แม้สถานการณ์แพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้ไม่สามารถเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติได้ แต่ก็ยังสามารถกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในประเทศได้จากกลุ่มคนไทยและชาวต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) ดังนั้นในช่วงที่ผ่านมาหน่วยงานที่ดูแลในเรื่อท่องเที่ยวทั้ง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) และองค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท.ภายใต้ความรับผิดชอบของ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่างคิดค้นเพื่อปรับแผนการทำงานเพื่อรุกตลาดที่หลากหลายมากขึ้น รวมไปถึงในวันที่ 10-11 ตุลาคม 2563 จะมีแคมเปญ Explore the Unseen Thailand หรือ เรารู้จักกันดีพอหรือยัง นำมาเชิญชวนเพื่อนชาวต่างชาติที่พำนักหรือทำงานอยู่ในประเทศไทย ได้รู้จักประเทศไทยและแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทยให้ดีขึ้น จัดทำรูปแบบท่องเที่ยวโดยชุมชน ทั้งนี้ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า ช่วงที่ผ่านมาได้นำทั้งคณะทูตและนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ทำงานในไทย หรือกลุ่มเอ็กซ์แพทที่มีประมาณ 2 ล้านคน ไปสัมผัสกับชุมชนใน 6 เส้นทางของชุมชนยั่งยืน พื้นที่คุ้งบางกะเจ้า อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ ที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้วิถีชีวิตและธรรมชาติที่อยู่ติดกับพื้นที่กรุงเทพฯ ซึ่งได้รับมาตรฐานความปลอดภัย ด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว พิพัฒน์ รัชกิจประการ พร้อมกันนี้ได้เตรียมจัดกิจกรรมรูปแบบเดียวกันที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ด้วยการเดินทางโดยรถยนต์ และล่องเรือกลับมากรุงเทพฯ ซึ่งจะประสานงานกับทางบริษัทนำเที่ยวในการจัดทำเส้นทางท่องเที่ยวภายในประเทศ นำเสนอขายให้กับนักท่องเที่ยวกลุ่มเอ็กซ์แพท และกลุ่มคนไทย ทั้งนี้จะเป็นรูปแบบการท่องเที่ยวโดยชุมชนเป็นหลัก ด้าน นายชูวิทย์ มิตรชอบ รักษาการผู้อำนวยการ องค์การบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน หรือ อพท. กล่าวว่า ปัจจุบันชุมชนที่ อพท.พัฒนาขึ้นตามหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน และตามเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก มีรวม 80 ชุมชน ที่พร้อมส่งมอบให้ ททท. และบริษัทนำเที่ยว นำไปจัดทำเป็นเส้นทางเสนอขายต่อนักท่องเที่ยวทั้ง คนไทยและชาวต่างชาติ อีกทั้งยังได้ร่วมกับเอกชนท่องเที่ยว สำรวจ 40 ชุมชนจากจำนวนทั้งหมด 80 ชุมชนที่พร้อมขาย นำมาจัดทำเป็นเส้นทางการท่องเที่ยว คาดว่าจะได้เส้นทางการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่า 20 เส้นทางพร้อมเสนอขาย เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศทั้งกลุ่มคนไทย และเอ็กซ์แพท สร้างเมืองเป็นเวิร์ลคลาสเดสติเนชั่น พร้อมกันนี้ นายชูวิทย์ ยังกล่าวต่อว่า เวลานี้ทางอพท. ได้วางเป้าหมายพัฒนาให้จังหวัดเลยเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับเวิร์ลคลาส เพื่อให้เกิดความยั่งยืนด้านการท่องเที่ยว ยกระดับให้เป็นเมืองท่องเที่ยวและพักผ่อนให้เป็นที่ยอมรับในระดับสากล ด้วยการนำหลักเกณฑ์การท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนโลก หรือ GSTC และเกณฑ์การท่องเที่ยวโดยชุมชน หรือ CBT เป็นหลักในการพัฒนา อีกทั้งยังได้นำ นโยบายของ นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ที่กำหนดไว้ 4 ด้าน เพื่อการพัฒนาการท่องเที่ยว ได้แก่ Safe การท่องเที่ยวอย่างปลอดภัย Clean สะอาดสวยงาม Fair มีความเสมอภาค เป็นธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบ หรือหลอกลวงนักท่องเที่ยว บริการด้วยใจ และ Sustainability ความยั่งยืน สร้างชุมชนท่องเที่ยว เพิ่มขีดความสามารถให้ท้องถิ่นบริหารจัดการการท่องเที่ยวได้ด้วยตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางภายในประเทศได้จากทั้งกลุ่มคนไทยและต่างชาติที่พำนักในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) ชูวิทย์ มิตรชอบ เสริมฐานการตลาดไทยเที่ยวไทย ขณะที่ นายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) กล่าวว่า ปัจจุบันตลาดเอ็กซ์แพทในไทยมีมากกว่า 2 ล้านคนทั่วประเทศถือเป็นกลุ่มที่มีกำลังซื้อสามารถช่วยจับจ่ายกระตุ้นเศรษฐกิจไทยให้ฟื้นตัวจากวิกฤติโควิด-19 ดังนั้นทางททท. จึงต้องปรับแผนรุกทำตลาดด้วยการเสริมฐานการตลาดไทยเที่ยวไทยด้วยกัน 3 กลุ่ม คือ 1.ตลาดคนไทยเที่ยวนอกซึ่งมีกำลังซื้อสูง แต่ยังไม่สามารถตีตั๋วบินไปเมืองนอกได้ โดยเมื่อปี 2562 มียอดคนไทยเดินทางไปต่างประเทศถึง 12-13 ล้านคน 2.ตลาดการจัดประชุมสัมมนา ซึ่งน่าจะฟื้นตัวเมื่อเริ่มปีงบประมาณ 2564 หรือช่วงเดือนตุลาคม 2563 3.ตลาดชาวต่างชาติที่พำนักอาศัยอยู่ในประเทศไทย (เอ็กซ์แพท) โดยมีการขอความร่วมมือจากกระทรวงการต่างประเทศ เพื่อพิจารณาออกบัตรแสดงตน Expat Travel Card แก่เอ็กซ์แพทในไทย เพื่อใช้แสดงตน ในการเข้าใช้บริการหรือเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ โดยจ่ายในราคาเท่ากับคนไทย เป็นการช่วยลดต้นทุนการเดินทางให้กับกลุ่มเอ็กซ์แพทได้อีกทาง ยุทธศักดิ์ สุภสร ทั้งนี้ นายยุทธศักดิ์ ได้กล่าวถึง ตลาดเอ็กซ์แพทชาวจีน ที่ปัจจุบันอาศัยอยู่ในไทยประมาณ 1.5 แสนคนจากทั้งหมด 3 แสนคน โดยอีกครึ่งหนึ่งยังไม่สามารถเดินทางกลับเข้าไทยได้เพราะติดข้อจำกัดด้านการเดินทาง ดังนั้นทางททท.จึงได้ร่วมกับอาลีเพย์ แพลตฟอร์มการชำระเงินดิจิทัลชั้นนำในประเทศจีนซึ่งดำเนินงานโดยแอนท์ กรุ๊ป และฟลิกกี้ แพลตฟอร์มให้บริการท่องเที่ยวออนไลน์ในเครืออาลีบาบากรุ๊ปจัดแคมเปญ Local Chinese Expats Domestic Travel กระตุ้นให้ชาวจีนในไทยเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งแคมเปญดังกล่าว ถือเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ระหว่างรัฐบาลไทยและอาลีบาบา ที่ร่วมลงนามข้อตกลงกันตั้งแต่ปี 2561