น.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ ส.ส. ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ โพสต์ข้อความในเพจเฟซบุ๊กชื่อ ปารีณา ไกรคุปต์ ระบุว่า...#ชี้แจง เรื่อง ปปช ค่ะ สรุปสั้นๆว่า ตอนนี้ ถูกกล่าวหาเพียงข้อหาเดียวเท่านั้น คือ จงใจแจ้งทรัพย์สินเท็จ โดยแบ่งเป็น 3 ประเด็นดังนี้ 1.ปารีณาแจ้งว่านายประทีป มีพรบูชา กู้เงินไป7,700,000 บาท แต่นายประทีปบอกว่าไม่ได้กู้ ปปช จึงกล่าวหาว่า จงใจแจ้งทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ซึ่งปารีณา เตรียมเอกสารสัญญาเงินกู้ เอกสารการโอนลอยบ้านและที่ดิน เอกสารเช็คเพื่อชำระเงิน และเอกสารแจ้งความ พรบ เช็ค เพราะเช็คที่ชำระเด้ง ไปมอบให้แก่ปปช 2.แจ้งราคา ชื่อ พร้อมรูปลักษณ์ขอพระสมเด็จที่อดีตสามีเคยมอบให้ ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง อาจมีราคาสูงเกินจริง มีเจตนาจงใจแจ้งทรัพย์สินเท็จซึ่งอดีตก่อนแต่งงานปารีณา ไม่เคยแจ้งว่ามีพระเลย จนกระทั่งมาแต่งงานกับอดีตสามี และอดีตสามีได้มอบพระให้ตนและบอกว่าพระองค์นี้ชื่ออะไร ราคาเท่าไหร่ ยินดีพร้อมให้ตรวจสอบพระเครื่องดังกล่าว และสิ่งที่ ปปช ให้ความสนใจที่สุดคือเรื่อง #ราคา โดยขอยืนยันว่า ไม่เคยตีราคาให้สูงเกินจริง เพื่อเป็นประโยชน์ในทางพาณิชย์ ไม่เคยมีการนำพระไปให้เซียนตีราคา หรือพยายามจำหน่ายตั้งใจจะมอบพระเครื่องดังกล่าวให้กับลูกชาย เพราะลูกชายได้รับอุบัติเหตุบ่อย และสามีเคยมอบพระองค์เล็กๆให้ลูกชายแต่เอาคืนไปแล้ว เพราะตอนนั้นลูกชายยังเด็กกลัวหาย เลยตั้งใจว่าถ้าโตขึ้นจะเอาพระดังกล่าวให้ลูกชาย เพื่อเป็นสิริมงคล 3. ที่ดิน ภบท 5 ปารีณาเข้ามาครอบครองและเริ่มชำระภาษีดอกหญ้าตั้งแต่ประมาณปี 53 ตามเอกสารที่เคยยื่นให้กับ ปปช ไปแล้ว แต่เนื่องจากเลขาได้จัดเตรียมเอกสารผิดพลาด โดยนำเอาที่ดิน ภบท 5 พื้นที่เดียวกันนี้ แต่เป็นผู้ครอบครองคนอื่น..หรือผู้ครอบครองก่อน ที่ไม่ใช่ปารีณา ส่ง ปปช ไปด้วย และด้วยหมายเลข ภบท 5 ของพื้นที่เดียวกัน จะเปลี่ยนแปลงเลขที่ๆดิน ทุก 4 ปี เพราะป่าไม้เข้ามาสำรวจพื้นที่พร้อมกำนันผู้ใหญ่บ้านทุก 4 ปี จึงทำให้เลขแปลงมีการเปลี่ยนแปลงทุก 4 ปี ซึ่งเอกสารดังกล่าวคัดสำเนามาจาก อบต และที่ดิน ภบท 5 ที่แจ้ง ไม่ได้บวกรวมมูลค่าที่ดินเข้าไปในทรัพย์สินของปารีณา ไม่ได้บวกรวมจำนวนพื้นที่ๆดินประเภท โฉนด นส 3 ก ของปารีณาในจังหวัดอื่นๆ แต่เหตุที่ต้องแจ้งเพราะ ปปชมีหนังสือ และได้มาสัมนาที่พรรคพลังประชารัฐ ขอความร่วมมือให้ช่วยแจ้งหากผู้แทนครอบครองที่ดิน ภบท 5 ซึ่งมี ผู้แทนหลายคนได้แจ้งที่ดิน ภบท 5 ให้กับ ปปช เช่นเดียวกับปารีณา ต่างตรงที่ยังไม่มีผู้ใดถูกกล่าวหาหรือดำเนินคดีโดย ปปช หรือหน่วยงานใดๆ สุดท้าย เรื่องความผิดจริยธรรมร้ายแรง ข้อหาบุกรุกป่า ทางปปช ได้ส่งสำนวนทั้งหมดคืนให้กับ บก.ปทส ไปแล้ว เพราะไม่ใช่หน้าที่ของ ปปช อีกทั้งในช่วงที่ปารีณาครอบครองที่ดินดังกล่าว ปารีณา ไม่ได้เป็น สส จึงไม่มีความผิดเกี่ยวข้องกับที่ดิน และไม่เคยใช้อำนาจหน้าที่ในการเข้าไปทำกิน ใช้แต่ตังค่ะถึงตอนนี้ ปารีณายังไม่รับหมายหรือข้อกล่าวหาผิดจริยธรรมร้ายแรงใดๆ อีกทั้ง รองเลขาธิการ ปปช ให้สัมภาษณ์ในรายการ เจาะลึกทั่วไทยว่า จะมีการกล่าวหา เรื่องปกปิดทรัพย์สิน ซึ่งถึงตอนนี้ ข้อกล่าวหาในเรื่องทรัพย์สินมีเพียง 3 ข้อที่กล่าวไป ยังไม่มีข้อหาอื่นใดอีก #ฝากท่านรองเลขาธิการด้วยว่า การให้สัมภาษณ์ควรเป็นไปด้วยความระมัดระวัง เพราะวันนี้ รัฐธรรมนูญฉบับนี้ เปิดโอกาสให้ฟ้อง ปปช ได้แล้วนะคะ ไม่ว่าจะเป็นประเด็นการทำหน้าที่ หรือประเด็นการพูดจนทำให้ผู้อื่นเกิดความเสียหาย