“ชวน”ชูหลัก"ธรรมาภิบาล"ลดปัญหาทุจริต ลั่นท่องจำ ไม่นำไปปฏิบัติไม่เกิดประโยชน์ ยกย่อง“วิชา-หมอยง-ธงชัย-จุรี-เอก์” บุคคลผู้มีธรรมาภิบาล เมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ห้องแซฟไฟร์ อิมแพ็คฟอรัม เมืองทองธานี คณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา ร่วมกับเครือข่ายสหวิทยาการในพระราชูปถัมภ์ของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาสยามบรมราชกุมารี จัดการประชุมวิชาการเนื่องในวันสหวิทยาการ ครั้งที่10 โดย นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “ธรรมาภิบาลกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในสังคมไทย” ตอนหนึ่งว่า ธรรมาภิบาลไม่ใช่เรื่องใหม่ นำมาใช้กันนานแล้ว โดยมี 6 หลัก ท่องจำได้ แต่ไม่มีการนำไปปฏิบัติ จึงทำให้ภาคราชการ ภาคเอกชน บริหารงานผิดพลาด เพราะความเกรงใจ ทำในสิ่งไม่ถูกต้อง มีพฤติกรรมที่แสวงหาประโยชน์ส่วนตนเองมากกว่าประโยชน์ส่วนรวม การคอร์รัปชันส่วนมากมาจากความโลภ ที่สำคัญความเกรงใจ ซึ่งปัญหาการทุจริตคอร์รัปชั่นของประเทศไทย เกิดจากธรรมาภิบาลภาคปฏิบัติที่ล้มเหลว เพราะความเกรงใจและละเลยการทำหน้าที่ของตน การจัดโครงการในครั้งนี้ เพื่อนำนโยบายแนวคิด “การเมืองสุจริต” ไปสู่การปฏิบัติโดยผ่านการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในสถาบันการศึกษา เยาวชน และนักศึกษา เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และระบบการเมืองสุจริต เพื่อให้กลุ่มเป้าหมายตระหนักถึงความสำคัญของคุณธรรมและจริยธรรม ความซื่อสัตย์สุจริตที่จะเป็นเครื่องมือนำพาประเทศเจริญก้าวหน้า ด้าน ศ.นพ.ยงยุทธ วัชรดุลย์ ราชบัณฑิต ในฐานะประธานกรรมการคณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา กล่าวว่า ปัญหาทุจริตในสังคมไทยมีมานาน เป็นปัญหาที่ทุกรัฐบาลให้ความสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทุจริตในวงราชการและรัฐวิสาหกิจ ไม่เว้นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในระดับภูมิภาค แม้จะมีการรณรงค์ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนก็ตาม แต่ก็ยังแก้ไม่ได้แบบเบ็ดเสร็จ ตรงกันข้ามกลับทวีความรุนแรงเพิ่มมากขึ้น ก่อให้เกิดความเสียหายมากมายทั้งในระดับชุมชน และสังคมของประชาชน คณะกรรมการสหวิทยาการเพื่อการวิจัยและพัฒนา สำนักงานราชบัณฑิตยสภา จึงเล็งเห็นความสำคัญของปัญหานี้ จึงจัดให้มีการประชุมเชิงวิชาการขึ้น เพื่อกระตุ้นจิตสำนึกของคนที่เกี่ยวข้องให้ตระหนักถึงความสำคัญของปัญหาทุจริตในสังคมไทย โดยมุ่งเน้นในการป้องกันและปราบปรามปัญหาทุจริตในทุกภาคส่วนแบบครบวงจร เป้าหมายสำคัญคือการขับเคลื่อนนำนโยบายไปสู่การปฏิบัติให้ได้ผลสำเร็จ จากนั้น นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ได้เป็นประธานมอบใบประกาศเกียรติคุณแก่ "บุคคลผู้มีธรรมาภิบาล” จำนวน 5 ท่าน ได้แก่ ศาสตราจารย์ พิเศษ วิชา มหาคุณ ประธานมูลนิธิต่อต้านการทุจริต ผู้ซึ่งนำหลักนิติธรรมไปใช้ ก่อให้เกิดความเที่ยงธรรม และความถูกต้องในสังคมไทย เป็นประโยชน์ต่อสาธารณชนและประเทศชาติ ศาสตราจารย์ นพ.ยง ภู่วรวรรณ ราชบัณฑิต ผู้ซึ่งนำหลักความคุ้มค่าไปใช้ในการบริหารจัดการ โดยยึดความประหยัดและความคุ้มค่า มุ่งเน้นไปที่ผู้รับบริการหรือประชาชนส่วนรวมอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล พลเอก ธงชัย เกื้อสกุล นายกสมาคมผู้ทำคุณประโยชน์เพื่อพระพุทธศาสนาแห่งประเทศไทย ผู้ซึ่งนำด้านคุณธรรมไปใช้รณรงค์สร้างค่านิยมที่ดีงามให้ผู้ปฏิบัติงานในองค์การหรือสมาชิกของสังคมได้ยึดถือปฏิบัติ รองศาตราจารย์ ดร.จุรี วิจิตรวาทการ เลขาธิการมูลนิธิองค์กรเพื่อความโปร่งใสในประเทศไทย ผู้ซึ่งนำด้านความโปร่งใสไปใช้ โดยการสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมที่เปิดเผย ตรวจสอบได้ และดร.เอก์ เหลืองสอาด นายกสมาคมผู้สื่อข่าวต้านคอร์รัปชั่น(ประเทศไทย) ผู้ซึ่งนำด้านความมีส่วนร่วม โดยสร้างความสามัคคีและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการต่อต้านการทุจริตคอร์รัปชั่น