เมื่อวันที่ 24 ก.ย.63 พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.ธงชัย อยู่เกษ ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อลงกต คชแก้ว รอง ผกก.1 บก.ป. และพ.ต.ต.รัฐวิรุฬห์ จันทสุบรรณ สว.กก.1 บก.ป. พร้อมตำรวจชุดจับกุม ร่วมกันจับกุมนายนิติวัจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี ในข้อหาว่า ฉ้อโกง ตามหมายจับศาลจังหวัดยะลา ที่ 292/2563 ลงวันที่ 19 ก.ย.63 ได้ที่ลานจอดรถ ชั้น 5 ภายในห้างสรรพสินค้า เขตห้วยขวาง กรุงเทพมหานคร
สืบเนื่องจากในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งทุกภาคส่วนมีความต้องการหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมากนายนิติวัจน์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้มีการประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อค้ากำไรในช่วงวิกฤต ได้มีกลุ่มลูกค้าสนใจติดต่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยเข้ามาเป็นจำนวนมาก ต่อมาหลังจากผู้ต้องหารับโอนเงินค่าหน้ากากอนามัยมาจากลูกค้าแล้ว ผู้ต้องหากลับไม่ส่งสินค้าให้กับลูกค้าแต่อย่างใด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 800,000 บาท ผู้เสียหายจึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าจะถึงที่สุด
ซึ่งต่อมาทางผู้เสียหายได้พยายามติดตามทวงถามเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ต้องหาเป็นจำนวนหลายครั้ง แต่ยังไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหามาพักอาศัยอยู่ที่ กรุงเทพฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ดำเนินคดีต่อไปจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
สืบเนื่องจากในช่วงการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งทุกภาคส่วนมีความต้องการหน้ากากอนามัยเป็นจำนวนมากนายนิติวัจน์ ผู้ต้องหาในคดีนี้ได้มีการประกาศขายหน้ากากอนามัยผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อค้ากำไรในช่วงวิกฤต ได้มีกลุ่มลูกค้าสนใจติดต่อสั่งซื้อหน้ากากอนามัยเข้ามาเป็นจำนวนมาก ต่อมาหลังจากผู้ต้องหารับโอนเงินค่าหน้ากากอนามัยมาจากลูกค้าแล้ว ผู้ต้องหากลับไม่ส่งสินค้าให้กับลูกค้าแต่อย่างใด เป็นเหตุให้มีผู้ได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายกว่า 800,000 บาท ผู้เสียหายจึงได้เข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาจนกว่าจะถึงที่สุด
ซึ่งต่อมาทางผู้เสียหายได้พยายามติดตามทวงถามเรียกร้องค่าเสียหายจากผู้ต้องหาเป็นจำนวนหลายครั้ง แต่ยังไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายแต่อย่างใด พนักงานสอบสวนจึงได้รวบรวมพยานหลักฐาน และขออนุมัติหมายจับจากศาลเพื่อติดตามจับกุมผู้ต้องหา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมได้สืบสวนจนทราบว่า ผู้ต้องหามาพักอาศัยอยู่ที่ กรุงเทพฯ จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ เมื่อพบผู้ต้องหาจึงได้ทำการจับกุมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองยะลา ดำเนินคดีต่อไปจากการสอบถามผู้ต้องหาให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา