พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ประชุมรัฐสภามีมติแต่งตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญเพื่อพิจารณาศึกษาญัตติร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 6 ฉบับ 30 วันว่า คงไม่มีความคิดเห็น เพราะเป็นขั้นตอนการทำงานของสภา จากการติดตามการประชุม การอภิปรายในวันแรกก็เรียบร้อยดี แต่การอภิปรายในวันที่สอง เห็นว่ามีความขัดแย้งในประเด็นที่ทุกคนทราบอยู่แล้ว โดยเฉพาะการก้าวล่วงสถาบัน เป็นสิ่งที่หลายคนรับไม่ได้ จึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในที่ประชุมเมื่อวันที่ 24 ก.ย. “ส่วนตัวมองว่าทุกคนเป็นผู้ทรงเกียรติ จึงต้องเคารพซึ่งกันและกัน เพราะเป็นวิถีทางของรัฐสภา แต่หากใส่ร้าย บิดเบือนก็รับได้ยาก จึงต้องมองว่าจะแก้ปัญหาอย่างไรให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย และยังยืนยันว่าการเลื่อนลงมติ ไม่ใช่เป็นการยื้อเวลา เพราะผมก็เข้าใจอยู่ว่า จะมีการลงมติ แต่เมื่อสถานการณ์เป็นไปอย่างที่ทุกคนเห็น การชะลอเลื่อนออกไป ก็เป็นไปตามกฎหมาย กติกาของสภา หากจะเกิดอะไรขึ้นก็เป็นเรื่องของวันข้างหน้า ยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับผม ไม่ทำให้สถานการณ์ของผมดีขึ้นหรือเลวลง แต่เป็นเรื่องประชาธิปไตยที่ต้องรับฟังความคิดเห็น เดินหน้าไปด้วยกันได้ ด้วยความปรองดอง ขอย้ำว่า ไม่มีการล็อบบี้ หรือสั่งการใคร เพราะ ส.ว.ทุกคนมีเกียรติยศ และศักดิ์ศรี” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว นายกฯ กล่าวว่า ส.ว.มีทั้งที่มาจากประชาชนเลือก การแต่งตั้งผู้ที่มีความรู้ความสามารถ จากทุกภาคส่วน ดังนั้นขอให้รับฟังคนเหล่านี้ เพื่อจะได้รู้ว่าไม่มีเรื่องใดที่จะเอื้อกับตนเอง ทุกอย่างเป็นไปตามกลไกล และอีกอย่างตนคงไม่อยู่ในตำแหน่งตลอดไป และมองว่าสิ่งไหนที่หารือพูดคุยกันได้ ก็เป็นแนวทางที่ดี ตนไม่ขัดข้องต่อแนวทางแก้ไขรัฐธรรมนูญ เมื่อถามว่า จะเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของรัฐบาลหรือไม่นั้น นายกฯระบุว่า ฝ่ายกฎหมายกำลังพิจารณาอยู่ เมื่อถามว่า ข้อเรียกร้องยุบสภาหรือลาออก ไม่ใช่การแก้ปัญหาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่าทุกคนทราบดีอยู่แล้ว และวันนี้จะใช้อำนาจใดมากดดัน เพราะรัฐธรรมนูญยังอยู่ จะใช้ความรุนแรงความแตกแยกมากดดัน ต้องบอกว่าคุ้มค่าหรือไม่ ในขณะที่หลายคนก็รู้วัตถุประสงค์การดำเนินการอยู่แล้ว ขณะที่ฝ่ายกฎหมายยอมรับว่าหนักใจ แต่ตนได้ให้แนวทางไปแล้วในการดำเนินการอย่างไร ไม่วันนี้ ก็วันหน้า อายุความของคดียังมี โดยทุกวันนี้ตนเองโดนต่อว่ามาโดยตลอด และใช้ความอดทนมาอย่างเต็มที่แล้ว