"พาณิชย์"หารือทางไกลกับสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน และบริษัทชั้นนำของยุโรปที่ทำธุรกิจในอาเซียนกว่า 50 ราย แลกเปลี่ยนมุมมองการรับมือวิกฤตโควิด-19 และแนวทางการฟื้นฟูเศรษฐกิจ เผยไทยได้ย้ำเดินหน้าร่วมมือการค้า ส่งเสริมการลงทุน พร้อมแลกเปลี่ยนการฟื้นเจรจาเอฟทีเอไทย-สหภาพยุโรป และชี้แจงความคืบหน้าอาร์เซ็ป นายสรรเสริญ สมะลาภา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 15 ก.ย.63 ที่ผ่านมา ได้รับมอบหมายจาก นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้เข้าร่วมหารือกับสภาธุรกิจสหภาพยุโรป-อาเซียน (EU-ASEAN Business Council: EU-ABC) ผ่านระบบการประชุมทางไกล กับบริษัทชั้นนำของยุโรปที่ดำเนินธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนกว่า 50 ราย เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองของไทยเกี่ยวกับการรับมือกับวิกฤตการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และการฟื้นเศรษฐกิจในระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยในการหารือ ไทยได้สร้างความเชื่อมั่นให้กับภาคเอกชนสหภาพยุโรปว่าไทยให้ความสำคัญกับการยกระดับความสัมพันธ์ทางการค้ากับสหภาพยุโรป การอำนวยความสะดวกทางการค้าด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล การส่งเสริมการลงทุนจากต่างชาติ การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การยกระดับมาตรฐานสินค้าส่งออกของไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตรและอาหาร ขณะเดียวกัน ได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับประเด็นการค้าอื่นๆ เช่น การฟื้นการเจรจาความตกลงการค้าเสรี (เอฟทีเอ) ไทย-สหภาพยุโรป ความคืบหน้าของความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) และการลดอุปสรรคด้านมาตรการที่มิใช่ภาษีของอาเซียน เป็นต้น "การหารือครั้งนี้ ได้รับความสนใจจากภาคเอกชนสหภาพยุโรปเป็นอย่างมาก โดย EU-ABC มีกำหนดหารือกับรัฐมนตรีการค้าเวียดนาม มาเลเซีย และสิงคโปร์ เป็นลำดับถัดไปปลายเดือนก.ย.63 ซึ่งสะท้อนถึงโอกาสทางการค้าระหว่างภูมิภาคยุโรปและอาเซียนในอนาคต" นายสรรเสริญ กล่าว สำหรับ EU-ABC เป็นสภาธุรกิจที่จัดตั้งขึ้นเมื่อปี 57 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านธุรกิจระหว่างภาคเอกชนยุโรปกับอาเซียน ปัจจุบันมีสมาชิกเป็นหอการค้าของประเทศยุโรปในภูมิภาคอาเซียน 9 แห่ง และบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ของยุโรปกว่า 30 บริษัท ครอบคลุมธุรกิจหลากสาขา เช่น ยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ ยาและเวชภัณฑ์ สินค้าอุปโภคบริโภค การเงิน และโลจิสติกส์ เป็นต้น