สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล เคาะ 40 โครงการที่ขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนผ่านมาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อชุมชนในชนบท เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชน พร้อมเพิ่มขีดความสามารถในการดำเนินธุรกิจ และกระตุ้นเศรษฐกิจภาคชุมชนอย่างยั่งยืน คาดสร้างรายได้ให้ชุมชนและครัวเรือนไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาท ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลหรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตามที่นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มอบนโยบายให้ ดีป้า ดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วนเกิดการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัล โดยเฉพาะวิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการในชุมชนและชนบท เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างครบวงจร ช่วยสร้างรายได้ให้แก่ธุรกิจชุมชน รวมไปถึงการพัฒนาไปสู่การแข่งขันเชิงธุรกิจในรูปแบบใหม่ในระยะยาวได้อย่างทั่วถึง ซึ่งเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการกระตุ้นเศรษฐกิจให้ภาคธุรกิจชุมชน “มาตรการช่วยเหลือหรือการอุดหนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลเพื่อชุมชนในชนบท ทางชุมชนจะเป็นผู้เลือกใช้เทคโนโลยีดิจิทัลที่เหมาะสมกับธุรกิจหรือบริบทของตนเอง โดย ดีป้า จะไม่คิดแทน ทำแทน หรือทำให้ แต่ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนคิดเป็น ทำเอง และทำได้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้ ตรวจสอบ และวิเคราะห์ก่อนนำเทคโนโลยีเหล่านั้นไปใช้ประโยชน์ ซึ่งกระบวนการดังกล่าวจะช่วยยกระดับธุรกิจและคุณภาพชีวิตของชุมชนได้อย่างยั่งยืน อีกทั้งเป็นการขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล” โดยในที่ประชุมคณะอนุกรรมการพิจารณาการส่งเสริมและสนับสนุน ครั้งที่ 8/2563 ได้มีการพิจารณาเห็นชอบโครงการเข้ารับการพิจารณาเพื่อขอรับการส่งเสริมและสนับสนุนการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลในชุมชนทั้งหมด 40 โครงการทั่วประเทศ ประกอบไปด้วย ประเภทการสนับสนุนเทคโนโลยีไอโอที(Internet of Things) ในการเกษตรอัจฉริยะ (Smart Farm) จำนวน 22 โครงการ ประเภทการสนับสนุนเทคโนโลยี IoT ในโรงเห็ดและโรงอบพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 6 โครงการ ประเภทการสนับสนุนดิจิทัลแพลตฟอร์ม(Digital Platform) และแอปพลิเคชัน จำนวน 10 โครงการ และประเภทการสนับสนุนโดรนเพื่อการเกษตรจำนวน 2 โครงการ ซึ่งคาดการณ์ว่าจะช่วยลดต้นทุนและสร้างรายได้ให้แก่วิสาหกิจชุมชน ผู้ประกอบการในชุมชนและชนบทไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทต่อปี