อุทาหรณ์หลังมีข่าวกินปอเปี๊ยะแช่เย็นหลายวัน อาหารเป็นพิษอาการรุนแรงจนช็อกเสียชีวิต ชี้นอกจากคุณค่าทางโภชนาการจะลดลงแล้ว หากเก็บไม่ถูกวิธี อันตรายถึงชีวิตได้
นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กล่าวว่า จากที่มีข่าวหญิงรายหนึ่ง กินปอเปี๊ยะที่เก็บไว้ในตู้เย็นนานกว่า 3 วัน ก่อนจะปวดท้องและท้องเสียอย่างรุนแรง สุดท้ายเสียชีวิตในห้องน้ำ สาเหตุคาดเกิดจากอาหารเป็นพิษท้องร่วงอย่างรุนแรงและอาเจียนจนร่างกายขาดน้ำเฉียบพลัน ทำให้ช็อกและเสียชีวิตนั้น ซึ่งปกติประชาชนส่วนใหญ่เมื่อกินอาหารสำเร็จรูปหรืออาหารที่ปรุงประกอบในปริมาณมากไม่หมด ก็นำไปเก็บไว้ในตู้เย็น แล้วนำไปอุ่นรับประทานในมื้อต่อไป โดยอาหารที่มีการอุ่นซ้ำซากหรือต้มตุ๋นนานเกิน 4 ชั่วโมงขึ้นไป จะมีโอกาสทำให้คุณค่าด้านโภชนาการลดลง จึงควรเลือกซื้อหรือปรุงอาหารแต่พอกินในแต่ะละมื้อ เพราะอาหารที่ปรุงสุกใหม่ คุณค่าโภชนาการจะมีมากกว่าอาหารที่อุ่นหลายๆ ครั้ง และไม่เสี่ยงบูดเสีย ส่งผลให้เสี่ยงอาหารเป็นพิษตามมาด้วย
สำหรับอาหารประเภทผักสด ผัดผัก ผักลวก นึ่ง ต้ม ถ้าเหลือแล้วนำไปเก็บไว้รับประทานมื้อต่อไปคุณค่าทางโภชนาการก็จะลดลง และรสชาติจะเปลี่ยนไป หากเก็บรักษาไม่ดีพอ อุณหภูมิไม่เหมาะสม จุลินทรีย์ที่ปนเปื้อนในระหว่างเก็บก็จะทำให้ท้องเสียหรือรุนแรงถึงขั้นอาหารเป็นพิษได้ ด จึงควรกินผักสดเป็นประจำอย่างน้อยมื้อละ 2 ทัพพี เพราะในผักมีวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร รวมทั้งสารต้านอนุมูลอิสระที่ดีต่อร่างกาย นอกจากนี้ การกินอาหารประเภทกะทิค้างคืนที่มีส่วนประกอบเป็นเนื้อสัตว์ หากเก็บรักษาไม่ดีพอหรืออุ่นด้วยความร้อนไม่ทั่วถึง อาจทำให้เน่าเสียได้เช่นเดียวกัน