จากกรณีโลกสังคมออนไลน์โพสต์และแชร์ภาพหญิงสาวซึ่งทำงานภายในสถานบันเทิงแห่งหนึ่งถูกลูกค้าเพศชายพยายามเดินปรี่เข้ามาชกต่อยแต่ไม่สำเร็จก่อนขว้างแก้วใส่เข้าใบหน้าจนได้รับอาการบาดเจ็บหลังไม่พึงพอใจที่พนักงานสาวไม่ยอมดื่มสุราด้วย จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถึงการกระทำดังกล่าวไปต่างๆนานา คืบหน้าล่าสุดเมื่อวันที่ 27 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 23 มิ.ย. เกี่ยวเนื่องวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา ขณะที่ผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือน.ส.วิภาดา หรือโมจิ จิรธัญโชคชัย อายุ 24 ปี ประกอบอาชีพเป็นพีอาร์ประจำสถานบันเทิง เชอร์เบท ซอยสุขุมวิท 63 แขวงคลองตันเหนือ เขตวัฒนา กทม. กำลังปฏิบัติหน้าที่ภายในสถานที่ตามปกติจู่ๆมีชายวัยกลางคนทราบชื่อต่อมาคือนายไกรวิณ ชัยนาจิตร อายุ 37 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าได้เชิญชวนให้ดื่มสุราแต่ผู้เสียหายกลับปฏิเสธพร้อมทั้งบอกว่าขอตัวไปดื่มน้ำ จนเป็นเหตุให้ฝ่ายชายเกิดความไม่พึงพอใจประกอบกับมีอาการมึนเมาสุราจึงด่าทอพร้อมทั้งพยายามเข้าไปชกต่อยเพื่อหวังทำร้ายร่างกายแต่เพื่อนฝ่ายชายได้ช่วยกันเข้าห้ามปราบ โดยนะหว่างนั้นฝ่ายหญิงได้เดินเลี่ยงออกมา แต่ฝ่ายชายยังมีอารมณ์ฉุนเฉียวก่อนตัดสินใจใช้แก้วสุราปาเข้าที่ใบหน้าของผู้เสียหายเข้าอย่างจังส่งผลให้ใบหน้าบวมปูด เหนือคิ้วฝั่งซ้ายเกิดแผลฉีกขาดจนเลือดอาบท่วมใบหน้า หลังจากนั้นเพื่อนผู้เสียหายได้ให้การช่วยเหลือปฐมพยาบาลเบื้องต้นก่อนเร่งนำตัวส่งรพ.สุขุมวิท เพื่อเข้ารับการรักษาอาการอย่างเร่งด่วน ก่อนตัดสินใจพากันมาแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สน.ทองหล่อ เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานในช่วงเวลา 01.50 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. ที่ผ่านมา น.ส.วิภาดา กล่าวว่า โดยก่อนเกิดเหตุตนดูแลลูกค้าซึ่งทราบภายหลังว่าเป็นเพื่อนของผู้ที่ลงมือก่อเหตุที่ตั้งโต๊ะอยู่ติดกันก่อนเกิดเหตุการณ์ดังกล่าว ภายหลังเกิดเหตุมีตัวแทนของฝ่ายผู้ก่อเหตุติดต่อมาหาตนเรื่องขอดูแลค่ารักษาพยาบาลรวมทั้งขอให้ลบโพสต์บนเฟซบุ๊กเนื่องจากเกรงว่าจะมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานของฝ่ายผู้ก่อเหตุซึ่งตนได้ลบทิ้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว อีกทั้งในช่วงเวลาประมาณ 19.00 น. ของวันที่ 24 มิ.ย. ผู้ก่อเหตุได้โทรศัพท์มาขอโทษตนโดยบอกว่าเกิดจากอาการมึนเมาสุราจากนั้นก็เงียบหายไปเลย นอกจากนี้ตนทำงานที่ร้านดังกล่าวมานานกว่า 1 ปี เพื่อหาเงินมาศึกษาเล่าเรียนต่อแต่หลังเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวจึงต้องหยุดพักรักษาตัว โดยตนขอยืนยันจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ด้านร.ต.อ.ศุภากร ทิพพิลา รอง สว.(สอบสวน) สน.ทองหล่อ เปิดเผยว่า ในวันนี้ทางพนักงานสอบสวนได้เชิญตัวผู้เสียหายพร้อมด้วยพยานผู้เห็นเหตุการณ์มาทำการสอบปากคำเพิ่มเติมเพื่อสรุปในสำนวนคดี โดยขณะนี้จากการสอบสวนทราบตัวผู้ลงมือก่อเหตุเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายโดยการออกหมายเรียกหากไม่มาพบตามระยะเวลาที่กำหนดจะออกหมายจับอีกครั้ง โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่เตรียมแจ้งข้อหา "ทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอาการบาดเจ็บ" ส่วนในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนได้รับอาการบาดเจ็บสาหัส" นั้นยังไม่สามารถดำเนินการได้เนื่องจากต้องรอผลตรวจร่างกายจากทางแพทย์ต่อไป