ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธาน มีมติเห็นชอบประกาศให้วันที่ 19 พ.ย.และวันที่ 20 พ.ย. เป็นวันหยุดเพิ่มเติม เพื่อให้ต่อเนื่องกับวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ดังนั้น จึงเท่ากับเป็นการหยุดต่อเนื่อง 4 วัน คือวันที่ 19-22 พ.ย. นอกจากนี้ ยังเห็นชอบประกาศให้วันที่ 11 ธ.ค. เป็นวันหยุดเพิ่มเติม จะทำให้มีวันหยุดต่อเนื่อง 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-13 ธ.ค. ทั้งนี้ เพื่อให้ประชาชนออกมาท่องเที่ยวเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดย น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงผลประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า ครม.เห็นชอบกําหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยในเดือนต.ค.2563 มีวันหยุดราชการในวันอังคารที่ 13 ต.ค. และวันศุกร์ที่ 23 ต.ค. จํานวน 2 วัน อยู่แล้วซึ่งเพียงพอต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจ จึงไม่กําหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษสําหรับเดือนต.ค. อย่างไรก็ตามในเดือนต.ค.นี้ส่วนราชการต่างๆ มีกําหนดจัดพิธีถวายผ้ากฐิน ณ วัด ต่าง ๆ ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด จึงควรใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการจับจ่าย ใช้สอยของภาครัฐ โดยให้สํานักงาน ก.พ. แจ้งเวียนหน่วยงานของรัฐกรณีมีกําหนดการ ถวายผ้ากฐิน ณ วัดต่างจังหวัดในวันเสาร์หรือวันอาทิตย์ ซึ่งข้าราชการอาจต้องเดินทางไปเตรียมการล่วงหน้าในวันศุกร์ หรือเดินทางกลับในวันจันทร์ ก็ให้ถือเป็นการปฏิบัติราชการ ตามปกติโดยไม่ถือเป็นการลาสําหรับหน่วยงานนั้น ส่วนการกําหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษในเดือนพ.ย.63 เนื่องจากเดือนพ.ย. ไม่มีวันหยุดนักขัตฤกษ์ จึงเห็นสมควรกําหนดวันหยุดราชการเพิ่มเติมเพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจและการจับจ่ายใช้สอย โดยกําหนดให้มีวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษในวันพฤหัสบดีที่ 19 พ.ย. และวันศุกร์ที่ 20 พ.ย.63 ซึ่งจะทําให้มีวันหยุดราชการต่อเนื่องไปถึงวัน เสาร์ - วันอาทิตย์ ตั้งแต่วันที่ 19-22 พ.ย.63 รวมทั้งสิ้น 4 วัน ทั้งนี้ การกําหนดให้มีวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษดังกล่าว ไม่ถือเป็น วันหยุดราชการประจําปีและไม่จําเป็นต้องถือเป็นวันหยุดตามเงื่อนไขสัญญาสัมปทานฯ ของ การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ทางด่วนกรุงเทพเหนือ จํากัด ในการยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษในวันหยุดราชการ ประจําปีและวันหยุดนักขัตฤกษ์ สำหรับการกําหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษในเดือนธ.ค.63นั้น เนื่องจากเดือนธ.ค. มีวันหยุดราชการในวันเสาร์ที่ 5 ธ.ค. ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเฉลิมพระชนมพรรษารัชกาลที่ 9 ซึ่งจะหยุดชดเชยในวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. ส่วนวันพฤหัสบดีที่ 10 ธ.ค.เป็นวันรัฐธรรมนูญ โดยที่เดือนธ.ค.นี้ อาจจะมีการเลือกตั้งท้องถิ่นทั่วประเทศในวันอาทิตย์ของสัปดาห์ใดสัปดาห์หนึ่ง ตามกระทรวงมหาดไทยเตรียมการอยู่ จึงให้เลื่อนวันหยุดชดเชยจากวันจันทร์ที่ 7 ธ.ค. ไปหยุดชดเชยในวันศุกร์ที่ 11 ธ.ค. ซึ่งจะทําให้มีวันหยุดราชการต่อเนื่องรวม 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 10-13 ธ.ค.63 อย่างไรก็ตามการกําหนดวันหยุดพิเศษเหล่านี้ บางหน่วยงานที่อาจมีการนัดประชาชน ไว้แล้ว สามารถพิจารณาตามความเหมาะสมได้ เช่น โรงพยาบาล ศาล ธนาคาร สถาบันการเงิน นอกจากนี้ ครม.ยังได้มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปศึกษา เกี่ยวกับการกําหนดวันหยุดราชการประจําภูมิภาคตามเทศกาลประเพณีท้องถิ่นที่สําคัญของแต่ละภูมิภาค ซึ่งไม่มีนัยสําคัญต่อภูมิภาคอื่น เช่น ประเพณียี่เป็งของภาคเหนือ ประเพณีไหลเรือไฟ ของภาคอีสาน ประเพณีสารทเดือนสิบของภาคใต้ และควรทําตารางกิจกรรมท่องเที่ยว ของแต่ละท้องที่ในแต่ละเดือน โดยอาจหารือกระทรวงวัฒนธรรมด้วย นอกจากนี้ยังให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับไปศึกษาเกี่ยวกับการกําหนดวันหยุดราชการครึ่งวัน เป็นกรณีพิเศษ เช่น ครึ่งบ่ายของวันศุกร์ และครึ่งเช้าของวันจันทร์ ซึ่งผู้ประกอบการโรงแรมเสนอ ว่าจะช่วยให้ได้ประโยชน์จากระยะเวลาการพํานักที่ยาวนานขึ้น