นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวถึงกรณีพรรคก้าวไกลต้องการเสียงสนับสนุนการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ว่า เรื่องนี้พรรคเพื่อไทยมีแนวคิดจะเสนอยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 มาตรา 197 และมาตราอื่นที่เกี่ยวกับระบบเลือกตั้งมานานแล้ว เพียงแต่มติพรรคเห็นว่า ยังจะไม่ยื่นแก้ไขมาตราดังกล่าวในช่วงนี้ ถ้าจะมีการลงชื่อให้กับพรรคก้าวไกลก็จะต้องมีการขอมติอีกครั้งหนึ่ง ซึ่งในการประชุมพรรควันที่ 8 ก.ย. อาจมีคนเสนอเรื่องนี้หรือไม่ยังไม่ทราบได้ แต่ถ้าพรรคก้าวไกลสามารถรวบรวมรายชื่อส.ส.จากพรรคต่างๆ ครบ จนสามารถเสนอเข้าสู่วาระการประชุมของสภาฯ ได้พรรคเพื่อไทยก็จะอภิปรายสนับสนุนและยกมือให้แน่นอน
เมื่อถามว่า หากพรรคเพื่อไทยมีแนวคิดการยื่นแก้ไขมาตราดังกล่าว จะไม่สามารถให้ชื่อส.ส. กับทางพรรคก้าวไกลได้ใช่หรือไม่ นายสุทิน กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องพิจารณาในข้อกฎหมายให้ชัดเจนก่อนว่า ส.ส.คนเดียวจะลงชื่อใน 2 ญัตติที่มีลักษณะเดียวกันได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้ก็คงต้องมาหารือกันว่า จะใช้เทคนิคการเสนอกฎหมายอย่างไร ส่วนเวลาที่เหมาะสมที่พรรคจะยื่นคือเมื่อใดคงยังไม่ใช่เวลานี้ เพราะเวลานี้ญัตติหลักของเราคือ 256 และ ส.ส.ร.ต้องผ่านไปอย่างปลอดภัยแล้ว
ด้านนายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงเรื่องดังกล่าวว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ที่ปิดสวิตช์ ส.ว. เพื่อไทยไม่ขัดข้อง แต่เรามีมติเดินหน้าแก้ไขมาตรา 256 ที่เป็นมติจากพรรค เพราะอยากให้กฎหมายตัวนี้ผ่านวาระแรกขั้นตอนต่อไปค่อยเสนอมาตรา 272 279 หรือมาตราอื่นที่จะแก้รายมาตราก็ได้ การทำงานมีเป้าหมายหลักอาจจะช้าไม่ทันใจบ้างแต่เรายังมั่นใจว่าจะเดินหน้าการร่างรัฐธรรมนูญใหม่ที่มาจากการเลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีที่พรรคเพื่อไทยไม่ให้เสียงสนับสนุนการยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ของพรรคก้าวไกล เพราะเห็นว่าข้อเสนอของพรรคก้าวไกลในการปิดสวิตช์ ส.ว. ตอนที่พรรคเพื่อไทยยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 เป็นสิ่งที่เป็นไปได้อยาก เพราะเป็นไปไม่ได้ที่ส.ว.จะยกมือสนับสนุนการลดอำนาจตัวเอง แต่พรรคก้าวไกลก็ยังดึงดันที่จะยึดการแก้ไขมาตรา 272 ไปพร้อมกับการยื่นร่างแก้ไขมาตรา 256 ของพรรคเพื่อไทย และที่สำคัญยังไม่อยากให้เขียนกำหนดไม่ให้ส.ส.ร.แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 เมื่อพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นไปในทิศทางเดียวกันให้ตั้งส.ส.ร.ก่อนยังไม่แตะ 272 และจะไม่แตะต้องหมวด 1 และหมวด 2 พรรคก้าวไกลก็มาถอนชื่อออกจากร่างกฎหมายของพรรคเพื่อไทย ไม่ขอร่วมยื่นด้วยทั้งที่ลงชื่อไว้ก่อนแล้ว ทำให้ส.ส.พรรคเพื่อไทยไม่พอใจมองว่าเป็นการไม่ลงเรือลำเดียวกัน แต่มาวันนี้พอตัวเองจะยื่นร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็พยายามมาขอเสียงจากส.ส.พรรคเพื่อไทย เมื่อมีความไม่พอใจกันเป็นทุนเดิมส.ส.พรรคเพื่อไทย จึงคุยกันชัดเจนจะไม่ให้ความร่วมมือเซ็นชื่อในกรณีนี้