ทายาทผู้สร้างตำนาน"ไอ้ไข่"เผยที่มาเด็กวัดเจดีย์

เปิดตัวคุณตาทัศน์ เมืองอินทร์ ลูกชายผู้ใหญ่เที่ยง คนแกะสลักไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ เผยช่วงนี้มีคนมาหาที่บ้านจะพาไปปั้นไข่ให้เยอะมาก จนรู้สึกตัวองไม่ปลอดภัย พร้อมระบุ ได้พ่อแกะสลักรูปไอ้ไข่แค่ 3 รูปเท่านั้นอยู่ที่วัดเจดีย์ ขณะคนที่ถูกพักงานยังเก็บตัวเงียบ ไม่ออกมาแสดงความคิดเห็น ไม่มีเงินเดือนเป็นทีมจิตอาสาของวัด ที่วัดเจดีย์ ต.ฉลอง อ.สิชล จ.นครศรีธรรมราช ได้มีคุณตาทัศ เมืองอินทร์ อายุ 95 ปี บุตรคนที่ 3 ของผู้ใหญ่เที่ยง เมืองอินทร์ ซึ่งเป็นผู้ที่แกะสลักรูปไอ้ไข่เด็กวัดเจดีย์ได้มาหาพระครูพุทธเจติยาภิมณฑ์ หรือ อาจารย์แว่น เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ ในบริเวณที่ได้มีการนำที่ดิน 50 ไร่มาทำเป็นป่าชุมชนปลูกข้าว ปาล์ม และภูมิปัญญาชาวบ้าน โดยมีชาวบ้านรอบๆ วัดมาช่วยกันทำเพื่อจะทำให้เป็นป่าล้อมวัด โดยมีการตกแต่งเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเพื่อให้ชาวบ้านรอบวัดได้ช่วยกันทำนาปลูกข้าวไว้กินรวมถึงคนที่เข้ามากราบไหว้บูชาไอ้ไข่ได้พักผ่อนกับบรรยากาศสีเขียวโดยได้ดำเนินการอยู่ในขณะนี้ โดยคุณตาทัศน์ ได้บอกกับทางเจ้าอาวาสว่า ช่วงนี้รู้สึกเหมือนจะไม่ค่อยปลอดภัย เพราะมีคนแปลกหน้าไปหาที่บ้านเพื่อจะพาไปช่วยปั้นรูปไอ้ไข่ให้กับวัดอื่น และได้ปฏิเสธไปทั้งหมด เพราะไอ้ไข่มันอยู่ที่วัดเจดีย์มาตั้งหลายร้อยปีแล้ว จะให้ไปอยู่ที่อื่นอย่างไร โดยคุณตาทัศน์ ได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนยังจำความได้สมัยเด็กๆ พ่อคือผู้ใหญ่เที่ยง บอกว่าเมื่อก่อนที่ตรงที่วัดตั้งอยู่เป็นป่าธุดงค์มีลานหญ้าและมีพระอยู่รูปหนึ่ง ซึ่งพระรูปนั้นทุกวันนี้อยู่ในโบสถ์ โดยพ่อได้เอาวัวเอาควายมาผูกล่ามให้กินหญ้าอยู่แถวนี้แล้วพ่อเห็นเด็กคนหนึ่งมาเล่นกองทราย โดยกองทรายนี้จะเป็นกองทรายที่ชาวบ้านมาก่อไว้เป็นที่ปักธงที่ชาวบ้านนำมาถวายวัด ซึ่งเด็กคนนั้นเข้าใจว่าคือวิญญาณของไอ้ไข่นั่นเอง และเวลาวัวควายหรือข้าวของชาวบ้านในสมัยนั้นหายก็จะมีการบนบานที่เจดีย์กองทรายตรงนี้ ขอให้เจอก็จะพบเจอตลอด โดยการบนบานสมัยก่อนเค้าจะถวายธงทิวไม่ได้ถวายไก่เหมือนปัจจุบัน พ่อเห็นเด็กมาเล่นบนกองทราย พอเด็กมาเห็นพ่อก็จะกระโดดไปซ่อนอยู่ข้างหลังพระ พ่อเห็นถึง 3 ครั้ง เด็กคนนี้ก็วิ่งหนีอีก พ่อก็เดินไปดูว่าเด็กคนนี้เป็นยังไงถึงหาไม่พบ พอพ่อก็กลับบ้านแล้วกลางคืนนั่งกินข้าวกับแม่ก็นั่งคุยกันว่า ที่วัดเจดีย์ไม่ใช่มีแต่พระ มีเด็กอยู่คนหนึ่งด้วย แม่ของตาก็ถามว่าเด็กหญิงหรือเด็กชาย พ่อของตาก็บอกว่าเด็กชายแม่ตาก็ถามว่าเด็กชายชื่ออะไร พ่อของตาก็บอกว่าถ้าเด็กชายก็ชื่อ “ไอ้ไข่” หลังจากนั้นพ่อของตาก็ทำรูปไอ้ไข่ทำมา 2 รูป เนื้อไม้ผุพังหมดจนมาถึงรูปสุดท้าย ตอนนั้นเค้ามีการตัดถนนและมีต้นตะเคียนอยู่ต้นหนึ่งก็ได้มีการตัดมาไว้ที่บ้าน จากนั้นพ่อของตาก็แกะสลักออกมาเป็นรูปไอ้ไข่ เมื่อแกะเสร็จก็มีการแห่ขบวนกลองยาวมาไว้ที่โบสถ์วัดเจดีย์ ตั้งแต่ตอนนั้นเมื่อมีใครมาขออะไรหากเอ่ยชื่อไอ้ไข่ก็จะได้สมปรารถนา ชาวบ้านก็จะมาจุดประทัด นำของเล่นเด็กมาแก้บนตั้งแต่สมัยโบราณ “ยังจำคำพ่อที่พูดไว้ว่า วัดเจดีย์ต่อไปจะเป็นวัดที่เจริญมาก ตายังนึกในใจว่าจะเจริญอย่างไรเพราะวัดเจดีย์เป็นวัดร้างที่รกมากที่สุดของจังหวัด และวัดที่เจริญก็เพราะท่านเจ้าอาวาสองค์นี้แหละที่มีการพัฒนาวัดมาตลอด ตาเห็นวัดมาตลอด ที่มีคนโจมตีว่าวัดเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ไม่มีเลย เขาทำกันแบบบริสุทธิ์ใจทั้งนั้น ตอนนี้มีแต่คนพยายามจะลบล้างแต่ลบล้างไม่ได้เพราะเค้าทำความดีไม่ได้ทำไม่ดีและเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเรื่องที่พูดยาก” คุณตาอินทร์กล่าวอีกว่าพ่อแกะสลักรูปไอ้ไข่ให้อยู่ที่วัดเจดีย์ซึ่งเปรียบเสมือนวัดของไอ้ไข่ ไอ้ไข่ก็ต้องอยู่ที่นี้เท่านั้น จะไปอยู่ที่อื่นได้อย่างไร ผู้สื่อข่าวรายงานถึงกรณีที่เจ้าหน้าที่วัดถูกพักงาน 16 คน ว่า ขณะนี้ไม่มีใครออกมาแสดงตัวและแสดงความคิดเห็นในเรื่องนี้แต่อย่างใด โดยมีรายงานข่าวแจ้งว่า ทุกคนยอมรับว่าทำหน้าที่บกพร่องที่ปล่อยให้มีคนมาแหกกฎ และขอแสดงความรับผิดชอบตามกฎที่ทางวัดตั้งไว้ ขณะกรรมการวัดคนหนึ่งได้ออกมาโพสต์ลงในเฟซบุ๊กว่า “ไม่ต้องชี้แจง ไม่ต้องมาแสดงมารับผิดชอบ 16 ชีวิต ที่นี้ไม่ใช่ถ้ำนางนอน การบริหารการจัดการของชุมชนของจิตอาสาไม่ใช่เป็นอย่างที่คุณคิด ไม่ใช่ระบบของคุณ โปรดเข้าใจด้วย ไม่ต้องมาโลกสวย มาเพื่อประโยชน์ทั้งนั้น เคยคิดบ้างไหม มาเพื่อขอพรและได้บุญ” จนมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางว่า “เขามีกฎแต่มาแหกกฎของเขา เป็นการกระทำที่ถูกต้องแล้วหรือ”