ก.วัฒนธรรมประกาศผลประกวดบทภาพยนตร์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมชนะเลิศ เรื่อง “สองขั้วคนละข้าง - Little Sister รัก...ไม่ต้องเว้นระยะ” จับมือผู้ประกอบการภาพยนตร์เอเชียร่วมผลิตหนัง Project 19 ฉายทั่วโลก
วันที่ 28 ก.ย. 63 ที่กระทรวงวัฒนธรรม (วธ.) แถลงข่าวประกาศผลบทภาพยนตร์ชนะเลิศในโครงการประกวดบทภาพยนตร์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรม ประจำปี 2563 : คนไทยชีวิตปกติ วิถีใหม่ และแผนการส่งเสริมศักยภาพอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ไทยของกระทรวงวัฒนธรรม ประจำปี พ.ศ. 2564 โดยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม กล่าวว่า จากสถานการณ์โควิด-19 ส่งผลกระทบโดยตรงต่อวงการภาพยนตร์และวิดิทัศน์ไทยอย่างมาก วธ.จึงร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดประกวดบทภาพยนตร์ส่งเสริมศิลปวัฒนธรรมฯ ดังกล่าว โดยมีผู้ได้รับรางวัลชนะเลิศ 2 ราย ได้แก่ นายวันเฉลิม วัฒนวรกิจกุล จากเรื่องสองขั้วคนละข้าง และ น.ส.วรลักษณ์ กล้าสุคนธ์ จากเรื่อง Little Sister ทั้งนี้ได้รับเงินสนับสนุนรางวัลละ 200,000 บาท เพื่อนำไปต่อยอดสร้างภาพยนตร์ในอนาคต
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ วธ.ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา รายละ 15,000 บาท ขณะเดียวกันยังได้นำผู้ประกอบการเข้าพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และได้แสดงความห่วงใย มอบให้วธ.เป็นเจ้าภาพหาแนวทางให้ความช่วยเหลือโดยร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการด้านต่างๆ จากการสำรวจข้อมูลต่างๆ มีข้อเสนอแนะ ได้แก่ 1.การพัฒนาองค์ความรู้ สร้างตลาดใหม่ผ่านเทคโนโลยีและแฟลตฟอร์ม 2.ส่งแสริมสวัสดิการเนื่องจากเป็นกลุ่มอาชีพรับจ้างอิสระ และ 3.การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยขอให้มีองค์กรกลางที่จะประสานเดินหน้าขับเคลื่อนงาน
“ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฯไทย สร้างเม็ดเงินได้หลายแสนล้านบาท โดยในปี 2562 มีรายได้กว่า 229 ล้านบาท ถือเป็น 1 ใน 5 ชาติ ที่ทำสื่อบันเทิงของเอเชีย ร่วมกับจีน เกาหลี อินเดีย และญี่ปุ่น สำหรับในปี 2564 จึงปรับแผนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์โดยเน้นในด้านการพัฒนาบุคลากร การจัดทำบทภาพยนตร์ บทละครที่มีคุณภาพรองรับวิถีใหม่ และใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ มาทดแทนการเดินสายเปิดตัวภาพยนตร์ไทยในเทศกาลนานาชาติ” นายอิทธิพล รมว.วัฒนธรรม กล่าว
ด้าน นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ กรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวว่า นับเป็นข่าวดีที่ประเทศไทย โดยวธ. เดินสายเจรจาความร่วมมืออุตสาหกรรมภาพยนตร์ร่วมกับนานาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มทวีปเอเชีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ได้ผลตอบรับในทิศทางที่ดีในการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมรูปแบบระหว่างรัฐต่อรัฐ โดยจะมีการร่วมกันสร้างและผลิตภาพยนตร์ แอนิเมชัน นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น จะร่วมมือกับไทย และประเทศในกลุ่มอาเซียน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ในการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 หัวข้อ Project 19 โดยมีกระบวนการดำเนินงานให้แต่ละประเทศคัดเลือกภาพยนตร์สั้น ภาพยนตร์โฆษณา สารคดี และ แคมเปญต่างๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 5 นาที จำนวน 5 เรื่อง เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศ ส่งเข้าร่วมพิจาณาร่วมกัน
“ทั้งนี้ จะมีคณะกรรมการกลางจากประเทศต่างๆ คัดเลือก ให้เหลือจำนวน 19 เรื่อง เพื่อมอบรางวัล และนำเนื้อหาของทั้ง 19 เรื่องมาประมวลร้อยเรียงจัดทำเป็นภาพยนตร์มีความยาว 120 นาที จากนั้นจะนำความสำเร็จโรดโชว์ไปฉายทั่วโลก ทั้งนี้ผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์จะขยายผลความร่วมมือในระยะยาวต่อไปด้วย” นายศิริศักดิ์ กก.สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าว
รมว.วัฒนธรรม กล่าวอีกว่า ส่วนการช่วยเหลือผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกด้านอุตสาหกรรมภาพยนตร์และวีดิทัศน์ วธ.ได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยา รายละ 15,000 บาท ขณะเดียวกันยังได้นำผู้ประกอบการเข้าพบกับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และได้แสดงความห่วงใย มอบให้วธ.เป็นเจ้าภาพหาแนวทางให้ความช่วยเหลือโดยร่วมกับมหาวิทยาลัยกรุงเทพ จัดทำวิจัยและรวบรวมข้อมูลจากผู้ประกอบการด้านต่างๆ จากการสำรวจข้อมูลต่างๆ มีข้อเสนอแนะ ได้แก่ 1.การพัฒนาองค์ความรู้ สร้างตลาดใหม่ผ่านเทคโนโลยีและแฟลตฟอร์ม 2.ส่งแสริมสวัสดิการเนื่องจากเป็นกลุ่มอาชีพรับจ้างอิสระ และ 3.การส่งเสริมการเข้าถึงแหล่งเงินทุน โดยขอให้มีองค์กรกลางที่จะประสานเดินหน้าขับเคลื่อนงาน
“ที่ผ่านมาอุตสาหกรรมภาพยนตร์ฯไทย สร้างเม็ดเงินได้หลายแสนล้านบาท โดยในปี 2562 มีรายได้กว่า 229 ล้านบาท ถือเป็น 1 ใน 5 ชาติ ที่ทำสื่อบันเทิงของเอเชีย ร่วมกับจีน เกาหลี อินเดีย และญี่ปุ่น สำหรับในปี 2564 จึงปรับแผนเพื่อให้เข้ากับสถานการณ์โดยเน้นในด้านการพัฒนาบุคลากร การจัดทำบทภาพยนตร์ บทละครที่มีคุณภาพรองรับวิถีใหม่ และใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีต่างๆ มาทดแทนการเดินสายเปิดตัวภาพยนตร์ไทยในเทศกาลนานาชาติ” นายอิทธิพล รมว.วัฒนธรรม กล่าว
ด้าน นายศิริศักดิ์ คชพัชรินทร์ กรรมการสมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าวว่า นับเป็นข่าวดีที่ประเทศไทย โดยวธ. เดินสายเจรจาความร่วมมืออุตสาหกรรมภาพยนตร์ร่วมกับนานาชาติ โดยเฉพาะในกลุ่มทวีปเอเชีย จีน เกาหลี ญี่ปุ่น ได้ผลตอบรับในทิศทางที่ดีในการสนับสนุนอุตสาหกรรมภาพยนตร์ร่วมกันอย่างเป็นรูปธรรมรูปแบบระหว่างรัฐต่อรัฐ โดยจะมีการร่วมกันสร้างและผลิตภาพยนตร์ แอนิเมชัน นอกจากนี้ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ผู้ประกอบการอุตสาหกรรมภาพยนตร์ทั้ง จีน เกาหลี ญี่ปุ่น จะร่วมมือกับไทย และประเทศในกลุ่มอาเซียน อาทิ มาเลเซีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ ในการสร้างภาพยนตร์สั้นร่วมกัน ภายใต้สถานการณ์โควิด-19 หัวข้อ Project 19 โดยมีกระบวนการดำเนินงานให้แต่ละประเทศคัดเลือกภาพยนตร์สั้น ภาพยนตร์โฆษณา สารคดี และ แคมเปญต่างๆ ที่มีความยาวไม่เกิน 5 นาที จำนวน 5 เรื่อง เพื่อเป็นตัวแทนของประเทศ ส่งเข้าร่วมพิจาณาร่วมกัน
“ทั้งนี้ จะมีคณะกรรมการกลางจากประเทศต่างๆ คัดเลือก ให้เหลือจำนวน 19 เรื่อง เพื่อมอบรางวัล และนำเนื้อหาของทั้ง 19 เรื่องมาประมวลร้อยเรียงจัดทำเป็นภาพยนตร์มีความยาว 120 นาที จากนั้นจะนำความสำเร็จโรดโชว์ไปฉายทั่วโลก ทั้งนี้ผู้ประกอบกิจการภาพยนตร์จะขยายผลความร่วมมือในระยะยาวต่อไปด้วย” นายศิริศักดิ์ กก.สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติ กล่าว