เคสเด็ก 2 ขวบกลับเมียนมาแล้วพบติดเชื้อจากเมืองไทย ประสานสาธารณสุขพื้นที่สอบสวนโรคพบพ่อแม่เด็กเคยทำงานบริษัทอิฐบล็อกที่ปากช่อง โคราช ตั้งแต่ต.ค.62 ต่อมาปลายเดือนมิ.ย.ลาออกไปสมัครทำงานที่ตลาด อ.อุทัย อยุธยา เร่งตรวจสอบติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดทั้งที่เคยทำงานร่วมหรืออยู่ร่วมกับครอบครัวนี้ พร้อมย้ำให้คนไทยมั่นใจมาตรการป้องกันโรคของไทย เมื่อวันที่ 17 ก.ย.63 นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบรายละเอียดกรณีเด็กชาวเมียนมาอายุ 2 ขวบติดเชื้อโควิด 19 ขณะเดินทางกลับประเทศเมียนมาจากประเทศไทย นั้น กรมควบคุมโรคได้มอบหมายให้กองระบาดวิทยา และหน่วยงานในสังกัดกรมควบคุมโรคในพื้นที่ ได้แก่ สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 4 จังหวัดสระบุรี (สคร.4 จ.สระบุรี) ซึ่งดูแลพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 9 จังหวัดนครราชสีมา (สคร.9 จ.นครราชสีมา) ประสานสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการตรวจสอบรายละเอียดและทำการสอบสวนโรคกรณีดังกล่าว ทางสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ได้มีการสอบสวนโรคและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ซึ่งเคยทำงานหรือเคยอาศัยกับครอบครัวนี้เพื่อตรวจหาการติดเชื้อต่อไป จากการตรวจสอบรายละเอียดในเบื้องต้น พบว่าบิดามารดาของผู้ติดเชื้อเคยเข้ามาทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ที่ประกอบธุรกิจอิฐบล๊อกในอ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2562 โดยมีประวัติขึ้นทะเบียนทำงานที่จ.นครราชสีมา รวมถึงประวัติการตรวจสุขภาพที่ รพ.ปากช่องนานา เพื่อซื้อประกันสุขภาพแรงงานต่างด้าว และจากการสัมภาษณ์เพื่อนแรงงานชาวเมียนมา พบว่าวันที่ 25 มิ.ย.63 ได้ลาออกจากบริษัทดังกล่าวทั้งสองคน และเดินทางพร้อมบุตรสาว ออกจากบริษัทโดยมีรถตู้มารับเพื่อเดินทางไปทำงานที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ในวันที่ 26 ส.ค.63 และจากข้อมูลในระบบออนไลน์ของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง จ.พระนครศรีอยุธยา พบว่ามีการสมัครเข้าทำงานที่ตลาดแห่งหนึ่งในอ.อุทัย จ.พระนครศรีอยุธยา ทั้งนี้ กรมควบคุมโรค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะดำเนินมาตรการป้องกันควบคุมโรคที่เหมาะสมต่อไป นพ.สุวรรณชัย กล่าวอีกว่า ขอให้ประชาชนมั่นใจในระบบป้องกันควบคุมโรคของไทย ที่มีความเข้มแข็งและดำเนินการอย่างเข้มข้นต่อเนื่อง รวมถึงการป้องกันและจำกัดการแพร่ระบาดของโรค แม้จะมีการระบาดอย่างต่อเนื่องในประเทศเพื่อนบ้าน หากประชาชนมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่สายด่วน กรมควบคุมโรค โทร. 1422