รายงาน: องคมนตรี ติดตามความคืบหน้าโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง
เมื่อเร็วๆ นี้ พลเอก กัมปนาท รุดดิษฐ์ องคมนตรี ประธานอนุกรรมการติดตามและขับเคลื่อนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่ภาคใต้ และ พลเอก เฉลิมชัย สิทธิสาท องคมนตรี รองประธานอนุกรรมการฯ นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (สำนักงาน กปร.) พร้อมด้วยคณะอนุกรรมการฯ เดินทางไปยังวัดหลักสิบ ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง เพื่อติดตามการดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ
นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า พื้นที่อำเภอป่าบอนมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางความจุประมาณ 10-20 ล้านลูกบาตร์เมตร จำนวน 3 อ่าง เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้แก่ อ่างเก็บน้ำป่าบอน อ่างเก็บน้ำทุ่งหัวช้าง ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2520 และอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง
สำหรับอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เกิดขึ้นจากประชาชนอำเภอป่าบอนมีหนังสือกราบบังคมทูลพระราชทานความช่วยเหลือ สำนักงาน กปร. เป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จังหวัดพัทลุง กรมชลประทาน กรมป่าไม้ และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ โดยประสานกับราษฎรที่ขอพระราชทานความช่วยเหลือเพื่อร่วมกันพิจารณา มีการทำประชาพิจารณ์พร้อมบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ทำทะเบียนข้อมูลประชาชนที่จะได้รับประโยชน์และได้รับผลกระทบจากโครงการฯ
“อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เป็นโครงการที่เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชน และได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 9 และต่อมารัชกาลที่ 10 มีพระบรมราโชบายให้ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ยังคั่งค้างอยู่ ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ขององคมนตรีและคณะ เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ยังเดือดร้อนและผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินโครงการนั้นจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังและทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการดูแลบำรุงรักษานับเป็นสิ่งสำคัญ และในการใช้ประโยชน์ประชาชนในพื้นที่จะต้องมีส่วนร่วม” นายดนุชา เลขาธิการ กปร. กล่าว
ทางด้าน นายบุญล้อม คำเอี่ยม ราษฎรหมู่ที่ 5 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เผยว่า กว่า 10 ปีแล้วที่มีความเดือดร้อนเรื่องน้ำในการเกษตร จึงต้องการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว เนื่องจากที่ผ่านมาฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง เกิดผลกระทบต่อการเกษตร ประชาชนในพื้นที่ร้อยละ 90 จะปลูกไม้ผล ปัจจัยหลักคือน้ำ ถ้าขาดน้ำผลผลิตก็จะเสียหายทำให้ไม่มีรายได้ หากมีอ่างเก็บน้ำก็เป็นโอกาสที่ดีต่ออาชีพของประชาชนส่วนใหญ่ ทำให้มีน้ำกิน น้ำใช้ในการเกษตรอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี
“เมื่อปี พ.ศ. 2549 ผมเป็นสมาชิกในองค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง ได้ร่วมกับคณะผู้บริหารและสมาชิก ผลักดันโครงการอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำเกษตรและอุปโภคบริโภค แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาได้ส่งหนังสือไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ท่านในหลวงรัชกาลที่ 9 และนับเป็นพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดมิได้ รัชกาลที่ 10 ทรงรับโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประชาชนในพื้นที่ต่างปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้มีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้ชีวิตอยู่ดีกินดีมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน” นายบุญล้อม กล่าว
ส่วน นายสนั่น สันอี ราษฎรหมู่ที่ 6 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หนึ่งในราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ เผยว่าบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำจะเกิดน้ำท่วมที่ทำกินของราษฏรประมาณ 100 กว่าคน พื้นที่กว่า 400 ไร่ แต่ทุกคนเข้าใจดีว่ามีประโยชน์มากเพราะทำให้มีน้ำใช้เพียงพอ หลังจากทำประชาพิจารณ์แล้วทุกคนเห็นด้วย และพร้อมใจกันเสียสละที่ดินเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
“ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นราษฎรตำบลหนองธงและใกล้เคียงรู้สึกเป็นบุญคุณอย่างล้นพ้น เพราะแม้ฝนจะทิ้งช่วงหรือในฤดูแล้งทุกคนก็จะไม่เดือดร้อนเหมือนที่ผ่านมา และรู้สึกเป็นเกียรติของประชาชนตำบลหนองธงเป็นอย่างยิ่งที่ท่านองคมนตรีและคณะได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน และให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่” นายสนั่น กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองธงขอพระราชทานพระมหากรุณาในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เพื่อช่วยเหลือราษฎรตำบลหนองธง จำนวน 9 หมู่บ้าน เนื่องจากประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดการก่อสร้างจะเป็นอ่างฯ ขนาดความจุที่ระดับเก็บกัก 10,140,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะสร้างประโยชน์แก่ราษฎร จำนวน 9 หมู่บ้าน ในเขตตำบลหนองธง และตำบลใกล้เคียง ประมาณ 1,600 ครัวเรือน ราษฎร 7,700 คน มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อการเพาะปลูกเสริมในช่วงฝนทิ้งช่วงให้กับพื้นที่ชลประทานของระบบส่งน้ำโครงการฝายคลองท่ายูง ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน และโครงการฝายบ้านใหม่ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด ซึ่งมีพื้นที่ชลประทานรวม 7,500 ไร่ รวมทั้งยังช่วยผันน้ำเติมให้กับแหล่งเก็บน้ำคลองต่อได้อีกด้วย
นายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. เปิดเผยว่า พื้นที่อำเภอป่าบอนมีอ่างเก็บน้ำขนาดกลางความจุประมาณ 10-20 ล้านลูกบาตร์เมตร จำนวน 3 อ่าง เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้แก่ อ่างเก็บน้ำป่าบอน อ่างเก็บน้ำทุ่งหัวช้าง ก่อสร้างแล้วเสร็จตั้งแต่ปี 2520 และอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่วซึ่งยังไม่ได้ดำเนินการก่อสร้าง
สำหรับอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เกิดขึ้นจากประชาชนอำเภอป่าบอนมีหนังสือกราบบังคมทูลพระราชทานความช่วยเหลือ สำนักงาน กปร. เป็นหน่วยงานกลางในการประสานงานได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย จังหวัดพัทลุง กรมชลประทาน กรมป่าไม้ และองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น ดำเนินการศึกษาความเป็นไปได้ โดยประสานกับราษฎรที่ขอพระราชทานความช่วยเหลือเพื่อร่วมกันพิจารณา มีการทำประชาพิจารณ์พร้อมบันทึกข้อตกลงร่วมกัน ทำทะเบียนข้อมูลประชาชนที่จะได้รับประโยชน์และได้รับผลกระทบจากโครงการฯ
“อ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เป็นโครงการที่เกิดจากความเดือดร้อนของประชาชน และได้ขอพระราชทานความช่วยเหลือตั้งแต่รัชสมัยรัชกาลที่ 9 และต่อมารัชกาลที่ 10 มีพระบรมราโชบายให้ติดตามการดำเนินงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริที่ยังคั่งค้างอยู่ ซึ่งการเดินทางลงพื้นที่ในครั้งนี้ขององคมนตรีและคณะ เพื่อเยี่ยมประชาชนที่ยังเดือดร้อนและผู้ที่จะได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการฯ อย่างไรก็ตาม ในการดำเนินโครงการนั้นจะดำเนินการด้วยความระมัดระวังและทำให้ถูกต้องตามกฎหมาย เพื่อไม่ให้มีปัญหาตามมาในอนาคต โดยเฉพาะเรื่องการดูแลบำรุงรักษานับเป็นสิ่งสำคัญ และในการใช้ประโยชน์ประชาชนในพื้นที่จะต้องมีส่วนร่วม” นายดนุชา เลขาธิการ กปร. กล่าว
ทางด้าน นายบุญล้อม คำเอี่ยม ราษฎรหมู่ที่ 5 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง เผยว่า กว่า 10 ปีแล้วที่มีความเดือดร้อนเรื่องน้ำในการเกษตร จึงต้องการอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่ว เนื่องจากที่ผ่านมาฤดูกาลมีการเปลี่ยนแปลง เกิดผลกระทบต่อการเกษตร ประชาชนในพื้นที่ร้อยละ 90 จะปลูกไม้ผล ปัจจัยหลักคือน้ำ ถ้าขาดน้ำผลผลิตก็จะเสียหายทำให้ไม่มีรายได้ หากมีอ่างเก็บน้ำก็เป็นโอกาสที่ดีต่ออาชีพของประชาชนส่วนใหญ่ ทำให้มีน้ำกิน น้ำใช้ในการเกษตรอย่างเพียงพอตลอดทั้งปี
“เมื่อปี พ.ศ. 2549 ผมเป็นสมาชิกในองค์การบริหารส่วนตำบลหนองธง ได้ร่วมกับคณะผู้บริหารและสมาชิก ผลักดันโครงการอ่างเก็บน้ำแห่งนี้เพื่อให้มีน้ำเพียงพอในการทำเกษตรและอุปโภคบริโภค แต่ไม่สำเร็จ ต่อมาได้ส่งหนังสือไปยังสำนักพระราชวัง เพื่อขอพระราชทานความช่วยเหลือจากพระองค์ท่านในหลวงรัชกาลที่ 9 และนับเป็นพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดมิได้ รัชกาลที่ 10 ทรงรับโครงการนี้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประชาชนในพื้นที่ต่างปลื้มปีติเป็นอย่างยิ่ง ที่จะได้มีแหล่งเก็บกักน้ำไว้ใช้อย่างเพียงพอตลอดทั้งปี ซึ่งจะทำให้ชีวิตอยู่ดีกินดีมีความมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน” นายบุญล้อม กล่าว
ส่วน นายสนั่น สันอี ราษฎรหมู่ที่ 6 ต.หนองธง อ.ป่าบอน จ.พัทลุง หนึ่งในราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฯ เผยว่าบริเวณที่จะก่อสร้างอ่างเก็บน้ำจะเกิดน้ำท่วมที่ทำกินของราษฏรประมาณ 100 กว่าคน พื้นที่กว่า 400 ไร่ แต่ทุกคนเข้าใจดีว่ามีประโยชน์มากเพราะทำให้มีน้ำใช้เพียงพอ หลังจากทำประชาพิจารณ์แล้วทุกคนเห็นด้วย และพร้อมใจกันเสียสละที่ดินเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
“ถ้าโครงการนี้เกิดขึ้นราษฎรตำบลหนองธงและใกล้เคียงรู้สึกเป็นบุญคุณอย่างล้นพ้น เพราะแม้ฝนจะทิ้งช่วงหรือในฤดูแล้งทุกคนก็จะไม่เดือดร้อนเหมือนที่ผ่านมา และรู้สึกเป็นเกียรติของประชาชนตำบลหนองธงเป็นอย่างยิ่งที่ท่านองคมนตรีและคณะได้เดินทางมาเยี่ยมเยียน และให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของราษฎรในพื้นที่” นายสนั่น กล่าว
สำหรับโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำบ้านเหมืองตะกั่วอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เป็นโครงการที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2548 ตามที่องค์การบริหารส่วนตำบลหนองธงขอพระราชทานพระมหากรุณาในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำเหมืองตะกั่ว เพื่อช่วยเหลือราษฎรตำบลหนองธง จำนวน 9 หมู่บ้าน เนื่องจากประสบปัญหาความเดือดร้อนจากการขาดแคลนน้ำสำหรับทำการเกษตร ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม โดยกำหนดการก่อสร้างจะเป็นอ่างฯ ขนาดความจุที่ระดับเก็บกัก 10,140,000 ลูกบาศก์เมตร ซึ่งจะสร้างประโยชน์แก่ราษฎร จำนวน 9 หมู่บ้าน ในเขตตำบลหนองธง และตำบลใกล้เคียง ประมาณ 1,600 ครัวเรือน ราษฎร 7,700 คน มีน้ำสำหรับอุปโภคบริโภค และเป็นแหล่งน้ำต้นทุนเพื่อการเพาะปลูกเสริมในช่วงฝนทิ้งช่วงให้กับพื้นที่ชลประทานของระบบส่งน้ำโครงการฝายคลองท่ายูง ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน และโครงการฝายบ้านใหม่ ตำบลคลองใหญ่ อำเภอตะโหมด ซึ่งมีพื้นที่ชลประทานรวม 7,500 ไร่ รวมทั้งยังช่วยผันน้ำเติมให้กับแหล่งเก็บน้ำคลองต่อได้อีกด้วย