7 หน่วยงานเพิ่มสมรรถนะผู้สอนส่งต่อคุณภาพผู้เรียน ดร.สมศักดิ์ ดลประสิทธิ์ รองเลขาธิการสภาการศึกษา ปฏิบัติหน้าที่เลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ สำนักงานคุรุสภา ได้ทำพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการพัฒนาผู้ประกอบวิชาชีพครู ตามพระราชดำริสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี โดยมี ดร.สมเกียรติ ชอบผล ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิชาการ ผู้ทรงคุณวุฒิ สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นประธาน โดยเป็นความร่วมมือต่อเนื่องปีที่ 2 แล้ว ซึ่งทำร่วมกันระหว่าง 7 หน่วยงาน ได้แก่ สำนักงานเลขาธิการคุรุสภา สำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช (มสธ.) กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน(ตชด.) สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เพื่อพัฒนาครูที่ปฏิบัติหน้าที่ในโรงเรียน ตชด.พื้นที่เสี่ยงและพื้นที่ห่างไกล ที่ไม่มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู เข้าศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรบัณฑิตวิชาชีพครู โดยใช้รูปแบบการศึกษาทางไกล ซึ่งขณะนี้มีอยู่ประมาณ 476 คน เลขาธิการคุรุสภา กล่าวต่อไปว่า สำหรับคุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เข้ารับการศึกษาหลักสูตรดังกล่าว จะต้องเป็นผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี และเป็นครูสอนในโรงเรียน ตชด. หรือสถานศึกษาที่อยู่ในโครงการตาม พระราชดำริฯ มีอายุงานและปฏิบัติงานสอนในสถานศึกษา ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ทั้งนี้ จะต้องให้หน่วยงานต้นสังกัดคัดเลือกผู้ที่มีคุณสมบัติ และส่งรายชื่อไปยังสำนักงานโครงการสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ เพื่อให้รวบรวมส่งรายชื่อมายังสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา เพื่อประชุมพิจารณาผู้มีสิทธิ์ได้รับเงินอุดหนุนร่วมกันทั้ง 7 หน่วยงาน ซึ่งสำนักงานเลขาธิการคุรุสภา จะจัดสรรงบประมาณ เป็นเงินอุดหนุนแก่ มสธ. เพื่อพัฒนาครูที่ได้รับการคัดเลือก แบบเหมาจ่ายเป็นรายบุคคล โดยครูเหล่านี้จะได้รับเงินอุดหนุนรายละ 28,500 บาทตลอดหลักสูตร "หากผู้ประกอบวิชาชีพครูเหล่านี้ได้เข้าศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว ผมเชื่อว่าเขาจะสามารถนำความรู้ไปประยุกต์ใช้กับการประกอบวิชาชีพครูได้อย่างมีคุณภาพ ส่งผลต่อผู้เรียนและการจัดการศึกษา ขณะเดียวกันครูก็จะมีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ด้วย"ดร.สมศักดิ์ กล่าว