ผศ.วันวิชิต บุญโปร่ง อาจารย์ประจำคณะรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรังสิต โพสต์ผ่านเฟชบุ๊ก wanwichit boonprong ระบุว่า...วิเคราะห์แบบตื้นๆ ต่อกรณี โรงเรียนดังย่าน ราชพฤกษ์ ตามสื่อข้อมูลและข่าวสารที่ได้รับ ตลอดสัปดาห์ผมขอแยกวิเคราะห์ออกเป็นทั้งหมด 3 ส่วน ดังคำมุมมองดังนี้ ส่วนแรก ขอวิเคราะห์ต่อวิธีคิดผู้ก่อตั้งโรงเรียน ดังนี้ 1. ตามทฤษฎีพฤติกรรมของผู้นำ (Blake& Muton) ลักษณะการสัมภาษณ์ของคุณพิบูลย์ ผู้ก่อตั้ง ไม่ต่างกับ “เต่า” ในทฤษฎีที่ว่า คือโยนความผิดให้ผู้อื่น โทษที่ตัวบุคคล ไม่เคยโทษระบบ ปล่อยปละละเลยปัญหาจนบานปลาย? 2. การดูถูก ผู้ปกครองว่าเปรียบเสมือนม็อบ ซึ่งนี่ก็คือวิธีคิดที่ใช้ภูมิรัฐศาสตร์ทางอารมณ์ มาตัดสินเพียงแค่เห็น ผู้ปกครองใส่เสื้อแดง ? 3. ใช้เงินแก้ปัญหา มากกว่าเยียวทางความรู้สึก ใช้เงินแก้ปัญหาเพื่อจะได้จบไวๆ ไม่เคยแสดงความรับผิดชอบ รับผิดขอขมาต่อสังคมอย่างตรงไปตรงมา อ้างว่าทำงานมานานกว่า 56 ปีแถมเป็นผู้บริหารสถานศึกษาดีเด่นประจำปี 59 เสียด้วย มองว่าผู้ปกครองคือปัญหา?? ส่วนที่สอง: ครู และบุคลากรของโรงเรียน 1. ผมเคยดูละครซีรีส์เกาหลี sky castle ที่ผู้ปกครองอยากให้บุตรหลานเข้าเรียนที่ดีๆ ถ้าคุณมีเงินจ่าย แน่นอนย่อมได้รับการปรนเปรอเอาใจจากครูเป็น พิเศษ อย่าคิดว่าผู้ปกครองที่ส่งลูกเรียนสารสาสน์ จะรวยทุกคน มันไม่ใช่ ค่าเทอมทั้งหลักสูตรภาษาไทย หรือทวิภาษา ก็ต่างกันแล้ว ย่อมเป็นช่องทางให้ครู และครูพี่เลี้ยงย่อมเลือกปฏิบัติได้ ดังที่มีข่าวว่าครูแอบขโมยข้อสอบ มาสอนพิเศษตัวต่อตัว กับครอบครัวที่พร้อมจ่ายให้บุตรหลาน จะได้มีคะแนนสอบดีๆ? 2. ในละคร sky castle คนเป็น coach หรือครู มีความริษยาในความสมบูรณ์ของคนที่ความสุข มีฐานะร่ำรวยของผู้ปกครองนะครับซึ่งที่สารสาสน์ ครูพี่เลี้ยงหลายคน อาจมีความคิดและเข้าข่ายความรู้สึกแบบนั้น เงินเดือนครูพี่เลี้ยงเพียง 9,000-10,000 บาท ย่อมทำให้เกิดความอัตคัดฝืดเคืองในครัวเรือน ทำงานตามเงินเดือน ไม่ใช่เพราะความรักในวิชาชีพ การระบายความกดดันในลักษณะใช้ความรุนแรงไปลงที่เด็กนักเรียน ด้วยวิธีต่างๆนานา. ย่อมสะท้อนถึงความเก็บกด เงินเดือนน้อยแต่อยากทำงานสบาย ไม่ให้เด็กทานน้ำ ไปปัสสาวะ แกล้งให้เด็กมีเวลากินข้าวให้น้อย ความริษยา หรือทำร้ายเด็กเพื่อระบายอารมณ์ผมคิดเพียงแค่คิดว่า การกระทำแบบนี้เพียงความอยากให้ผู้ปกครองที่มีฐานะได้รับความเจ็บปวดอย่างที่ตัวเองบ้าง พวกครู-ครูพี่เลี้ยง มีปัญหาภาวะทางจิตใจครับ? ส่วนที่สาม : ระบบของโรงเรียน 1.การที่ครูไม่มีใบประกอบวิชาชีพ หลายคนแสดงให้เห็นวิธีการกดเงินเดือน จะได้ไม่ต้องจ่ายค่าวิชาชีพเพิ่ม ครูทำผิดก็แค่ไล่ออก การกำหนดวุฒิ-เงินเดือน ให้ต่ำ มันไม่มีทางจะได้คนที่มีวุฒิและความพร้อมทางวุฒิภาวะทางอารมณ์ที่สูงกว่า จะเข้ามาทำงานที่สารสาสน์ ในเมื่อค่าตอบแทนเงินเดือนที่น้อยมากๆ ? 2. การรับครูต่างชาติที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา ใช้วิธีการจ้างถูกเข้าว่า อย่างนายมาวิน ครู(นักท่องเที่ยววีซ่าหมด) ถูกจ้างมาเงินเดือนเพียง 20,000 บาท ทั้งสองกรณีไม่ว่า ครูต่างชาติ ครูพี่เลี้ยง ไม่มีเกณฑ์มาตรฐานรับคัดเลือกคนมาทำงานด้านวิชาชีพครูเลย และคงกระทำมาอย่างยาวนาน ค่าเทอมแพง แต่เงินเดือนน้อย บุคลากรดีๆจึงเหลือน้อย? 3. แม้การติดตั้งกล้องวงจรปิดแสดงว่าระดับความปลอดภัยต่ำ เพราะไม่มีฝ่าย monitor หรือทีมสอดส่องพฤติกรรมครู-นักเรียน มันจึงปรากฏพฤติกรรมที่เหิมเกริม กับนักเรียนตัวเล็กหลายๆ พอสังคมจับได้ก็อ้างว่า โรงเรียนไม่ได้นิ่งนอนใจ แสดงว่าความรับผิดชอบของผู้บริหารโรงเรียนต่ำมาก ไม่แม้แต่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้เลย? สุดท้าย ผู้บริหารระดับสูงของสารสาสน์ ไม่ได้ทำธุรกิจเพื่อการศึกษาด้วยใจรัก แต่มองมันว่ามันคือกำไร และไม่มีวันขาดทุน