วันที่ 25 ก.ย. 63 นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรประชาธิปัตย์ ได้กล่าวย้ำจุดยืนพรรค ว่า ไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการศึกษาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ภายใน 30 วัน ก่อนลงมติรับหลักการ ในสมัยประชุมหน้า เพราะการแก้รัฐธรรมนูญมีความสำคัญอย่างยิ่ง และเป็นเงื่อนไขของพรรคในการเข้าร่วมรัฐบาล โดยขอให้บรรจุเป็นนโยบายของรัฐบาล และรัฐบาลได้บรรจุเป็นวาระเร่งด่วน จนนำมาสู่การแถลงนโยบาลต่อรัฐสภา รวมถึงตั้งคณะกรรมมาธิการศึกษาแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ชุดนายพีระพันธ์ สาลีรัฐวิภาค จนได้ข้อสรุปให้แก้รัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เปิดทางให้มี สสร. อีกทั้งมีการดำเนินการจนนำไปสู่การเสนอญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญในชั้นรัฐสภา เพื่อรับหลักการวาระแรก จึงไม่เห็นความจำเป็นที่จะต้องตั้งคณกรรมาธิการศึกษาก่อนรับหลักการอีก เนื่องจากประเด็นต่างๆ ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญชัดเจนแล้ว ทั้งนี้ พรรคร่วมรัฐบาลถึงเสนอขอแก้ไขแล้ว จึงควรที่จะลงมติรับหลักการหรือไม่รับหลักการในวาระ 1 ได้เลย และหากมีมติรับหลักการ ก็สามารถแปรญัตติในวาระ 2 ได้อยู่แล้ว ดังนั้นเป็นที่มาของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่เห็นด้วยกับการตั้งคณะกรรมาธิการฯ แต่เมื่อมีการตั้งคณะกรรมาธิการแล้ว ก็ต้องยอมรับ เหมือนที่ผ่านมา เพราะแพ้เสียงโหวต ก็ต้องเสนอตัวแทนสัดส่วนพรรคเข้าไปดำเนินการ ไม่ได้หมายความว่า เมื่อแพ้แล้วจะไม่ส่งคนเข้าไปร่วม ซึ่งการส่งตัวแทนเข้าไป จะเป็นประโยชน์ผลักดันให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่เป็นจุดยืนพรรคประชาธิปัตย์