กรณีคนร้ายเป็นชายผมยาวใช้อาวุธปืนบุกเข้าไปจี้ชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว-วังหิน โดยลงมือกวาดสร้อยคอทองคำไปประมาณ 200 บาท ก่อนขับรถจักรยานยนต์หลบหนีไป เหตุเกิดช่วงสายของวันที่ 27 กันยายนที่ผ่านมา ตามที่เป็นข่าวไปแล้วนั้น วันที่ 28 ก.ย.63 ที่ สน.โชคชัย ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าว่า ทางพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำพนักงานของร้านทองเยาวราชกรุงเทพฯ พบว่าคนร้ายจี้ชิงเอาทองรูปพรรณ น้ำหนักรวม 221 บาท 50 สตางค์ รวมมูลค่าประมาณ 6.5 ล้านบาท ซึ่งทางร้านทองได้มีการทำประกันไว้ ส่วนแนวทางการสืบสวนติดตามตัวคนร้าย หลังก่อเหตุจนถึงขณะนี้มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ซึ่งเมื่อช่วงเช้าเวลา 09.00 น. ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องได้ประชุม เพื่อติดตามตัวคนร้ายที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 4 โดยมี พ.ต.อ.พรทวี สมวงค์ ผกก.สน.โชคชัย เป็นประธานในการประชุม และวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับ ศปก.ตร.ซึ่งใช้เวลาในการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ส่วนเส้นทางการหลบหนี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้สืบสวนติดตามไล่กล้องวงจรปิด เบื้องต้นพบว่าภายหลังก่อเหตุ คนร้ายได้หลบหนีไปตามทางถนนเลียบคลองลาดพร้าว ก่อนที่จะถอดเสื้อคลุมสีขาวทิ้งบริเวณดังกล่าว และขับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า รุ่นทีทีเอ็ก ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน สีดำ มาจอดทิ้งไว้ที่อพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ในซอยเสนานิคม 1 แขวงและเขตลาดพร้าว กทม.ในช่วงเวลา 16.00 น.จากนั้นได้เปลี่ยนเสื้อผ้า ถอดวิกผมและรองเท้าทิ้ง แล้วเรียกรถแท็กซี่ให้ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ย่านลาดพร้าว ต่อมาเมื่อเวลา 10.00 น.ทาง พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผบก.น.4 ได้เดินทางมาที่ สน.โชคชัย พร้อมเปิดเผยว่า ซึ่งพอจะทราบเบาะแสของคนร้ายแล้ว คาดว่าอีก 2 วันจะมีความชัดเจนมากขึ้น ส่วนรถจักรยานยนต์ที่ตรวจยึดได้ ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบหาผู้ครอบครองพบว่าเป็นผู้หญิง ซึ่งก็ได้เก็บรายละเอียดทางวิทยาศาสตร์และทางเทคนิคไว้ ส่วนมาตรการในการป้องกันเหตุถ้าร้านทองที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยอยู่ เจ้าหน้าที่ตำรวจทุก สน. ก็จะจัดกำลังออกตรวจ ปฏิบัติหน้าที่เป็นประจำหรือเป็นช่วงๆ ไป เพราะกำลังตำรวจจะต้องดูแลทั้งเรื่องการจราจร งานสืบสวน ฯลฯ ในคดีนี้เจ้าหน้าที่พยายามจับกุมคนร้ายให้ได้อย่างรวดเร็ว ถึงแม้ร้านทองจะมีประกันภัยต่าง ๆ แต่เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ในการสืบสวนติดตามคดีอาญาสำคัญ และจะพยายามสืบสวนติดตามจับกุมตัวคนร้ายให้ได้โดยเร็ว