เมื่อวันที่ 13 ก.ย.63 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ อ.บ้านแพง จ.นครพนม ภายหลังมีข้อมูลว่า ในทุกปีช่วงวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 จะเกิดปรากฎการณ์ธรรมชาติ บั้งไฟพญานาค ขึ้น บริเวณลำน้ำโขง จุดท่าเทียบเรือ บ้านโพธิ์ไทร หมู่ 2 และบ้านโพธิ์ทอง หมู่ 8 ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ซึ่งเป็นอีกจุดสำคัญ ที่มีประชาชน นักท่องเที่ยว ให้ความสนใจ จากประเพณีความเชื่อ ความศรัทธา เรื่องปรากฎการณ์ บั้งไฟพญานาค นอกเหนือจากพื้นที่ จ.หนองคาย โดยมีชาวบ้าน ยืนยันว่า จากการเก็บข้อมูล และพบเห็นปรากฎการณ์ บั้งไฟพญานาค มาตั้งแต่ปี 2549 ต่อเนื่องมาจนถึงปี 2562 ซึ่งมีการรวบรวมเก็บสถิติมาทุกปี รวม 14 ปี ปีแรกคือ 2549 จำนวน 18 ดวง ปี 2550 จำนวน 9 ดวง ปี 2551 จำนวน 28 ดวง ปี 2552 จำนวน 5 ดวง ปี 2553 จำนวน 7 ดวง ปี 2554 จำนวน 31 ดวง ปี 2555 จำนวน 32 ดวง ปี 2556 จำนวน 11 ดวง ปี 2557 จำนวน 19 ดวง ปี 2558 จำนวน 16 ดวง ปี 2559 จำนวน 25 ดวง ปี 2560 จำนวน 24 ดวง ปี 2561 จำนวน 18 ดวง ปี 2562 จำนวน 19 ดวง ส่วนปีมากสุดคือ ปี 2555 จำนวน 32 ดวง ทำให้ชาวบ้าน รวมถึงประชาชน นักท่องเที่ยว เริ่มเดินทางมาเฝ้ารอชมปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาคมากขึ้นทุกปี โดยเฉพาะเมื่อปี 2562 ที่ผ่านมา ทางอำเภอบ้านแพง ได้ร่วมกับ ชาวบ้านในพื้นที่ ต.ไผ่ล้อม จัดกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยว พร้อมประกอบพิธีรำบูชาพญานาค ตามประเพณีความเชื่อของชาวลุ่มน้ำโขง เพื่อเป็นการสักการบูชา บอกกล่าว และขอพรให้องค์พญานาค และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ในแม่น้ำโขง ได้แสดงปรากฎการณ์ธรรมชาติ ให้มากขึ้นทุกปี ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจการค้า การท่องเที่ยวตามมา ด้าน นายธีรชาติ ผาลี อายุ 63 ปี ส.อบต.บ้านโพธิ์ทอง อดีต ผญบ.บ้านโพธิ์ทอง หรือลุงหลอย เปิดเผยว่า พื้นที่บ้านโพธิ์ไทร และบ้านโพธิ์ทอง ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม เป็นหมู่บ้านติดกับแม่น้ำโขง ที่มีวิถีชีวิตความเป็นอยู่ผูกพันธ์กับน้ำโขงมาหลายชั่วอายุคน นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่มีโครงการก่อสร้างท่าเทียบเรือน้ำลึก และเป็นจุดผ่อนปรนการค้าระหว่าง บ้านท่าสะอาด เมืองปากกระดิ่งแขวงบอริคำไซ สสป.ลาว ที่จะข้ามมาติดต่อค้าขายตามแนวชายแดน แต่ช่วงนี้ปิดชั่วคราวควบคุมโรคโควิด โดยจุดนี้ย้อนไปเมื่อปี 2549 ได้เกิดปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค ขึ้น เป็นปีแรก จำนวน 18 ดวง หลังจากก่อนนี้ มีชาวบ้านเคยร่ำลือว่าพบเห็นมาหลาย 10 ปี ตนจึงเฝ้าสังเกตการณ์ และเก็บสถิติมาต่อเนื่องทุกปี มาถึงปี 2562 รวม 14 ปี มีบั้งไฟพญานาคขึ้นทุกปี มากสุดปี 2555 มีมากถึง 32 ดวง ถือว่าเป็นสถานที่สำคัญ ที่เหมาะแก่การส่งเสริมการท่องเที่ยว และชมปรากฎการณ์ธรรมชาติ บั้งไฟพญานาค ในคืนวันออกพรรษา 15 ค่ำ เดือน 11 นอกจากงานประเพณีสำคัญของ จ.นครพนม คือไหลเรือไฟ ต่อไปเชื่อว่า ประชาชน นักท่องเที่ยว จะเดินทางมาเฝ้ารอชมบั้งไฟพญานาคมากขึ้น นอกจากพื้นที่ จ.หนองคาย ยิ่งในปีนี้คาดว่า เริ่มมีประชาชน นักท่องเที่ยวให้ความสนใจเตรียมที่จะมาเฝ้ารอชมมากขึ้น ถึงแม้อาจจะไม่มาก แต่เป็นปรากฎการณ์ที่เหนือธรรมชาติ และถือเป็นความเชื่อ ความศรัทธา เกี่ยวกับองค์พญานาค ที่ตนได้เห็นกับตาทุกปี ยืนยันยากที่จะสามารถทำขึ้นได้จากฝีมือมนุษย์ ลุงหลอย กล่าวถึงความเชื่ออีกว่า เรื่องของพญานาคอาจพิสูจน์ไม่ได้ แต่สำหรับคนแถบลุ่มน้ำโขง รวมถึง คนที่เคารพศรัทธา ยังมีความเชื่อตามตำนานเรื่องเล่า และเชื่อว่า น้ำโขงมีพญานาคดูแลปกปักษ์รักษา ส่วนใครจะเชื่อหรือไม่เชื่อเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่ตนเชื่อว่า คนแถบลุ่มน้ำโขงมีความเคารพศรัทธา รวมพื้นที่ลำน้ำโขงบ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ชาวบ้านหลายคนเชื่อว่า มีพญานาคดูแลรักษา และอาจจะเชื่อมไปยัง ฝั่ง สปป.ลาว รวมถึงสายน้ำโขง จ.หนองคาย ที่เชื่อมโยงเป็นเมืองพญานาคตามความเชื่อ ทำให้มีปรากฎการณ์บั้งไฟพญานาค ให้เห็นทุกปี ในคืนวันออกพรรา 15 ค่ำ เดือน 11 อีกจุดสำคัญ ยังสังเกตเห็นว่า ฝั่งตรงข้าม คือ บ้านท่าสะอาด เมืองปากกระดิ่งแขวงบอริคำไซ สสป.ลาว จะสามารถมองเห็นแนวเขา ที่เรียกว่า ภูงู ทอดยาว ที่มีลักษณะคล้ายตัวงูทอดยาวตามน้ำโขง อีกทั้งยังมีตำนานเรื่องเล่า ตามความเชื่อ พื้นที่ฝั่งลาว เป็นเมืองโบราณ ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงตำนานพญานาค ตำนานเมืองบาดาล ตามความเชื่อ สอดคล้องกัน ในพื้นที่ บ้านโพธิ์ไทร ต.ไผ่ล้อม อ.บ้านแพง จ.นครพนม ยังมีวัดโพธิ์ไทร ที่มีต้นโพธิ์ขนาดใหญ่ อายุ กว่า 100 ปี เกิดขึ้นพร้อมกับการก่อตั้งวัด และหมู่บ้าน ที่มีลักษณะแปลก คือ ลำต้น จะมี 7 ช่อ ชาวบ้าน เชื่อกันว่า เป็นต้นโพธิ์ศักดิ์สิทธิ์ ที่มีพญานาค 7 เศียร ปกปักษ์รักษา มีชาวบ้านเคยเห็นปรากฎการณ์แสงประหลาดพุ่งลงในวันพระบ่อยครั้ง ซึ่งอาจจะเชื่อมโยงเรื่องพญานาค ทำให้ชาวบ้านเคารพศรัทธากราบไหว้ขอโชคลาภ และยังเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ศูนย์รวมจิตใจชาวบ้านอีกด้วย