ลานบ้านกลางเมือง/บูรพา โชติช่วง: ชมอุทยานการเรียนรู้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ในหน้าประวัติศาสตร์ของคนระยอง เมืองระยองในหน้าประวัติศาสตร์ชาติไทย นั่นคือสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งมาตั้งฐานที่มั่นเมืองระยอง เพื่อที่ยกทัพกลับไปกู้คืนกรุงศรีอยุธยาจากกองทัพอังวะพม่า เรื่องราวหน้าประวัติศาสตร์นี้ ที่อุทยานการเรียนรู้ สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช จังหวัดระยอง จะนำพาผู้ชมย้อนไปในเหตุการณ์ผ่านรูปนิทรรศการถาวรส่วนหนึ่ง และการสร้างอุทยานการเรียนรู้ฯ นี้ ทางจังหวัดระยองริเริ่มขึ้นโดยได้รับความร่วมมือจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสร้างขึ้นในโอกาสครบรอบ 250 ปีการกู้กรุงศรีอยุธยาของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เพื่อรำลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และเพื่อแสดงความสำคัญของเมืองระยองในฐานะชัยภูมิที่พระองค์มุ่งมาตั้งมั่นอยู่นานถึง 4 เดือนเศษ จนมีความพร้อมสามารถเปลี่ยนยุทธศาสตร์จากการถอยเป็นรุกกลับ และกู้คืนกรุงศรีอยุธยาได้สำเร็จ หาใช่เพียงทางผ่านทัพอย่างที่คนทั่วไปเข้าใจกัน จากข้อมูลอุทยานการเรียนรู้ฯ แนวคิดหลักในการนำเสนอเนื้อหานิทรรศการที่มุ่งเน้นให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ความสำคัญของเมืองระยอง และความเสียสละกล้าหาญของนักรบระยอง ทำให้เมืองระยองเป็นฐานที่มั่นสำคัญที่ทำให้พระองค์มีความพร้อมทุกด้าน ยกทัพกลับไปกอบกู้อธิปไตย จนสถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานีแห่งใหม่ได้สำเร็จ ด้วยรูปแบบจัดแสดงที่เน้นใช้สื่อมัลติมีเดียเทคนิคที่ตื่นเต้น สมจริง สอดคล้องกับเนื้อหา ผู้ชมมีส่วนร่วมไปกับบรรยากาศเหตุการณ์ต่างๆ ทั้ง 6 โซน ได้แก่ โซนที่ 1 โหมโรมเจ้าตากสิน เกริ่นนำเพื่อปูพื้นฐานความเข้าใจถึงเหตุของสงครามครั้งสำคัญจนถึงขั้นเสียกรุงศรีอยุธยา ครั้งที่ 2 พระปรีชาสามารถของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช นับแต่ตีฝ่าวงล้อมกองทัพอังวะพม่ามุ่งหน้ามาตั้งมั่นที่เมืองระยอง ชัยภูมิสำคัญที่สามารถรบรวมไพร่พล ยุทโธปกรณ์และเสบียง จนกลับไปกู้คืนกรุงศรีอยุธยาได้ภายในเวลาเพียง 7 เดือน โซนที่ 2 อวสานสิ้นโยธยา บอกเล่าช่วงเวลาคับขันที่กรุงศรีอยุธยาใกล้จะแตก ข่าวลือเรื่องทัพ “พระยาตาก” ที่มุ่งหน้ามาตะวันออกเป็นที่โจษขานและอยู่ในความสนใจของคนระยอง ด้วยเทคนิคการฉายภาพยนตร์จำลองบรรยากาศของ “ตลาดท่าประดู่” ตลาดโบราณเมื่อ 200 กว่าปีก่อน โดยมีการสนทนาของวีรชนคนระยองที่มุ่งมั่นจะเข้าร่วมทัพพระยาตากเป็นตัวเดินเรื่อง โซนที่ 3 มุ่งบูรพาสรรหาไพร่พล ขยายความเหตุการณ์ปะทะกันของทัพ “พระยาตาก” กับทหารอังวะและชุมนุมท้องถิ่น นับแต่ตีฝ่าวงล้อมออกจากค่ายวัดพิชัยมุ่งหน้าไปภาคตะวันออก เน้นให้เห็นพระปรีชาสามารถทั้งการเจรจาและการใช้ยุทธวิธีการรบตามตำราพิชัยสงคราม ด้วยเทคนิค Graphic animation Mapping บนจอโค้งขนาดใหญ่ พร้อมเสียงประกอบเร้าใจ โซนที่ 4 ประกาศตนองค์ราชันย์ กล่าวถึงช่วงที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชนำทัพมาปักหลักที่เมืองระยอง รวบรวมไพร่พลและยุทธปัจจัยได้มากพอจะเปลี่ยนยุทธศาสตร์จากการถอยเป็นการรุกกลับและกู้อธิปไตยคืนจากทัพอังวะได้ในที่สุด ด้วยจอภาพยนตร์ 180 องศา เสมือนจริงด้วยเทคนิค 4D พร้อมให้ผู้ชมได้จับอาวุธเสมือนว่าเป็นทหารในกองรบของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช โซนที่ 5 สร้างเขตขัณฑ์กรุงธนบุรี เล่าเรื่องที่สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชได้สถาปนากรุงธนบุรีขึ้นเป็นราชธานี โดยการจำลองบรรยากาศท้องพระโรงภายในพระราชวังที่เน้นศิลปะสมัยกรุงธนบุรี โดยมีจุดเด่นอยู่ที่พระบรมรูปจำลองของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชในช่วงพระชนมายุ 33 พรรษา ซึ่งเป็นช่วงที่ทรงยกทัพมาถึงเมืองระยอง ให้ผู้ชมได้น้อมถวายสักการะและถ่ายภาพเป็นที่ระลึก โซนที่ 6 ถิ่นคนดีเมืองระยอง กล่าวถึงความอุดมสมบูรณ์ของผืนแผ่นดินเมืองระยองนับแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน ทั้งเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรม ธรรมชาติ สินค้าท้องถิ่นชื่อดังของอำเภอต่างๆ และชาวระยองที่ประสบความสำเร็จในแวดวงต่างๆ อันเป็นประจักษ์พยานของเมืองระยอง สำหรับที่ตั้งอุทยานการเรียนรู้สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช อยู่ซอยวัดเนิน (นครระยอง 66) หลังการประปาส่วนภูมิภาค ข้างวัดลุ่มฯ ตำบลท่าประดู่ อำเภอเมืองระยอง เปิดวันอังคาร–วันอาทิตย์ (หยุดทุกวันจันทร์) บริการวันละ 4 รอบ เริ่ม 09.30 – 16.00 น. ไม่เสียค่าเข้าชม และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด-19 ด้วยความมุ่งหวังของจังหวัดระยองและผู้มีส่วนร่วมในการสร้างสรรค์นิทรรศการนี้ นอกจากต้องการให้เป็นพื้นที่เรียนรู้เพื่อความเข้าใจประวัติศาสตร์ในช่วงเวลาดังกล่าวแล้ว ยังหวังให้เกิดการรับรู้และความเข้าใจใหม่ในความสำคัญของเมืองระยองที่เป็น “หนึ่งในยุทธศาสตร์การกู้ชาติ” ของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เกิดความภาคภูมิใจในความกล้าหาญเสียสละของบรรพบุรุษชาวระยอง เหนือสิ่งอื่นใดคือการตระหนักถึงพระปรีชาสามารถและพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช พระมหากษัตริย์ผู้ทรงกอบกู้บ้านเมืองจนเป็นปึกแผ่นมาตราบจนทุกวันนี้ เครดิตภาพ กระทรวงวัฒนธรรม