นายเหงียน แทน เซิน รองประธานสายการบินเวียตเจ็ท กล่าวว่า สายการบินเวียตเจ็ทได้เริ่มให้บริการภาคพื้นดินเองอย่างเป็นทางการที่สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย เมืองฮานอย (เวียดนาม) โดยเป็นสายการบินเอกชนรายแรกที่สามารถทำการให้บริการภาคพื้นดินเองได้ในเวียดนาม ซึ่งการเริ่มปฎิบัติการดังกล่าวมีจุดมุ่งหมายเพื่อปรับปรุงคุณภาพการบริการของทางสายการบิน ให้สามารถปรับตารางบินของตัวเองอย่างอิสระและยืดหยุ่นเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการในการเดินทางโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงฤดูท่องเที่ยว และที่สำคัญยังสามารถจัดการต้นทุนการดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้แน่ใจว่าทางสายการบินให้บริการได้อย่างทั่วถึงและปลอดภัย “การประกาศเปิดการบริการภาคพื้นเองของสายการบินเวียตเจ็ทที่ฮานอย เป็นหนึ่งในก้าวสำคัญของการพัฒนาเชิงกลยุทธ์ของเวียตเจ็ทเพื่อยกระดับคุณภาพการให้บริการจัดการภาคพื้นดินและอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสารได้อย่างเต็มที่มากขึ้น ขณะเดียวกันก็เป็นการเพิ่มแหล่งรายได้และโอกาสในจัดการลดต้นทุนของเราอีกด้วย” นายเหงียน กล่าว ปัจจุบันเวียตเจ็ทเป็นหนึ่งในสายการบินที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม ในเรื่องของความถี่การให้บริการเที่ยวบินภายในประเทศโดยเฉพาะที่สนามบินนานาชาติโหน่ยบ่าย สายการบินให้บริการเส้นทางบินในประเทศและระหว่างประเทศมากกว่า 30 เส้นทางจากสนามบินนี้ โดยให้บริการผู้โดยสารหลายพันคนต่อวัน ดังนั้นสนามบินโหน่ยบ่าย จึงได้รับเลือกให้เป็นสนามบินแห่งแรกสำหรับเวียตเจ็ทในการเริ่มให้บริการภาคพื้นดินเองเพื่อปูทางไปสู่การขยายบริการของสายการบินในอนาคต ซึ่งในการจัดตั้งการให้บริการภาคพื้นดินเองในขณะที่อุตสาหกรรมการบินกำลังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของโรคโควิด -19 เช่นนี้ แต่สายการบินเวียตเจ็ทก็ได้พิสูจน์ให้เห็นว่าเป็นสายการบินที่มีความสามารถในการบริหารจัดการที่ยอดเยี่ยม เนื่องจากมีแผนธุรกิจที่ยืดหยุ่นอยู่ตลอดเวลาเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงและท้าทาย โดยเป็นหนึ่งในสายการบินที่มีอัตราการเติบโตเร็วที่สุดในภูมิภาคมานานหลายปี กำไรหลังหักภาษีรวมของสายการบินมีมูลค่าถึง 2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 62,740,000 ล้านบาท) ภายในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2563 “ เวียตเจ็ทได้พยายามแสวงหาโอกาสทางธุรกิจเชิงรุกเพิ่มเติมในช่วงที่เกิดการระบาด นอกเหนือไปจากบริการภาคพื้นดินที่จัดการได้ด้วยตนเอง ยังมีการเพิ่มบริการขนส่งสินค้าตั้งแต่เดือนเมษายน 2563 และดำเนินการเที่ยวบินขนส่งสินค้าหลายพันเที่ยวเพื่อส่งมอบสินค้าและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่จำเป็น” นายเหงียน กล่าว ทั้งนี้ในการเตรียมพร้อมสำหรับการกลับมาของตลาดการบินหลังการระบาดของโรคโควิด-19 เวียตเจ็ทได้พัฒนาแผนสำหรับผลิตภัณฑ์อีคอมเมิร์ซใหม่ ๆ ซึ่งจะออกวางจำหน่ายในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งน่าจะทำให้เกิดประโยชน์อย่างมากต่อลูกค้าและสร้างรายได้ให้กับสายการบินได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังพร้อมที่จะดำเนินแผนการบินสำหรับตลาดต่างประเทศทันทีที่ทางการให้ไฟเขียวในการบิน โดยมีตรวจสอบโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวดเพื่อความปลอดภัยของผู้โดยสารและพนักงานของสายการบิน เนื่องจากนับเป็นปัจจัยพื้นฐานในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจและการลงทุน