นายอภิชาติ ชโยภาส กรรมการผู้จัดการ บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงความคืบหน้าจากทางบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส ผู้รับจ้างกู้เรือ ว่า ล่าสุดสามารถยกรถพ่วงขึ้นมาได้แล้ว 3 พ่วง (หัว 2 หาง 1) โดยหัวรถพ่วงที่ยกขึ้นมาวันที่ 22 กันยายน อยู่ในสภาพที่มีผ้าใบคลุมอยู่ อีกทั้งภายในรถพ่วงพบก้อนขยะอยู่จำนวนมาก จึงได้แจ้งประสานไปยังบริษัทค้าร่วม ปัญจะ ลัคกี้ คลีน เอ็นไวรอนเมนทอล ให้มารับขยะที่นำขึ้นมาไปดำเนินการต่อให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ การปฏิบัติการกู้เรือราชา 4 ได้เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้ทำการพลิกเรือให้กลับมาอยู่สภาพหงายพร้อมลอยลำช่วงกลางเดือน แต่จากสภาพอากาศคลื่นลมแรง เนื่องจากมีมรสุมพัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ทางบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส แจ้งขอพักปฏิบัติการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย ก่อนกลับมาเริ่มปฏิบัติการอีกครั้งในวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทฯ ตั้งใจดำเนินการกู้เรือให้แล้วเสร็จตามแผนที่แจ้งไว้ คือ ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และยืนยันว่าที่ผ่านมาได้เตรียมมาตรการป้องกันและอุปกรณ์ต่างๆ ไว้รองรับทั้ง บูมกันน้ำมัน ม่านดักตะกอน ผ้าซับน้ำมัน และสารสลายคราบน้ำมัน พร้อมทั้งติดตั้งอวนล้อมรอบบริเวณจุดปฏิบัติการและเรือประมงเล็ก เพื่อดักเก็บขยะบางส่วนที่อาจหลุดลอยออกมาอย่างเต็มที่
ด้านบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส จำกัด ได้ส่งแผนปฏิบัติการกู้เรือล่าสุด หลังมีการปรับแผนจากช่วงพายุโนอึลพัดผ่าน โดยแจ้งรายงานว่า เมื่อวันที่ 21-22 กันยายน ได้ทำการยกรถบรรทุกสิบล้อพร้อมพ่วง 1 คัน และหัวรถบรรทุกสิบล้อพ่วง 1 หัว ขึ้นจากน้ำได้แล้ว และจะดำเนินการยกรถบรรทุกพ่วงที่เหลือต่อไป ทั้งนี้ เพื่อทอนน้ำหนักเรือ ก่อนทำการยกเรือราชา4 ขึ้นสู่ผิวน้ำ สูบน้ำออกและส่งมอบเรือให้บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ที่ฝั่งดอนสัก และแม้การทำงานจะผจญกับมรสุม จนบางครั้งส่งผลกระทบต่อการทำงาน เนื่องจากมีคลื่นลม และกระแสน้ำแรง ถึงกระนั้นก็ยืนยันว่าจะสามารถกู้เรือราชา4 ขึ้นสู่ผิวน้ำ และส่งมอบให้ได้ตามแผนที่กำหนดไว้
ทั้งนี้ การปฏิบัติการกู้เรือราชา 4 ได้เริ่มตั้งแต่ช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา และได้ทำการพลิกเรือให้กลับมาอยู่สภาพหงายพร้อมลอยลำช่วงกลางเดือน แต่จากสภาพอากาศคลื่นลมแรง เนื่องจากมีมรสุมพัดผ่านพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ทางบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส แจ้งขอพักปฏิบัติการชั่วคราว เพื่อความปลอดภัย ก่อนกลับมาเริ่มปฏิบัติการอีกครั้งในวันที่ 21 กันยายน ที่ผ่านมา โดยทางบริษัทฯ ตั้งใจดำเนินการกู้เรือให้แล้วเสร็จตามแผนที่แจ้งไว้ คือ ภายในสิ้นเดือนกันยายนนี้ และยืนยันว่าที่ผ่านมาได้เตรียมมาตรการป้องกันและอุปกรณ์ต่างๆ ไว้รองรับทั้ง บูมกันน้ำมัน ม่านดักตะกอน ผ้าซับน้ำมัน และสารสลายคราบน้ำมัน พร้อมทั้งติดตั้งอวนล้อมรอบบริเวณจุดปฏิบัติการและเรือประมงเล็ก เพื่อดักเก็บขยะบางส่วนที่อาจหลุดลอยออกมาอย่างเต็มที่
ด้านบริษัท เอ็ม.เอส.เซอร์วิส จำกัด ได้ส่งแผนปฏิบัติการกู้เรือล่าสุด หลังมีการปรับแผนจากช่วงพายุโนอึลพัดผ่าน โดยแจ้งรายงานว่า เมื่อวันที่ 21-22 กันยายน ได้ทำการยกรถบรรทุกสิบล้อพร้อมพ่วง 1 คัน และหัวรถบรรทุกสิบล้อพ่วง 1 หัว ขึ้นจากน้ำได้แล้ว และจะดำเนินการยกรถบรรทุกพ่วงที่เหลือต่อไป ทั้งนี้ เพื่อทอนน้ำหนักเรือ ก่อนทำการยกเรือราชา4 ขึ้นสู่ผิวน้ำ สูบน้ำออกและส่งมอบเรือให้บริษัท ท่าเรือราชาเฟอร์รี่ ที่ฝั่งดอนสัก และแม้การทำงานจะผจญกับมรสุม จนบางครั้งส่งผลกระทบต่อการทำงาน เนื่องจากมีคลื่นลม และกระแสน้ำแรง ถึงกระนั้นก็ยืนยันว่าจะสามารถกู้เรือราชา4 ขึ้นสู่ผิวน้ำ และส่งมอบให้ได้ตามแผนที่กำหนดไว้