กรมศิลป์สอบชำระ “กากีคำกลอน-ลิลิตกากี” วรรณคดีชั้นเยี่ยมของชาติ พร้อมจัดพิมพ์ปกใหม่ ภาพลายเส้นสีทองครุฑหน้าตรงจับนาคงดงาม วันนี้ (9 ก.ย. 63) ที่หอสมุดแห่งชาติ ท่าวาสุกรี นายอรุณศักดิ์ กิ่งมณี รองอธิบดีกรมศิลปากร เปิดตัวหนังสือ “กากีคำกลอนและลิลิตกากี” กล่าวว่า เรื่องกากีเป็นที่รู้จักในสังคมไทยมาตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยา กวีไทยนำมาสร้างสรรค์เป็นร้อยกรองหลายรูปแบบทั้งคำฉันท์ กลอนสวด กาพย์เห่ คำกลอน บทเห่กล่อมพระบรรทม และลิลิต แต่ละสำนวนนับเป็นมรดกวัฒนธรรมด้านวรรณศิลป์ที่ล้ำค่าของชาติ กรมศิลปากรตระหนักถึงความสำคัญของวรรณคดีเรื่องกากี จึงได้ตรวจสอบชำระและจัดพิมพ์หนังสือ “กากีคำกลอนและลิลิตกากี” ขึ้น เพื่อเผยแพร่วรรณคดีเรื่องสำคัญของชาติ วรรณคดีเรื่องกากี ที่พิมพ์อยู่ในหนังสือนี้ประกอบด้วย กากีคำกลอน เนื้อหาแบ่งออกเป็น 2 ภาค คือ ภาคต้นและภาคปลาย กากีคำกลอนภาคต้น เป็นผลงานของเจ้าพระยาพระคลัง (หน) กวีเอกในแผ่นดินพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช กากีคำกลอนสำนวนนี้นับเป็นวรรณคดีคำกลอนเรื่องเอกของไทย ใช้เป็นบทขับร้องในวงมโหรีสืบเนื่องมาตั้งแต่สมัยที่แต่ง จึงเรียกกันอีกอย่างหนึ่งว่า “บทมโหรีเรื่องกากี” กรมศิลปากรตรวจสอบชำระและพิมพ์เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อพุทธศักราช 2503 แต่เนื่องจากมีต้นฉบับสมุดไทยเก็บรักษาไว้ที่หอสมุดแห่งชาติหลายฉบับ แต่ละฉบับมีถ้อยคำลักลั่นแตกต่างกัน กรมศิลปากรจึงตรวจสอบชำระใหม่ดังที่พิมพ์อยู่ในหนังสือนี้ ส่วนกากีคำกลอนภาคปลายนั้น มีผู้ผูกเรื่องแต่งต่อจากกากีคำกลอนภาคต้นไปจนจบบริบูรณ์ พิจารณาจากสมุดไทยต้นฉบับและสำนวนกลอน น่าจะแต่งขึ้นราวรัชกาลที่ 4 ถึงรัชกาลที่ 5 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ กากีคำกลอนภาคปลายนี้กรมศิลปากรยังไม่เคยพิมพ์เผยแพร่มาก่อน ส่วน ลิลิตกากี แต่งเป็นลิลิตประกอบด้วยโคลงและร่ายแต่งสลับกัน มีโคลงท้ายเรื่องบอกไว้ว่าแต่งขึ้นในรัชกาลพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว ลิลิตกากีจึงเป็นวรรณคดีเรื่องกากีอีกสำนวนหนึ่งที่ยังไม่เคยพิมพ์เผยแพร่ ทั้งนี้กรมศิลปากร ได้จัดพิมพ์หนังสือ“กากีคำกลอนและลิลิตกากี” จำนวน 1,000 เล่ม จำหน่ายเล่มละ 230 บาท ปกหนังสือเป็นภาพลายเส้นสีทองครุฑหน้าตรงจับนาคงดงาม ออกแบบโดยอาจารย์สมชาย ศุภลักษณ์อำไพพร นายช่างศิลปกรรมอาวุโสสำนักช่างสิบหมู่ ผู้สนใจสามารถซื้อได้ที่ร้านหนังสือกรมศิลปากร เทเวศร์ หรือสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่ www.bookshop.finearts.go.th