ต้นกระธูปยักที่ชาวอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ สร้างขึ้นยังคงยิ่งใหญ่ สวยงาม วิจิตรการตา หาดูได้ยาก มีแห่งเดียวในโลก ในงานประเพณีบุญกระธูปออกพรรษา ประจำปี 2563 ก่อนนำไปจุดไฟในลูกตูมกา ถวายสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า เปิดงานอย่างอลังกาลตามแนวทางวิถีใหม่ แบบ New Normal วันนี้(29ก.ย.2563)​ ผู้สื่อข่าวรายงานว่านายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นายสาคร เถินมงคล นายอำเภอหนองบัวแดง นายพรศักดิ์ เจียรณัย อดีตผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ นำพี่น้องข้าราชการพ่อค้าประชาชนและนักเรียนนักศึกษา ร่วมเปิดความวิจิตรตระการตางประเพณีบุญกระธูปออกพรรษา ประจำปี 2563 งานประจำปีของชาวอำเภอหนองบัวแดง จ.ชัยภูมิ ที่ยังคงจัดยิ่งใหญ่ สวยงาม บนเกาะกลางถนนใจกลางอำเภอหนองบัวแดง จังหวัดชัยภูมิ ตามแนวทางวิถีใหม่ แบบ New Normal ทุกคนเข้าไปบริเวณจัดงานต้องผ่านจุดคัดกรอง ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 ชาวตำบลต่าง ๆ ทั้ง 9 ตำบล ได้พร้อมใจกันสร้างต้นกระธูปที่ยิ่งใหญ่สวยงาม วิจิตรการตา หาดูได้ยาก และใหญ่ที่สุดในโลก มีความสูงอย่างน้อย 6 เมตร มาตั้งอวดโชว์ความสวยงามและยิ่งใหญ่ตระการตา ทั้งนี้เพื่อให้ชาวพุทธศาสนา นักท่องเที่ยวได้ชมความสวยงามของต้นกระธูป ที่สร้างอย่างวิจิตรบรรจงของชาวบ้าน ซึ่งได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั้งในพื้นที่ ตัวจังหวัด ต่างจังหวัด และชาวต่างชาติ นำโทรศัพท์มือถือมาบันทึกภาพเซลฟี่เก็บความสวยงามถ่ายรูปคู่กับต้นกระธูปจำนวนมาก ซึ่งต้นกระธูปของชาวอำเภอหนองบัวแดง ล้วนแต่เป็นต้นกระธูปที่วิจิตร ตระการตา และสวยงาม ก่อนจะนำไปถวายและจุดตามวัดต่าง ๆ ในวันออกพรรษาในตอนค่ำ เป็นการเปิดงานโดยนายกอบชัย บุญอรณะ ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิ เป็นประธานเปิดงาน มีการแสดงการรำโชว์ความสวยงามและออนช่อยของสาวงามจากทั้ง 9 ตำบลกว่า 500 คน ที่บริเวณ ถนนใจกลางอำเภอหนองบัวแดง ชมการฟ้อนรำในชุดตำนานกระธูปหนองบัวแดง ต่อด้วยรำถวายพระยาภักดีชุมพล(แล)เจ้าเมืองชัยภูมิ ประกอบแสงสีเสียง จากสาวงามชาวอำเภอหนองบัวแดงกว่า 500 คน ตามตำนานก่อนออกพรรษาชาวบ้านจะหาเปลือกมะพร้าว นำมาตากให้แห้ง และขยี้เอาเฉพาะผงของกาบมะพร้าว แล้วพันด้วยกระดาษหนังสือพิมพ์หุ้มอีกทีด้วยกระดาษสีหรือกระดาษแก้วหลาก สีสัน ก่อนที่จะนำไปมัดเข้ากับก้านไม้มะพร้าว ก้านไม้ไผ่ จากนั้นจึงนำไปมัดห้อยกับก้านธูปที่เป็นเสมือนคันเบ็ด ทำไว้มาก ๆ เสร็จแล้วจึงจะนำเข้าไปเสียบเข้าไปรูรอบปล้องไม้ไผ่ ทำเป็นชั้นขึ้นไปเหมือนฉัตร ประดับตกแต่งงดงาม ก่อนที่จะนำออกไปจุดในวันเวียนเทียนออกพรรษา เพื่อถวายการสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากโปรดพุทธมารดา ชาวพุทธทั้งหลายต่างเฉลิมฉลอง ซึ่งเมื่อปีพุทธศักราช 2545 ชาวอำเภอหนองบัวแดงได้เล็งเห็นถึงคุณค่าของประเพณีแห่กระธูป จึงได้ร่วมกับชุมชนและวัดต่าง ๆ ที่เคยมีการทำต้นธูปและที่ยังไม่เคยทำต้นกระธูป ให้ร่วมกันประดิษฐ์ต้นกระธูป เพื่อเป็นการสืบสานประเพณีและเป็นหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวอำเภอหนองบัวแดง โดยใช้ชื่องานว่า งานประเพณีแห่บุญกระธูป ออกพรรษา เพื่อถวายการสักการะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่เสด็จลงมาจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ หลังจากโปรดพุทธมารดา ชาวพุทธทั้งหลายต่างเฉลิมฉลอง และจุดบูชาพระรัตนตรัย ในช่วงออกพรรษา ตั้งแต่วันขึ้น 14 ค่ำ เดือน 11 ชาวบ้านเรียกว่าจุดใต้น้ำมันน้อย วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 11 ชาวบ้านเรียก จุดใต้น้ำมันใหญ่ และวันแรม 1 ค่ำ เดือน 12 ชาวบ้านเรียกว่า ไต้น้ำมันล้างหางประทีป เปรียบเอาต้นธูปนี้ จุดแล้วย่อมส่งกลิ่นหอมฟุ้งขจรขจายไปยังทิศต่างๆ กลิ่นหอมนี้ย่อมเป็นที่ชื่นใจแก่มนุษย์ทั้งปวงที่ได้สัมผัสกลิ่น ย่อมเกิดปิติและความสุขความเบิกบาน เมื่อถึงเวลาที่จะจุดกระธูปนั้น ชาวบ้านจะทำภาชนะสำหรับจุดไฟมาใช้ในประเพณีนี้ โดยนำ "ลูกตูมกา” ที่มีลักษณะคล้ายส้ม มีเปลือกแข็ง นำมาผ่าครึ่ง เอาเนื้อออก แล้วใส่งาหรือใช้น้ำมันพืชเป็นเชื้อเพลิง ใส่ด้ายที่ควั่นเป็นรูปตีนกา เป็นชนวนในการจุดไฟ ในปีนี้งานจะมีไปจนถึงวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ก่อนที่จะนำต้นกระธูปไปจุดถวายตามวัดต่าง ๆ และจุดในช่วงเทศกาลออกพรรษา ประจำปี 2563 อีกต่อไปด้วย