัจจุบันการแข่งขันเรือยาวประจำปีของอำเภอสังคม เทศบาลตำบลสังคม เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบ จุดประกายในการแข่งขันเรือยาวพร้อมชิงเงินสด ถ้วยรางวัล เทศบาลตำบลสังคม จัดได้ดีมากเป็นผลให้องค์การบริหารส่วนตำบลสังคม นำไปขยายผลสู่การแข่งขันเรือชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ในวันห่อข้าวสากของทุกปี ขององค์การบริหารส่วนตำบลสังคม
ด้วยคุณภาพและมาตรฐานในการจัดงานและการบริหารของเทศบาลตำบลสังคม อาทิเช่น คณะกรรมการจัดการแข่งขัน คณะกรรมการตัดสินตลอดผู้จัดการเรือ ฝีพาย ชุมชน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างให้ความร่วมมือทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ และเอกชน การจัดงานเทศกาลออกพรรษาแข่งเรือยาวของเทศบาลตำบลสังคม ชมบั้งไฟพญานาค เป็นที่ประจักษ์ชัดแจ้งต่อพี่น้องที่มาเที่ยวงาน ชมงานจนถึงปัจจุบัน.