ชาวนครศรีธรรมราชช๊อคศาลหลักเมืองนครศรีธรรมราชถูกดัดแปลงต่อเติมเงียบ “คิงพาวเวอร์”จัดให้-ทำลายอัตลักษณ์เดิมเพิ่มเสาหินก่อนคล้ายแบบโรมันบุกร้องผู้ว่าราชการจังหวัดระงับการก่อสร้างทันที-ตั้งคำถามเป็นการสร้างแอบแฝงหนุนดวงของนักการเมือง-นักธุรกิจคนดังหรือไม่
ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายปวิช อินรินทร์ นักธุรกิจชาวนครศรีธรรมราช และคณะได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียนกับนายขำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจสั่งยุติโครงการบูรณะหลักเมืองนครศรีธรรมราชทันที เนื่องจากพบว่าโครงการดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นการบูรณะแต่กลายเป็นการลอบดัดแปลงตกแต่งต่อเติมด้วยรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการทำลายอัตลักษณ์แบบเดิมในการก่อสร้างตามแบบศรีวิชัย รวมทั้งหลักความเชื่อจักรวาลทัศน์ และตำแหน่งดวงดาว ที่อยู่บนเพดานเหนือเสาหลักเมืองถูกรื้อออกจนหมด
นายปวิช ระบุว่าศาลหลักเมืองถูกปิดตายด้วยข้ออ้างการบูรณะ แต่ด้วยความสงสัยจึงลอบเข้าไปบันทึกภาพจนพบความจริงว่าไม่ได้เป็นการบูรณะ แต่กลายเป็นก่อสร้างต่อเติมใหม่เช่นการนำเอาเสาหินอ่อนคล้ายเสาแบบโรมันจำนวน 12 ต้นมาต่อเติมขึ้น พร้อมทั้งสร้างพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ขึ้นประดิษฐานบนซุ้มเรือนยอดศาลหลักเมืองอย่างผิดปกติแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และที่น่าตกใจกว่านั้นคือนำเอาพระพุทธรูปปางลีลาขึ้นตั้งประดิษฐานเหนือเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งบนยอดเสาหลักเมืององค์นี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจิมและทรงพระสุหร่ายด้วยพระองค์เอง และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 ทรงผูกผ้าแพร ซึ่งการนำเอาพระพุทธรูปมาประดิษฐานบนยอดไม่ถูกแบบแผนแบบโบราณทั้งเดิม ซึ่งหลักเมืองเป็นเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับเทพเทวดาผู้ปกปักษ์รักษาเมือง เป็นความเชื่อแบบเทวนิยมแห่งราชอาณาจักร ส่วนพระพุทธรูปนั้นเป็นส่วนของพุทธจักร ซึ่งผิดแบบแผนโบราณโดยสินเชิง รวมทั้งการทำบานประตูขึ้นใหม่โดยมีการสลักองค์เทพจตุคาม ถือว่าไม่ควรอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ยุติการทำลายศาลหลักเมืองแบบดั้งเดิม และรื้อถอนการต่อเติมเข้าไปใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะเสาหินอ่อนที่เรียกว่าเสานางค้ำ และห้ามไม่ให้สร้างประตูโลหะที่เรียกว่า ประตูโลหะศาลหลักเมืองธงชัย
ขณะที่นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เห็นด้วยว่าหากมีการบูรณะนั้นควรต้องอยู่รูปแบบอัตลักษณ์อย่างเดิมไม่ควรตกแต่งเพิ่มเติมใดๆเข้าไป ซึ่งจะส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา
สำหรับศาลหลักเมืองในปัจจุบันนั้นอยู่ในความดูแลของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีนายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ เป็นนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน และผู้ที่ออกทุนในการบูรณะศาลหลักเมืองคือนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มเครือธุรกิจคิงพาวเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ โดยก่อนหน้านี้ เจ้าคุณธงชัย หรือพระพรหมมังคลาจารย์ มาประกอบพิธีปลุกเสกผ้ายันต์ รวมทั้งสร้างพระเครื่องพังพกาฬ และมีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้าร่วมพิธีด้วยกันหลายครั้ง โดยชาวนครศรีธรรมราช กลุ่มนี้ได้ตั้งคำถามถึงการดัดแปลงสภาพศาลหลักเมืองในครั้งนี้เป็นความต้องการในการสร้างเสริมหรือคำจุนดวงชะตาของนักธุรกิจ หรือนักการเมืองคนใดหรือไม่
ที่ศาลากลางจังหวัดนครศรีธรรมราช นายปวิช อินรินทร์ นักธุรกิจชาวนครศรีธรรมราช และคณะได้ทำหนังสือเข้าร้องเรียนกับนายขำเริญ ทิพญพงศ์ธาดา ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยมีนายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อให้ผู้ว่าราชการจังหวัดใช้อำนาจสั่งยุติโครงการบูรณะหลักเมืองนครศรีธรรมราชทันที เนื่องจากพบว่าโครงการดังกล่าวนั้นไม่ได้เป็นการบูรณะแต่กลายเป็นการลอบดัดแปลงตกแต่งต่อเติมด้วยรูปแบบใหม่ ซึ่งเป็นการทำลายอัตลักษณ์แบบเดิมในการก่อสร้างตามแบบศรีวิชัย รวมทั้งหลักความเชื่อจักรวาลทัศน์ และตำแหน่งดวงดาว ที่อยู่บนเพดานเหนือเสาหลักเมืองถูกรื้อออกจนหมด
นายปวิช ระบุว่าศาลหลักเมืองถูกปิดตายด้วยข้ออ้างการบูรณะ แต่ด้วยความสงสัยจึงลอบเข้าไปบันทึกภาพจนพบความจริงว่าไม่ได้เป็นการบูรณะ แต่กลายเป็นก่อสร้างต่อเติมใหม่เช่นการนำเอาเสาหินอ่อนคล้ายเสาแบบโรมันจำนวน 12 ต้นมาต่อเติมขึ้น พร้อมทั้งสร้างพระพุทธรูปปางลีลาองค์ใหญ่ขึ้นประดิษฐานบนซุ้มเรือนยอดศาลหลักเมืองอย่างผิดปกติแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน และที่น่าตกใจกว่านั้นคือนำเอาพระพุทธรูปปางลีลาขึ้นตั้งประดิษฐานเหนือเสาหลักเมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งบนยอดเสาหลักเมืององค์นี้พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ทรงเจิมและทรงพระสุหร่ายด้วยพระองค์เอง และสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชการที่ 10 ทรงผูกผ้าแพร ซึ่งการนำเอาพระพุทธรูปมาประดิษฐานบนยอดไม่ถูกแบบแผนแบบโบราณทั้งเดิม ซึ่งหลักเมืองเป็นเรื่องของความเชื่อเกี่ยวกับเทพเทวดาผู้ปกปักษ์รักษาเมือง เป็นความเชื่อแบบเทวนิยมแห่งราชอาณาจักร ส่วนพระพุทธรูปนั้นเป็นส่วนของพุทธจักร ซึ่งผิดแบบแผนโบราณโดยสินเชิง รวมทั้งการทำบานประตูขึ้นใหม่โดยมีการสลักองค์เทพจตุคาม ถือว่าไม่ควรอย่างยิ่ง ดังนั้นจึงเรียกร้องให้ยุติการทำลายศาลหลักเมืองแบบดั้งเดิม และรื้อถอนการต่อเติมเข้าไปใหม่ทั้งหมดโดยเฉพาะเสาหินอ่อนที่เรียกว่าเสานางค้ำ และห้ามไม่ให้สร้างประตูโลหะที่เรียกว่า ประตูโลหะศาลหลักเมืองธงชัย
ขณะที่นายสกล จันทรักษ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช เห็นด้วยว่าหากมีการบูรณะนั้นควรต้องอยู่รูปแบบอัตลักษณ์อย่างเดิมไม่ควรตกแต่งเพิ่มเติมใดๆเข้าไป ซึ่งจะส่งเรื่องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้พิจารณา
สำหรับศาลหลักเมืองในปัจจุบันนั้นอยู่ในความดูแลของเทศบาลนครนครศรีธรรมราช มีนายเชาว์นวัศ เสนพงศ์ เป็นนายกเทศมนตรีคนปัจจุบัน และผู้ที่ออกทุนในการบูรณะศาลหลักเมืองคือนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ประธานกลุ่มเครือธุรกิจคิงพาวเวอร์ และประธานสโมสรเลสเตอร์ซิตี้ โดยก่อนหน้านี้ เจ้าคุณธงชัย หรือพระพรหมมังคลาจารย์ มาประกอบพิธีปลุกเสกผ้ายันต์ รวมทั้งสร้างพระเครื่องพังพกาฬ และมีนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้าร่วมพิธีด้วยกันหลายครั้ง โดยชาวนครศรีธรรมราช กลุ่มนี้ได้ตั้งคำถามถึงการดัดแปลงสภาพศาลหลักเมืองในครั้งนี้เป็นความต้องการในการสร้างเสริมหรือคำจุนดวงชะตาของนักธุรกิจ หรือนักการเมืองคนใดหรือไม่