วันที่ 16 ก.ย.63 นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณี นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ออกมาท้าตนดีเบตออกทีวี ตระกูล ชินวัตรกับ จันทร์โอชา ใครเอื้อประโยชน์ให้ครอบครัวตัวเอง ว่า ตนไม่แน่ใจว่านายสุภรณ์ ได้ขออนุญาต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม หรือยัง เพราะโอกาสจะเข้าเนื้อถูกวิพากษ์วิจารณ์รีรัน ขยายแผลซ้ำเติมตัวเอง โดยไม่มีความจำเป็นมีสูงมาก นายอนุสรณ์ กล่าวอีกว่า นายสุภรณ์ ยังคงคิดการเมืองแบบเก่า แยกไม่ได้ว่าอันไหนเป็นปัญหาเชิงโครงสร้าง อันไหนเป็นปัญหาเชิงระบบ ยังคงติดยึดกับตัวบุคคล บนฐานทัศนคติอวยผู้นำเพื่อความอยู่รอด เอาเฉพาะการเข้าสู่ตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของ ดร. ทักษิณ ชินวัตร กับ นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ชนะการเลือกตั้งจากเสียงของพี่น้องประชาชนทั้งประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ก็สู้ไม่ได้ ตัวพล.อ.ประยุทธ์ เองยังยอมรับมาตลอดว่า เข้ามาไม่ถูกต้อง เพราะรัฐประหารยึดอำนาจเข้ามา และเขียนรัฐธรรมนูญสืบทอดอำนาจ จนประเทศเดินมาถึงจุดวิกฤติ "ผมไม่ได้มีปัญหากับตระกูล จันทร์โอชา เป็นการส่วนตัว เพียงแต่มีข้อสังเกต เหมือนกับที่ประชาชนตั้งคำถาม ซึ่งทุกเรื่องเป็นข้อเท็จจริงที่สังคมสงสัย พล.อ.ประยุทธ์ มีประเด็นเรื่องการพักอาศัยในบ้านพักทหารหลังเกษียณอายุราชการ ที่ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาวินิจฉัยอยู่ พล.อ.ปรีชา มีกรณี ขาดประชุมสนช. 394 วัน จาก 400 วัน แต่ยังถูกเลือกให้เป็น สว. มีกรณีบรรจุลูกชายเป็นทหาร แล้วอ้างว่าใครๆก็ทำกัน ลูกชายตั้งบริษัทในค่ายทหารประมูลงานของกองทัพ เหล่านี้เป็นประเด็นข้อเท็จจริงที่ต้องพิสูจน์ หรือนายสุภรณ์ จะยืนยันว่า ไม่เคยมีเรื่องเหล่านี้เกิดขึ้นเลย" โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวต่อว่าในขณะที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีเข้าสู่ปีที่ 7 แต่ ตระกูลชินวัตร ไม่ได้ยุ่งเกี่ยวกับการเมือง ใครควรถูกวิพากษ์วิจารณ์ นายสุภรณ์ ยังแยกแยะไม่ได้ ถือว่าลำบากแล้ว ตนไม่รู้ว่านายสุภรณ์ ควรจะได้รับคำชม หรือ คำตำหนิ อยู่ดีๆก็ให้ฝ่ายค้าน เอาข้อวิพากษ์วิจารย์ที่ประชาชนสงสัยมารีรันใหม่ ขยายแผลซ้ำแล้วซ้ำอีก ลำพังในสภา กับบนเวทีปราศรัยของนักเรียนนิสิตนักศึกษาประชาชนทั่วประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ก็บอบช้ำหนักอยู่แล้ว ยังมาท้าดีเบตอีก จะเสียหายหนักกว่าเดิม ส่วนถ้าอยากดีเบตตนไม่มีปัญหา เพราะไม่ใช่ไม่เคยดีเบตกัน สภาพเป็นอย่างไรก็ไปดูในยูทูปได้ แต่ควรเอาประเด็นที่เป็นประโยชน์ร่วมของสังคมมาดีเบต มากกว่า เช่น ทำไมต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ จะหาทางออกให้กับวิกฤติชาติอย่างไร ประชาชนตัดสินใจได้ ใครพูดโดยยึดหลักการ ใครพูดโดยยึดเอาตัวบุคคลเป็นหลัก หวังเอาใจผู้บังคับบัญชา "นายสุภรณ์ ไปเอาความมั่นใจมาจากไหนมาท้าตน ดีเบต ไม่ใช่ว่า ใครพูดเก่งกว่าใคร เอาแค่ หลักการประชาธิปไตย กรอบแนวคิดทฤษฎี สภาพปัญหาที่วิกฤติ คิดมุมไหน ก็สู้ยาก เหมือนยืนเถียงกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ ถ้าพอมีเวลาก็ไปฟังนักเรียนนิสิตนักศึกษาประชาชนพูดบ้าง จะได้รู้ว่าโลกวันนี้เปลี่ยนไปมากแค่ไหน" นายอนุสรณ์ กล่าว.