วันที่ 27 ก.ค.63 ที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.นนทบุรี พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ สว.สส.ตม.จว.นนทบุรี ร.ต.อ.ศิริพงษ์ ศิริพูล รอง สว.ตม.จว.อยุธยา ช่วยราชการ ตม.นนทบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่ ตม.จว.นนทบุรี ได้รับการประสานการติดต่อขอเข้ามอบตัวจาก นายมาร์วิน ลิวานัก โอเรโฮล่า อายุ 25 ปี สัญชาติฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นครูสอนภาษาที่ปรากฏในคลิปว่าใช้ความรุนแรงด้วยการกระชากแขนเด็กอนุบาลในห้องครูจุ๋มด้วย โดยมีหลักฐานเป็นคลิปจากกล้องวงจรปิดมี่ผู้ปกครองรายหนึ่งนำมาเผยแพร่ จากการตรวจสอบเอกสารนายมาร์วิน ครูสอนภาษาอังกฤษชาวฟิลิปปินส์ พบว่าเดินทางเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว เมื่อวันที่ 26 ม.ค.63 จากนั้นได้ยื่นเอกสารขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ก.ย.63 เนื่องจากไม่สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้จากสถานการณ์โควิด 19 ซึ่งได้ยื่นเรื่องขออยู่ต่อจนถึงวันที่ 26 ต.ค.63 โดยเรื่องยังอยู่ในระหว่างรออนุมัติ เพื่ออยู่ต่อในประเทศไทย และนายมาร์วินได้ไปสมัครเป็นครูสอนภาษาอังกฤษที่ รร.สารสาสน์วิเทศ ราชพฤกษ์ โดยเรื่มงานแบบทดลองเมื่อวันที่ 16 ก.ค.63 ที่ผ่าน ได้รับค่าจ้างเป็นเงินเดือนละ 20,000 บาท โดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ซึ่งทางโรงเรียนแจ้งว่าอยู่ระหว่างทดลองงานจึงไม่มีหนังสือสัญญาว่าจ้าง นายมาร์วิน ให้การถึงเหตุการณ์ในคลิปดังกล่าวว่าเหตุการณ์นั้น ตนไม่ได้ทำร้ายเด็ก แค่พยายามจะพาเด็กไปห้องน้ำ เนื่องจากเห็นว่าเด็กคนนั้นมีน้ำมูกไหลลงที่ปากแล้วและเด็กได้ใช้มือเช็ดน้ำมูกจนเปรอะเปรี้อนใบหน้า ตนจึงเดินไปชี้สั่งให้เด็กลุกไปเข้าห้องน้ำ แต่เด็กไม่ยอมลุก ตนตึงเดินเข้าหาเด็กแล้วแล้วใช้มือจับแขนเด็กให้ลุกขึ้น แต่เด็กขัดขืนไม่ยอมลุกไปเข้าห้องน้ำ ตนจึงจับตัวเด็กลุกขึ้นมา ก่อนจะบังคับให้เด็กไปเข้าห้องน้ำ ผู้สื่อข่าวถามถึงพฤติกรรมครูจุ๋ม ใช้ความรุนแรงกับเด็กอนุบาลโดยที่มีนายมาร์วินซึ่งเป็นครูสอนภาษาอยู่ แต่ทำมัยไม่มีการห้ามปราม นายมาร์วินกล่าวว่า ตนเคยถามครูจุ๋มไปแล้วว่า การกระทำแบบนี้จะไม่มีปัญหาหรือ ครูจุ๋มได้บอกกับตนว่า ไม่มีปัญหาเพราะเป็นระบบโรงเรียนของประเทศไทย ที่ครูสามารถทำโทษนักเรียนได้ ตนจึงไม่ได้สนใจอะไร เพราะตนก็เพิ่งมารับงานเป็นครูสอนภาษาได้ไม่นาน พ.ต.ท.ฐิติวัฒน์ ฤชานุกูล รอง ผกก.ตม.จว.นนทบุรี กล่าวว่า นายมาร์วินได้ติดต่อและเดินทางเข้ามอบตัวพร้อมกับยืนยันว่าเป็นคนในคลิปจริง โดยทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษในโรงเรียนแห่งนั้น ทั้งๆที่ไม่มีเวิร์คเพอร์มิต และใช้วีซ่าผิดประเภท จึงได้ดำเนินการตามกฎหมาย นำตัวส่งต่อให้ สภ.ชัยพฤกษ์ ดำเนินคดีตามกฏหมาย เบื้องต้นจากการเข้าตรวจสอบบรรดาครูต่างชาติที่ ทำงานในโรงเรียนสารสาส์นวิเทศก์ราชพฤกษ์ พบว่ามีครูต่างชาติทั้งหมด 76 คน เลิกจ้างไป 2 ราย คงเหลือ 74 คน เป็นชาวฟิลิปปินส์จำนวน 65 คน และที่เหลือเป็น ชาวเกาหลี รัสเซีย ไอร์แลนด์ ปากีสถาน โคลัมเบีย แอฟฟริกาใต้ อียิปต์ ออสเตเรีย ประเทศละ 1 คน โดยขอวีซ่าประเภทครูสอนภาษาอังกฤษ มีเวิร์คเพอร์มิตครบทุกคน ส่วนนายมาร์วินนั้นไม่สามารถทำงานได้ เจ้าหน้าที่ ตม.จึงตั้งข้อกล่าวหาว่าเป็นคนต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน ตาม มาตรา 8 แห่งพ.ร.ก.การทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2561 ตม.จว.นนทบุรี จึงส่งตัว นายมาร์วิน ส่งตัวให้ สภ.ชัยพฤกษ์ เพื่อดำเนินดังกล่าว