วันนี้ (21 มิ.ย.60) นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอบรมสหกรณ์สู่ความเข้มแข็ง(การยกระดับชั้น) เพื่อให้สหกรณ์มีความรู้ความเข้าใจหลักเกณฑ์การจัดระดับชั้นสหกรณ์ตามเกณฑ์การจัดระดับความเข้มแข็ง โดยมีคณะกรรมการ และฝ่ายจัดการสหกรณ์ที่ได้รับการจัดระดับชั้น อยู่ในระดับชั้นที่ 2 และ 3 เข้าร่วมอบรม ณ สหกรณ์ออมทรัพย์ครูนครราชสีมา จำกัด จังหวัดนครราชสีมา นายอนันต์ มหัจฉริยพันธุ์ สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า ตามนโยบายของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ต้องการพัฒนาสหกรณ์ให้มีความเข้มแข็ง เพื่อเพิ่มศักยภาพและบทบาทในการช่วยเหลือสมาชิกสหกรณ์และเกษตรกร โดยมุ่งหวังให้ดำเนินการแล้วเสร็จในปี 2560 และพลเอกฉัตรชัย สาริกัลยะ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ มอบหมายให้กรมส่งเสริมสหกรณ์ ร่วมกับกรมตรวจบัญชีสหกรณ์ จัดระดับชั้นสหกรณ์เพื่อยกระดับสหกรณ์ให้เป็นสถาบันหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในระดับรากหญ้าให้มีความเข้มแข็งอย่างยั่งยืน รวมทั้งดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ มอบหมายให้สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา ชี้แจง ให้ความรู้ และสร้างความเข้าใจให้กับคณะกรรมการดำเนินการและฝ่ายจัดการของสหกรณ์ เพื่อให้สหกรณ์สามารถดำเนินงาน บริการแก่สมาชิกได้อย่างเหมาะสม เป็นไปตามข้อบังคับ ระเบียบ คำสั่ง หรือประกาศของนายทะเบียนสหกรณ์ได้อย่างถูกต้อง รวมถึงการเร่งรัดการแก้ไขข้อบกพร่องของสหกรณ์ให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว สหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า จังหวัดนครราชสีมา มีสหกรณ์ในการกำกับและดูแล จำนวน 185 แห่ง เป็นสหกรณ์ชั้นที่ 1 จำนวน 52 แห่ง ชั้นที่ 2 จำนวน 88 แห่ง ชั้นที่ 3 จำนวน 19 แห่ง และชั้นที่ 4 หรือเป็นสหกรณ์ที่มีข้อบกพร่อง จำนวน 26 แห่ง โดยเกณฑ์การประเมินในการจัดระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ ประกอบด้วย 1.ด้านความสามารถในการให้บริการสมาชิก 2.ด้านประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ 3.ด้านประสิทธิภาพในการจัดการองค์กร และ4.ด้านประสิทธิภาพของการบริหารงาน ซึ่งในปีงบประมาณ 2560 สำนักงานสหกรณ์จังหวัดนครราชสีมา มีเป้าหมายในการยกระดับชั้นสหกรณ์ ด้วยการยกระดับชั้น จากชั้นที่ 2 ไปสู่ชั้นที่ 1 ให้ได้จำนวน 37 แห่ง และยกระดับจากชั้นที่ 3 ไปสู่ชั้นที่ 2 จำนวน 8 แห่ง ส่วนสหกรณ์ที่มีข้อบกพร่องก็ให้ดำเนินการแก้ไขให้ลุล่วง และจากการดำเนินงานที่ผ่านมา พบว่า เกณฑ์การจัดระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ทั้ง 4 ด้าน คณะกรรมการและฝ่ายจัดการ สามารถขับเคลื่อนและประเมินตนเองได้เองในด้านความสามารถในการให้บริการสมาชิกและประสิทธิภาพของการบริหารงาน แต่ในอีก 2 ด้านที่เหลือ คือ ประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจและประสิทธิภาพในการจัดการองค์กร(การควบคุมภายใน) กรรมการและฝ่ายจัดการยังไม่สามารถประเมินตนเองได้ นายอนันต์ กล่าวอีกว่า การจัดอบรมครั้งนี้ เพื่อให้กรรมการและฝ่ายจัดการสหกรณ์ มีความรู้ความเข้าใจเกณฑ์การจัดชั้นระดับความเข้มแข็งของสหกรณ์ และสามารถยกระดับชั้นไปสู่ชั้นที่ดีขึ้น ทั้งนี้ เพื่อให้สหกรณ์มีความเข้มแข็งเป็นเครื่องมือในการพัฒนาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศต่อไป