เมื่อวันที่ 22 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ดร.พินิจ บุญเลิศ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงจังหวัดปทุมธานี โครงการ “ประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปี” ณ สวนเทพปทุมเฉลิมพระเกียรติ กลางเมืองปทุมธานี พร้อมเปิดประติมากรรมที่ติดตั้งเเล้วเสร็จสำหรับครึ่งเเรกในปีนี้จำนวน 6 ผลงาน โดย 6 ศิลปินเเห่งชาติ ได้แก่
บัวปทุม : ประติมากรรมเหล็ก ความสูงรวมฐาน 10 เมตร ผลงานของศราวุธ ดวงจำปา ศิลปินเเห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม)
เเก้ววิโชค : ลูกเเก้วเหล็ก ความหนา 10 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.5 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร ออกเเบบโดย ศ.วิโชค มุกดามณี ศิลปินเเห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (สื่อผสม)
เเก้ววิชัย : ลูกเเก้วเหล็ก ความหนา 10 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.5 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร ออกเเบบโดย ศ.วิชัย สิทธิรัตน์ ศิลปินเเห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม)
เเก้วเดชา : ลูกเเก้วเหล็ก ความหนา 10 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.5 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร ออกเเบบโดย ศ.เดชา วราชุน ศิลปินเเห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ภาพพิมพ์เเละสื่อผสม)
เเก้วเข็มรัตน์ : ลูกเเก้วเหล็ก ความหนา 10 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.5 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร ออกเเบบโดย ศ.เข็มรัตน์ กองสุข ศิลปินเเห่งชาติ สาขาทัศนศิลป์ (ประติมากรรม)
เเก้วเนาวรัตน์ : ลูกเเก้วเหล็ก ความหนา 10 มิลลิเมตร น้ำหนัก 1.5 ตัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.50 เมตร บทกวีโดย เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ ศิลปินเเห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์
ทั้งนี้ผู้ว่าฯ ดร.พินิจ บุญเลิศ เป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยมีศิลปินแห่งชาติ ศราวุธ ดวงจำปา เป็นผู้ควบคุมและดำเนินงานสร้างประติมากรรม เพื่อให้เป็นหลักประกันว่าโครงการประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี 100 ปี ต้องเดินหน้าจนครบ 13 ผลงาน จากฝีมือ 13 ศิลปินเเห่งชาติ ติดตั้งถาวรให้เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด ดังนี้ก่อนที่ผู้ว่าพินิจเกษียณอายุราชการ ท่านจึงจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับตัวแทนหน่วยงานต่างๆ อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด นายอำเภอเมืองปทุม นายกเทศมนตรีเมืองปทุม ฯลฯ โดยมีศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษไพบูลย์ และแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน
ผู้ว่าพินิจเปิดเผยว่า แนวคิดในการสร้างประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปี เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดปทุมธานี โดยปรากฏตามเอกสารทางประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่านาม “เมืองประทุมธานี” มีที่มาจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ โปรดเกล้าฯ พระราชทานเมื่อคราวเสด็จฯ และได้รับบัวจากชาวมอญ ในเทศกาลประเพณีรับบัวที่สามโคก ซึ่งจัดขึ้นในเดือน ๑๑ จ.ศ. ๑๑๗๗ อันเป็นช่วงเวลาที่บัวออกดอกเป็นจำนวนมาก จึงได้พระราชทานนามให้สมกับเป็นแหล่งบัวชุกชุม
"ปัจจุบันจังหวัดปทุมธานีเป็นแหล่งอารยธรรมทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ทั้งเป็นเมืองอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมไฮเทค รวมถึงเป็นเมืองตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อย่างไรก็ดี บรรยากาศทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมยังดำรงอยู่ จังหวัดปทุมธานีมุ่งหมายที่จะพัฒนาเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการสร้างอัตลักษณ์สัญลักษณ์ที่โดดเด่น เพื่อสื่อถึงสภาพสังคม ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของจังหวัดปทุมธานี เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานี"
ผู้ว่าพินิจกล่าวต่อไปว่า "สำหรับประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปีนี้ ถือเป็นประติมากรรมแห่งแรกของประเทศไทยที่มีศิลปินแห่งชาติรวม ๑๓ ท่าน ร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลป์เพื่อแผ่นดิน โดยองค์ประกอบของประติมากรรมประกอบด้วย 'ดอกบัว' และ 'ลูกแก้ว' ลักษณะเป็นดอกบัวตูมกำลัง ผลิบาน และลูกแก้ว ๑๒ ลูก เปรียบเสมือนกาลเวลาเป็นนาฬิกาบอกความเป็นมาของเมืองปทุมธานี รวมถึงปลาตะเพียนเงิน ตะเพียนทอง อยู่รายล้อมรอบประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปีนี้ด้วย"
นี่คือความยิ่งใหญ่ของงานศิลปะที่จังหวัดปทุมธานีให้ความสำคัญ จัดสร้างประติมากรรมถาวรให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และสร้างโอกาสให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้ ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของเมืองปทุมธานี รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวปทุมและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบงานศิลปะได้เข้าไปท่องเที่ยวในจังหวัดมากขึ้น เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดปทุมธานีที่ทรงค่าและสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดังบทกวีของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ บทหนึ่งซึ่งจารึกไว้ประติมากรรมสำคัญนี้...
"มีดอกบัวหัวใจเป็นใจเมือง
มีตำนานขานเนื่องโรจน์เรืองหล้า
มีเสบียงเลี้ยงกรุงทุ่งข้าวปลา
มิ่งมณีปัทมา ปทุมธานี"
ทั้งนี้ผู้ว่าฯ ดร.พินิจ บุญเลิศ เป็นผู้ริเริ่มโครงการ โดยมีศิลปินแห่งชาติ ศราวุธ ดวงจำปา เป็นผู้ควบคุมและดำเนินงานสร้างประติมากรรม เพื่อให้เป็นหลักประกันว่าโครงการประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี 100 ปี ต้องเดินหน้าจนครบ 13 ผลงาน จากฝีมือ 13 ศิลปินเเห่งชาติ ติดตั้งถาวรให้เป็นแลนด์มาร์คของจังหวัด ดังนี้ก่อนที่ผู้ว่าพินิจเกษียณอายุราชการ ท่านจึงจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับตัวแทนหน่วยงานต่างๆ อาทิ รองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าสำนักงานจังหวัด วัฒนธรรมจังหวัด นายอำเภอเมืองปทุม นายกเทศมนตรีเมืองปทุม ฯลฯ โดยมีศิลปินแห่งชาติ เนาวรัตน์ พงษไพบูลย์ และแขกผู้มีเกียรติร่วมเป็นสักขีพยาน
ผู้ว่าพินิจเปิดเผยว่า แนวคิดในการสร้างประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปี เป็นการแสดงออกถึงความจงรักภักดีและน้อมระลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณแห่งพระมหากษัตริย์ที่มีต่อพสกนิกรชาวจังหวัดปทุมธานี โดยปรากฏตามเอกสารทางประวัติศาสตร์ สันนิษฐานว่านาม “เมืองประทุมธานี” มีที่มาจากพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย รัชกาลที่ ๒ โปรดเกล้าฯ พระราชทานเมื่อคราวเสด็จฯ และได้รับบัวจากชาวมอญ ในเทศกาลประเพณีรับบัวที่สามโคก ซึ่งจัดขึ้นในเดือน ๑๑ จ.ศ. ๑๑๗๗ อันเป็นช่วงเวลาที่บัวออกดอกเป็นจำนวนมาก จึงได้พระราชทานนามให้สมกับเป็นแหล่งบัวชุกชุม
"ปัจจุบันจังหวัดปทุมธานีเป็นแหล่งอารยธรรมทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่เก่าแก่ ทั้งเป็นเมืองอุตสาหกรรมและอุตสาหกรรมไฮเทค รวมถึงเป็นเมืองตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ อย่างไรก็ดี บรรยากาศทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมยังดำรงอยู่ จังหวัดปทุมธานีมุ่งหมายที่จะพัฒนาเมืองทั้งด้านเศรษฐกิจวัฒนธรรมควบคู่ไปกับการสร้างอัตลักษณ์สัญลักษณ์ที่โดดเด่น เพื่อสื่อถึงสภาพสังคม ศิลปวัฒนธรรม และประวัติศาสตร์ของจังหวัดปทุมธานี เป็นแลนด์มาร์คที่สำคัญของจังหวัดปทุมธานี"
ผู้ว่าพินิจกล่าวต่อไปว่า "สำหรับประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปีนี้ ถือเป็นประติมากรรมแห่งแรกของประเทศไทยที่มีศิลปินแห่งชาติรวม ๑๓ ท่าน ร่วมสร้างสรรค์ผลงานศิลป์เพื่อแผ่นดิน โดยองค์ประกอบของประติมากรรมประกอบด้วย 'ดอกบัว' และ 'ลูกแก้ว' ลักษณะเป็นดอกบัวตูมกำลัง ผลิบาน และลูกแก้ว ๑๒ ลูก เปรียบเสมือนกาลเวลาเป็นนาฬิกาบอกความเป็นมาของเมืองปทุมธานี รวมถึงปลาตะเพียนเงิน ตะเพียนทอง อยู่รายล้อมรอบประติมากรรมดอกบัวปทุมธานี ๑๐๐ ปีนี้ด้วย"
นี่คือความยิ่งใหญ่ของงานศิลปะที่จังหวัดปทุมธานีให้ความสำคัญ จัดสร้างประติมากรรมถาวรให้เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง และสร้างโอกาสให้เด็กเยาวชนได้เรียนรู้ ศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์ของเมืองปทุมธานี รวมถึงประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนชาวปทุมและนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติที่ชื่นชอบงานศิลปะได้เข้าไปท่องเที่ยวในจังหวัดมากขึ้น เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดปทุมธานีที่ทรงค่าและสำคัญทางประวัติศาสตร์ ดังบทกวีของเนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์ บทหนึ่งซึ่งจารึกไว้ประติมากรรมสำคัญนี้...
"มีดอกบัวหัวใจเป็นใจเมือง
มีตำนานขานเนื่องโรจน์เรืองหล้า
มีเสบียงเลี้ยงกรุงทุ่งข้าวปลา
มิ่งมณีปัทมา ปทุมธานี"