กรณีกรมอุตุนิยมวิทยาประกาศเตือนภัย เนื่องจากสภาพอากาศภาคใต้(ฝั่งตะวันตก) ในช่วงวันที่ 18 - 20 ก.ย. 63 เมฆมากกับมีฝนฟ้าคะนองกับมีฝนตกหนักถึงหนักมากและลมแรง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ ตรัง และสตูล อาจส่งผลทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และอันตรายจากแรงลม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่18-20 ก.ย. เกิดเหตุฝนตกต่อเนื่องเกิดพายุฝนฟ้าคะนองและลมกรรโชกแรง ทำให้มีต้นไม้หักโค่นล้มพาดสายไฟฟ้าส่งผลเสาไฟหักโค่นล้มลงกับพื้น ได้รับความเสียหายและไม่สามารถใช้เส้นทางสัญจรได้อย่างสิ้นเชิง บริเวณริมถนนทางเข้าบ้านของประชาชน เขตตำบลถ้ำน้ำผุด อำเภอเมืองพังงา หลังได้รับรายงาน โดย นายกองโท อดุลย์ ชูทอง นายอำเภอเมืองพังงา พร้อมด้วยนายถนัด ชาญเสนะ ปลัดอำเภอเมืองพังงา นำกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่การไฟฟ้า ประชาชนจิตอาสาตำบลถ้ำน้ำผุด ลงตรวจสอบพื้นที่ และได้เข้าทำการรื้อถอนเสาไฟฟ้าที่หักโค่นและต้นไม้ที่ล้มขวางเส้นทาง ก่อนซ่อมแซมและเคลียพื้นที่กระทบจนสามารถกลับมาสัญจรได้ตามปกติ ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ต่อจากนั้นคณะนายอำเภอเมืองพังงา ยังเดินทางต่อลงตรวจสอบพื้นที่และสถานการณ์น้ำในพื้นที่อำเภอเมืองพังงา พบว่า ปริมาณน้ำคลองเข้าท่วมในสวนปาล์มชาวบ้าน ในพื้นที่ หมู่ที่ 3 ตำบลป่ากอ จำนวน 2 ไร่ ซึ่งปริมาณน้ำกำลังลดระดับลงต่อเนื่อง โดยนายอำเภอเมืองพังงา ได้กำชับให้ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 3 และ อบต.ป่ากอ จัดเวรยามสำหรับเตรียมความพร้อมในการเฝ้าระวังพื้นที่ในการช่วยเหลือประชาชน