เมื่อเวลา 14.30 น. วันที่ 22 ก.ย.63 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี น.ส.เอ นามสมมุติ อายุ 29 ปี พร้อมแฟนหนุ่ม เดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพชร ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอให้ช่วยเหลือในเรื่องคดี เนื่องจากตนเองเกิดความอับอายเป็นอย่างมากที่ถูกคนงานของพี่สาวแอบถ่ายภาพขณะอาบน้ำ เกรงว่าภาพดังกล่าวจะหลุดไปในโลกโซเชี่ยล
น.ส. เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองทำงานกับพี่สาวและพี่เขย ซึ่งประกอบอาชีพรับจัดงานอีเว้นท์ตามที่ต่างๆ โดยพี่สาวและพี่เขยเปิดสำนักงาน หมู่บ้านเฟื่องฟู 1 หมู่ 4 ซอยลำโพ15 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตนเองก็ทำงานช่วยพี่เขยและพี่สาวในสำนักงาน มาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ช่วงเวลา 17.30 น. ขณะตนกำลังอาบน้ำภายในห้องน้ำชั้นล่างของสำนักงานระหว่างนั้นสังเกตุเห็นตรงช่องหน้าต่างมีกล้องโทรศัพท์มือถือกำลังถ่ายมาที่ตนเอง จึงร้องเอะอะโวยวายและรีบนุ่งผ้าออกมา พบว่าคนที่แอบถ่ายคือนายวทัญญู บุญเฟื่อง อายุ19 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ คนงานของพี่สาวและพี่เขยซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเป็นคนแอบถ่ายจริง และได้ลบภาพออกจากโทรศัพท์หมดแล้ว โดยพี่สาว ได้ลงโทษให้นายวทัญญูออกจากงานไป แต่ตนเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับกลัวภาพจะหลุดออกไปในโลกโซเชี่ยล จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุทน จิตตภูมิภักดี ร้อยเวรสภ.บางบัวทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวทัญูญู พร้อมมอบคลิปขณะนายวทัญูญูแอบถ่ายตนเอง"หนูกินไม่ได้นอนไม่หลับเครียดมากกับเรื่องนี้จนต้อง ลาออกจากงานที่ทำกับพี่เขยและพี่สาวเพร่ะความอับอาย อีกทั้งเกรงว่านายวทัญญูจะปล่อยภาพหนูไปในโลกโซเชี่ยล จึงอยากให้ทนายรณณรงค์ช่วยเร่งรัดคดีตำรวจให้นำตัวนายวทัญญูมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด"
ขณะที่ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ผู้เสียหายมีวงจรปิดที่เห็นหน้าคนร้ายด้วย จะได้ประสานพนักงานสอบสวนเร่งขอศาลออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย คดีนี้ถือเป็นความผิดฐานกระทำการอนาจารแก่บุคลคลอื่น มีโทษจำคุกสูง 10 ปี ปรับไม่เกินสองแสน ไม่ใช่เบา ไม่ใช่เรื่องเล็ก การที่เขาบันทึกคลิปไปเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปเผยแพร่หรือทำอะไรบ้าง จริงๆแล้วต้องยึดทุกอย่างมาแล้วค่อยไล่ออกจากงาน เพราะทุกอย่างเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ถ้าเกิดใครคิดจะส่งคลิปตรงนี้ต่อ เป็นความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุที่ 4 นำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร จะถูกดำเนินคดีไปด้วย โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทไม่สามารถยอมความได้
น.ส. เล่าเหตุการณ์ว่า ตนเองทำงานกับพี่สาวและพี่เขย ซึ่งประกอบอาชีพรับจัดงานอีเว้นท์ตามที่ต่างๆ โดยพี่สาวและพี่เขยเปิดสำนักงาน หมู่บ้านเฟื่องฟู 1 หมู่ 4 ซอยลำโพ15 ต.ลำโพ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตนเองก็ทำงานช่วยพี่เขยและพี่สาวในสำนักงาน มาเมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ช่วงเวลา 17.30 น. ขณะตนกำลังอาบน้ำภายในห้องน้ำชั้นล่างของสำนักงานระหว่างนั้นสังเกตุเห็นตรงช่องหน้าต่างมีกล้องโทรศัพท์มือถือกำลังถ่ายมาที่ตนเอง จึงร้องเอะอะโวยวายและรีบนุ่งผ้าออกมา พบว่าคนที่แอบถ่ายคือนายวทัญญู บุญเฟื่อง อายุ19 ปี ชาวจังหวัดศรีสะเกษ คนงานของพี่สาวและพี่เขยซึ่งเจ้าตัวเองก็ยอมรับว่าเป็นคนแอบถ่ายจริง และได้ลบภาพออกจากโทรศัพท์หมดแล้ว โดยพี่สาว ได้ลงโทษให้นายวทัญญูออกจากงานไป แต่ตนเองก็กินไม่ได้นอนไม่หลับกลัวภาพจะหลุดออกไปในโลกโซเชี่ยล จึงเข้าแจ้งความกับ ร.ต.อ.สุทน จิตตภูมิภักดี ร้อยเวรสภ.บางบัวทอง เพื่อให้ดำเนินคดีกับนายวทัญูญู พร้อมมอบคลิปขณะนายวทัญูญูแอบถ่ายตนเอง"หนูกินไม่ได้นอนไม่หลับเครียดมากกับเรื่องนี้จนต้อง ลาออกจากงานที่ทำกับพี่เขยและพี่สาวเพร่ะความอับอาย อีกทั้งเกรงว่านายวทัญญูจะปล่อยภาพหนูไปในโลกโซเชี่ยล จึงอยากให้ทนายรณณรงค์ช่วยเร่งรัดคดีตำรวจให้นำตัวนายวทัญญูมาดำเนินการตามกฎหมาย โดยยืนยันจะเอาเรื่องถึงที่สุด"
ขณะที่ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า ผู้เสียหายมีวงจรปิดที่เห็นหน้าคนร้ายด้วย จะได้ประสานพนักงานสอบสวนเร่งขอศาลออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย คดีนี้ถือเป็นความผิดฐานกระทำการอนาจารแก่บุคลคลอื่น มีโทษจำคุกสูง 10 ปี ปรับไม่เกินสองแสน ไม่ใช่เบา ไม่ใช่เรื่องเล็ก การที่เขาบันทึกคลิปไปเราก็ไม่รู้ว่าเขาจะเอาไปเผยแพร่หรือทำอะไรบ้าง จริงๆแล้วต้องยึดทุกอย่างมาแล้วค่อยไล่ออกจากงาน เพราะทุกอย่างเรียกกลับคืนมาไม่ได้ ถ้าเกิดใครคิดจะส่งคลิปตรงนี้ต่อ เป็นความผิดตาม พรบ.คอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุที่ 4 นำเข้าข้อมูลลามกอนาจาร จะถูกดำเนินคดีไปด้วย โทษจำคุก 5 ปี ปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทไม่สามารถยอมความได้