บริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด หรือ SIC ซึ่งเป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) หรือ ALT กับบริษัทราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน)ร่วมกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางธุรกิจว่าด้วยการนำโครงข่ายโทรคมนาคมและพื้นที่ในการติดตั้งอุปกรณ์โครงข่ายโทรคมนาคมของ กฟผ.ที่มีอยู่ในปัจจุบันและในอนาคต มาให้บริการและใช้งานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด ความร่วมมือทางธุรกิจนี้เป็นความก้าวหน้าในการขยายโครงข่ายโทรคมนาคมของ SIC ให้ครบวงจรภายใต้โครงการ Fiber Space เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการแก่ลูกค้า และยังเป็นการส่งเสริมศักยภาพการใช้งานโครงข่ายโทรคมนาคมที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยโครงการ Fiber Space พัฒนาขึ้นเพื่อรองรับความต้องการในการเชื่อมต่อบริการและช่วยยกระดับคุณภาพบริการด้านโทรคมนาคมของประเทศไทย และรองรับความต้องการที่ขยายตัวของภูมิภาคอาเชียน (AEC) อย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป สำหรับโครงข่าย กฟผ.มีจุดเด่นด้านเสถียรภาพสูงสุด เพราะโครงข่ายติดตั้งอยู่บนเสาสายส่งไฟฟ้าแรงดันสูงที่มีกระจายอยู่ทั่วประเทศประมาณ 500,000 กิโลคอร์/ 250 สถานีฐาน ทำให้ SIC มีขีดความสามารถและศักยภาพในการให้บริการบริษัทผู้ให้บริการอินเตอร์เน็ต (Operators) ในระดับที่แข่งขันได้ดียิ่งขึ้น นายสมคิด ประดิษฐ์เสรี ผู้อำนวยการฝ่ายจัดการธุรกิจ กฟผ.เปิดเผยว่า กฟผ. มีความยินดีอย่างยิ่งในการร่วมกันให้บริการธุรกิจโทรคมนาคม โดยการเชื่อมต่อโครงข่ายหลัก (Backbone)ของ กฟผ.ซึ่งปัจจุบันมีศักยภาพในการบริหารจัดการระบบโครงข่ายไฟเบอร์ออพติกในรูปแบบของ Optical Fiber with Overhead Ground Wire (OPGW) บนเสาสายส่งไฟฟ้าแรงสูงทั่วประเทศที่ใช้สื่อสารควบคุมการผลิตและการส่งพลังงานไฟฟ้า โดยนำส่วนที่เหลือจากการใช้งานในภารกิจหลักของ กฟผ.มาเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Fiber Space เพื่อบริหารทรัพย์สินอุปกรณ์โทรคมนาคมของทั้งสององค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ มุ่งเสริมความแข็งแกร่งของศักยภาพโครงข่ายในการให้บริการร่วมกัน หรือ Telecom Network Sharing ซึ่งจะช่วยลดการลงทุนซ้ำซ้อนในการสร้างโครงข่ายโทรคมนาคมของประเทศ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและความเสถียรภาพของการสื่อสารในภูมิภาคอาเซียน นางปรีญาภรณ์ ตั้งเผ่าศักดิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สมาร์ท อินฟราเนท จำกัด กล่าวว่า ความแข็งแกร่งโครงข่ายของ กฟผ.ส่งผลให้โครงการ Fiber Space ของ SIC เป็นโครงข่ายที่ครบวงจรที่สุด โดยครอบคลุมทั้งโครงข่ายในท่อสื่อสารใต้ดิน,โครงข่ายอากาศบนเสาไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โครงข่ายบนเสาไฟฟ้าแรงสูงของกฟผ.,โครงข่ายบนรถไฟฟ้า,โครงข่ายบนทางด่วน และโครงข่ายตามแนวเสาโทรเลขของการรถไฟแห่งประเทศ และโครงข่ายเชื่อมต่อต่างประเทศ ผลจากโครงการดังกล่าวจะช่วยลดการลงทุนซ้ำซ้อนของแต่ละ Operator อีกทั้งได้ประโยชน์ด้านค่าธรรมเนียม (USO) โดยสามารถนำไปลดหย่อนกับ กสทช. ได้ด้วย สำหรับโครงข่ายของ กฟผ.จะสามารถนำมาให้บริการลูกค้าได้ใน 15 กันยายน 2563 และSIC ตั้งเป้าหมายที่จะขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้นอีก 50% SIC เป็นบริษัทร่วมทุนระหว่างบริษัทราชกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 51 และบริษัทเอแอลที เทเลคอม จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 49 มีทุนจดทะเบียนรวม 550 ล้านบาท และดำเนินธุรกิจให้บริการเช่าโครงข่ายสายใยแก้วนำแสง