ลานบ้านกลางเมือง/บูรพา โชติช่วง : สัปดาห์นี้พาไปชมพุทธศิลป์ พระนอนตะแคงซ้าย โบสถ์เก่าคุณค่าวัดป่าประดู่ เมืองระยอง
วัดป่าประดู่ หนึ่งในวัดเก่าแก่ที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองระยอง หรือในเขตเทศบาลนครระยอง ที่เป็นเอกลักษณ์และมีชื่อเสียงของวัด เห็นจะได้แก่พระนอนตะแคงซ้าย หรือพระพุทธไสยาสน์ท่านอนตะแคงซ้าย บางท่านว่ามีที่เดียวในประเทศไทย
จากข้อมูลบนแท่นสลักหินได้ร่ายสังเขปประวัติวัดป่าประดู่ สันนิษฐานว่าสร้างขึ้นสมัยอยุธยา แต่เดิมเป็นวัดร้าง มีต้นประดู่ขนาดใหญ่อยู่จำนวนมาก ต่อมาประมาณ พ.ศ. 2372 ได้มีพระภิกษุรูปหนึ่งชื่อว่าพระอุปัชฌาย์เทียน พบซากอุโบสถปรักหักพัง และมีพระพุทธรูปปางป่าเลไลยก์ จึงเห็นว่าเหมาะสมแก่บำเพ็ญวิปัสสนากรรมฐาน และยังพบพระพุทธรูปปางไสยาสน์ตะแคงซ้าย เป็นพระพุทธรูปปูนปั้นขนาดยาว 11.95 เมตร ส่วนสูงถึงยอดพระรัศมี 3.60 เมตร ชำรุดอยู่อีกองค์หนึ่ง พุทธศาสนิกชนจึงร่วมกันบูรณปฏิสังขรณ์ ต่อมาวัดได้รับยกฐานะเป็นพระอารามหลวง เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม พ.ศ. 2523 มีเจ้าอาวาสตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน 9 รูป ได้พัฒนาวัดให้มีความเจริญรุ่งเรืองขึ้นตามลำดับ
ดังที่ได้เอ่ยข้างต้น เอกลักษณ์ของวัดป่าประดู่ คือพระพุทธไสยาสน์ประทับอยู่ในท่านอนตะแคงซ้าย ซึ่งโดยทั่วไปจะพบเห็นพระพุทธไสยาสน์ประทับท่านอนตะแคงขวา ส่วนพระนอนตะแคงซ้ายนั้น เท่าที่สืบค้นข้อมูลทางโลกอินเตอร์เนต สันนิษฐานว่าผู้สร้างได้แรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวพระพุทธประวัติการแสดง “ยมกปาฏิหาริย์” ของพระพุทธเจ้า สร้างสิ่งคู่ขนานขึ้นมา อย่างไรก็ดีหากมีข้อมูลจากผู้รู้จะมานำเสนออีกครา ตอนนี้ขอละไว้เท่านี้ ส่วนพระปางป่าเลไลยก์ อยู่คู่วัดมาแต่เดิม เคยเป็นพระประธานของวัดมาก่อน สูงถึง 6.02 ม. ประดิษฐานอยู่ในวิหารที่สร้างขึ้นใหม่ เนื่องจากวิหารเดิมนั้นชำรุดทรุดโทรมมาก
ภายในวัดป่าประดู่ยังมีโบสถ์เก่าแก่คู่วัด อนุรักษ์สถาปัตยกรรมไว้อย่างดี จากข้อมูล พระครูสมุทสมานคุณ (แอ่ว) และชาวบ้านร่วมกันสร้างขึ้นในปี พ.ศ. 2449 ตรงกับสมัยรัชกาลที่ 5 ด้านหน้าโบสถ์ต่อเป็นหลังคามีเสารองรับ เป็นลักษณะศิลปกรรมที่นิยมในยุคต้นกรุงรัตนโกสินทร์ หลังคาซ้อนสองชั้น ประดับช่อฟ้า ใบระกา ที่น่าสนใจคือโบสถ์แห่งนี้ได้รับอิทธิพลศิลปะจีน เช่น ที่หน้าบันด้านหน้าหรือด้านทิศตะวันออก ปั้นปูนเป็นรูปพระพุทธเจ้าผุดขึ้นเหนือดอกบัวกลางสระ มีนกกระสากำลังจิกกบเขียดอยู่ในสระ ส่วนด้านหลังโบสถ์ปั้นปูนเป็นลายพรรณพฤกษา ยกช่อดอกไม้เป็นกลีบ ลอยเด่นออกมาจากผนัง มีสิงโตกำลังเล่นลูกแก้วขนาบข้างละตัว (sites.google.com) มีใต้ถุนโบสถ์ ไว้ให้พุทธศาสนิกชนลอดใต้โบสถ์ เป็นเชิงว่าลอดแล้วขอให้รอดปลอดภัย แคล้วคลาดภัยอันตรายทั้งปวง ภายในโบสถ์มีพระพุทธรูปประธาน กราบไหว้เสริมสิริมงคล
สิ่งที่น่าสนใจ ยังมีบ่อน้ำโบราณอายุเกิน 100 ปี อยู่กลางถนนของวัด มีขอบเขตกั้น และต้นประดู่ มีทั้งปลูกใหม่ และต้นเก่าดูจะเหลือเพียงไมกี่ต้น ต้นเก่าอายุยืนนานสุดอยู่ข้างรั้วสนามเด็กเล่นโรงเรียนอนุบาลวัดป่าประดู่ หรือปากประตูทางเข้าวัด
วัดป่าประดู่มีเนื้อที่ 95 ไร่ 1 งาน 17 ตารางวา โดยวัดจัดสรรเนื้อที่เพื่อใช้ในการสาธารณประโยชน์อื่นๆ ได้แก่ โรงเรียนวัดป่าประดู่ โรงพยาบาลระยอง อาคารพาณิชย์ และที่อยู่อาศัยของชาวบ้านรอบเขตวัด เป็นวัดศูนย์กลางกิจกรรมทางวัฒนธรรมของชุมชนที่ขับเคลื่อนด้วยพลังบวร (บ้าน วัด โรงเรียน) และชาวเมืองระยอง
ไปเที่ยวเมืองระยอง แวะสักการะพระพุทธไสยาสน์ตะแคงซ้าย พระปางป่าเลไลยก์ เพื่อเสริมสิริมงคล แล้วยลสถาปัตยกรรมอุโบสถหลังเก่าคุณค่า อีกต้นประดู่ อันเป็นที่มาของชื่อวัดป่าประดู่