ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ นายมงคล ลุนโสภา ได้ลงโพสต์มีคนไปตกปลาที่เกาะคอเขา บริเวณที่ชาวบ้านเรียกว่า "หัวเขา" ตั้งอยู่ทางทิศเหนือของเกาะ อยู่ในพื้นที่ หมู่ 2 บ้านนอกนา ตรงข้ามกับเกาะพระทอง พบเห็นหินมีลักษณะคล้ายกับนิ้วคนโผล่ขึ้นมา และได้ถ่ายภาพนำมาโพสต์ลงในกลุ่ม "ตะกั่วป่าบ้านเรา" ผมจึงตามไปพิสูจน์เพื่อให้เห็นกับตาตัวเอง จากที่ดูในโพสต์ดังกล่าว แล้วเทียบเคียงกับสถานที่จริง หาอยู่นานกว่าจะเจอก็ใกล้ค่ำพอดี พบว่า เป็นเรื่องจริงครับ ตามภาพที่เห็น หินโดนน้ำกัดเซาะจนมีลักษณะคล้ายนิ้วคน ชี้ไปทางทิศเหนือ ใครมาเที่ยวเกาะคอเขา อย่าลืมไปดูกันนะครับ บางทีอาจพบเจออย่างอื่นที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ก็ได้ แล้วจะทยอยนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
ล่าสุดนายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา นายมนัส จาริการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.เกาะคอเขา บ้านนอกนา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้เชิญ นายมงคล ลุนโสภา เจ้าของโพสต์เรื่องมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่พบนิ้วหิน และเป็นผู้ประสานงานประจำศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขา ลงพื้นที่แหลมหัวเขาตรงข้ามฝั่งเกาะพระทอง เพื่อให้พาบุกไปพิสูจน์ภาพ-เรื่องที่เป็นข่าวอยู่ในช่วงนี้เป็นความจริงหรือไม่ โดยใช้เวลาเดินทางเข้าไปในพื้นที่ประมาณ 20 นาที จึงถึงจุดดังกล่าว
โดย นายมงคล ลุนโสภา เจ้าของโพสต์เรื่องเดินเท้าพา คณะนายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา ตามแนวริมชายฝั่งทะเล ผ่านโขดหิน เล็ก ใหญ่ ระยะทางประมาณ 500 เมต รถึงจุดหมาย และพบกับ เนินที่ปรากฏ พบหิ้วหิน ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลพ่อตาแป๊ะประมาณ 15 เมตร ที่ชาวประมงบนเกาะคอเขานับถือกราบไหว้กัน ดังในภาพ...เมื่อนายมงคล ลุนโสภา ได้นำให้คณะทีมงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้สื่อข่าว ให้เข้ามาถ่ายภาพใกล้ๆ พร้อมทั้งยืนนิ้วมือ ไปยังรูปลักษณะคล้ายนิ้วมือคน แล้วแต่มองว่า นิ้วนาง นิ้วก้อย มีเล็บติด
ทางนายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับรายงานจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะคอเขา ว่าพบนิ้วมืออยู่บริเวณโขดหินบริเวณหมู่ที่ 2 บ้านหัวเขา ซึ่งจากการตรวจสอบ เป็นจริงตามที่มีการแจ้งโดยหลังจากนี้ทางชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นจะมีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในการเป็นจุดเช็คอินของพื้นที่ได้เข้ามาท่องเที่ยว โดยจากการดูในเบื้องต้นลักษณะเป็นนิ้วก้อยด้านขวาจึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวลงมาดูพิสูจน์ว่าเป็นลักษณะนิ้วด้านไหนกันแน่
ทางด้าน นายมงคล ลุนโสภา กล่าวว่า จากครั้งแรกที่มีการนำภาพไปแชร์ว่าพบนิ้วบริเวณโขดหิน ตนเองจึงได้เดินทางลงมาตรวจสอบจึงพบว่าเป็นจริงว่าบริเวณโขดหิน มีนิ้วมือออกมาเหมือนกับนิ้วคนจริงๆ โดยตนเองได้ลงมาตรวจสอบใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงพบและได้มีการนำไปโพสต์ลงโซเชียลจนหลายคนตั้งข้อสงสัยและกล่าวต่างๆนานาที่ว่า เป็นนิ้วคนชั่วเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ หรือเป็นนิ้วยางที่ทำขึ้นมาจึงได้อธิบายให้โลกโซเชียลเข้าใจ ที่เกิดจากน้ำทะเลกระทบหินจนเกิดเป็นปรากฏการณ์หินขึ้นมา ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ในสมัยอดีตบริเวณดังกล่าวเคยมีเรือสำเภาที่เล่นผ่านส่งสินค้า นอกจากนี้ยังพบหินที่อยู่บริเวณดังกล่าวเป็นไม้จากถูกน้ำทะเลกัดเซาะ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง
ล่าสุดนายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา นายมนัส จาริการ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.เกาะคอเขา บ้านนอกนา อ.ตะกั่วป่า จ.พังงา ได้เชิญ นายมงคล ลุนโสภา เจ้าของโพสต์เรื่องมหัศจรรย์ของธรรมชาติ ที่พบนิ้วหิน และเป็นผู้ประสานงานประจำศูนย์ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ชุมชนเกาะคอเขา ลงพื้นที่แหลมหัวเขาตรงข้ามฝั่งเกาะพระทอง เพื่อให้พาบุกไปพิสูจน์ภาพ-เรื่องที่เป็นข่าวอยู่ในช่วงนี้เป็นความจริงหรือไม่ โดยใช้เวลาเดินทางเข้าไปในพื้นที่ประมาณ 20 นาที จึงถึงจุดดังกล่าว
โดย นายมงคล ลุนโสภา เจ้าของโพสต์เรื่องเดินเท้าพา คณะนายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา ตามแนวริมชายฝั่งทะเล ผ่านโขดหิน เล็ก ใหญ่ ระยะทางประมาณ 500 เมต รถึงจุดหมาย และพบกับ เนินที่ปรากฏ พบหิ้วหิน ซึ่งอยู่ใกล้กับศาลพ่อตาแป๊ะประมาณ 15 เมตร ที่ชาวประมงบนเกาะคอเขานับถือกราบไหว้กัน ดังในภาพ...เมื่อนายมงคล ลุนโสภา ได้นำให้คณะทีมงานกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้สื่อข่าว ให้เข้ามาถ่ายภาพใกล้ๆ พร้อมทั้งยืนนิ้วมือ ไปยังรูปลักษณะคล้ายนิ้วมือคน แล้วแต่มองว่า นิ้วนาง นิ้วก้อย มีเล็บติด
ทางนายเสน่ห์ ชูราษฎร์ กำนันตำบลเกาะคอเขา กล่าวว่า หลังจากที่ได้รับรายงานจากชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะคอเขา ว่าพบนิ้วมืออยู่บริเวณโขดหินบริเวณหมู่ที่ 2 บ้านหัวเขา ซึ่งจากการตรวจสอบ เป็นจริงตามที่มีการแจ้งโดยหลังจากนี้ทางชาวบ้านและผู้นำท้องถิ่นจะมีการส่งเสริมให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในการเป็นจุดเช็คอินของพื้นที่ได้เข้ามาท่องเที่ยว โดยจากการดูในเบื้องต้นลักษณะเป็นนิ้วก้อยด้านขวาจึงอยากเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวลงมาดูพิสูจน์ว่าเป็นลักษณะนิ้วด้านไหนกันแน่
ทางด้าน นายมงคล ลุนโสภา กล่าวว่า จากครั้งแรกที่มีการนำภาพไปแชร์ว่าพบนิ้วบริเวณโขดหิน ตนเองจึงได้เดินทางลงมาตรวจสอบจึงพบว่าเป็นจริงว่าบริเวณโขดหิน มีนิ้วมือออกมาเหมือนกับนิ้วคนจริงๆ โดยตนเองได้ลงมาตรวจสอบใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงพบและได้มีการนำไปโพสต์ลงโซเชียลจนหลายคนตั้งข้อสงสัยและกล่าวต่างๆนานาที่ว่า เป็นนิ้วคนชั่วเหตุการณ์คลื่นยักษ์สึนามิ หรือเป็นนิ้วยางที่ทำขึ้นมาจึงได้อธิบายให้โลกโซเชียลเข้าใจ ที่เกิดจากน้ำทะเลกระทบหินจนเกิดเป็นปรากฏการณ์หินขึ้นมา ที่เกิดขึ้นจากธรรมชาติจริงๆ ซึ่งก่อนหน้านี้ในสมัยอดีตบริเวณดังกล่าวเคยมีเรือสำเภาที่เล่นผ่านส่งสินค้า นอกจากนี้ยังพบหินที่อยู่บริเวณดังกล่าวเป็นไม้จากถูกน้ำทะเลกัดเซาะ แต่อย่างไรก็ตามต้องรอให้ผู้เชี่ยวชาญเข้ามาตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง