WICE เผยทิศทางธุรกิจไตรมาส 3/63 เติบโตดี โชว์ปริมาณงานเพิ่มทุกช่องทาง สินค้าอิเล็กทรอนิกส์เข้าช่วงไฮซีซั่นหนุนความต้องการเพิ่ม ด้าน WICE SG รับรู้กำไรเต็มไตรมาสงวดแรก วางแผนลุยโปรโมทงานต่อเนื่อง เดินหน้างาน Cross-Border เน้นบริการขนส่งแบบเต็มตู้และไม่เต็มตู้ เพิ่มความสามารถการทำกำไร มั่นใจรายได้ทั้งปีนิวไฮตามเป้า 2,700 ล้านบาท นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) (WICE )ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เปิดเผยว่า แนวโน้มปริมาณงานของบริษัทช่วงไตรมาส 3/63 เติบโตดีต่อเนื่อง โดยเฉพาะอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ที่มีความต้องการขนส่งสินค้ารูปแบบต่างๆมากขึ้นจากกระแส Work From Home และกระแสของเทคโนโลยี 5G โดยบริษัทมีโอกาสเข้ารับงานจากลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้บริษัทจะสามารถรับรู้กำไรเต็มไตรมาสเป็นงวดแรกจาก WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd. หรือ WICE SG หลังจากที่บริษัทลงทุนเข้าซื้อหุ้นสามัญของ WICE SG โดย WICE ถือหุ้น 100% อีกทั้งไตรมาส 3 ของทุกปีเป็นช่วงไฮซีซั่นจนถึงปลายปี สนับสนุนให้มูลค่าการค้าระหว่างประเทศปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ธุรกิจโลจิสติกส์มีความต้องการใช้งานเพิ่มขึ้นตาม “แนวโน้มธุรกิจจะเติบโตดีต่อเนื่อง เริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ โดยบริษัทมีความพร้อมในการรองรับบริการให้กับลูกค้า และมีแผนขยายบริการทุกรูปแบบในกลุ่มลูกค้าเดิม พร้อมกับการขยายฐานลูกค้าใหม่ เพื่อต่อยอดงานและโปรโมทงานร่วมกับบริษัทเครือข่าย” ทั้งนี้แนวโน้มปริมาณงานของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้นมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/63 โดยรายได้ด้านขนส่งและบริการทางอากาศ (Air Freight) เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 614.36 ล้านบาท หรือคิดเป็น 221.25% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 191.24 ล้านบาท,การขนส่งข้ามพรมแดน(Cross Border Services) รายได้เพิ่มขึ้นอยู่ที่ 232.27 ล้านบาท หรือคิดเป็น 87.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 123.87 ล้านบาท เป็นผลมาจากการรับรู้รายได้ของบริษัท บริษัท ยูโรเอเชีย โทเทิล โลจิสติกส์ จำกัด (EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO.,LTD.) หรือ ETL ขณะเดียวกันบริษัทได้รับงานโครงการของลูกค้าใหม่ และลูกค้าเปลี่ยนการใช้บริการจากขนส่งทางทะเลเป็นการขนส่งทางอากาศเพิ่มขึ้น ส่งผลให้รายได้งานขนส่งและบริการทางเรือ (Sea Freight) ลดลงเล็กน้อยอยู่ที่ 153.45 ล้านบาท หรือคิดเป็น 9.41% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 140.25 ล้านบาท นอกจากนี้บริษัทมองว่าในช่วงที่เหลือของปี 63 การเติบโตของภาคอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์จะขยายตัวต่อเนื่อง พร้อมทั้งคาดว่าอุตสาหกรรมชิ้นส่วนยานยนต์จะเริ่มฟื้นตัว และภาคอุตสาหกรรมที่ต้องการย้ายฐานการผลิตจากประเทศจีนมายังประเทศไทย หลังคลายล็อคดาวน์จะทยอยกลับมาลงทุนต่อเนื่องด้วยเช่นกัน สำหรับกลยุทธ์และแผนการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปี 63 หลังจากที่บริษัทลงทุนเข้าไปขยายธุรกิจเพิ่มในตลาดจีน ผ่านเครือข่ายสาขาของ WICE ทั้ง WICE Logistics (Singapore) Pte.Ltd.(WICE SG) ,WICE Logistics (Hong Kong) Ltd. (WICE HK ), EUROASIA TOTAL LOGISTICS CO.,LTD. (ETL) และ WICE Logistics (Shenzhen) Company Ltd. (WICE SZ) ด้วยแผนการร่วมโปรโมทงานบริการทุกรูปแบบในตลาดจีน รวมถึง ฮ่องกง เซียงไฮ้ กวางโจว เซินเจิ้น โดยเฉพาะงานบริการขนส่งข้ามพรมแดน (Cross Border Services) บริษัทเดินหน้าขยายงานในด้านขนส่งข้ามพรมแดนระหว่างประเทศจีน ฮ่องกง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตามเส้นทาง One Belt One Road ของจีน ปัจจุบันมีปริมาณงานเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีแผนขยายฐานลูกค้าใหม่ในอุตสาหกรรมอื่นๆที่หลากหลาย เพื่อเพิ่มปริมาณงานให้มากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดีในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทยังคงมุ่งเน้นปรับกลยุทธ์ส่วนงานขนส่งข้ามพรมแดน ให้เอื้อประโยชน์กับผู้ประกอบการทุกขนาดที่มีความต้องการในการขนส่งมากน้อยแตกต่างกันออกไป โดยบริษัทจะเน้นการให้บริการการขนส่งไม่เต็มคันรถแบบ Less-than-truckload (LTL) เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างโอกาสเพิ่มความสามารถการทำกำไรของบริษัทให้มากยิ่งขึ้น จากเดิมที่ให้บริการขนส่งสินค้าเต็มคันรถแบบ Full Truck Load (FTL) นายชูเดช กล่าวต่อว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทยังคงเชื่อมั่นว่ารายได้รวมของบริษัทจะสร้างสถิติการเติบโตสูงสุดต่อเนื่อง เติบโตไม่ต่ำกว่า 20% หรืออยู่ที่ประมาณ 2,700 ล้านบาทตามเป้าที่ตั้งไว้ ปัจจัยสนับสนุนมาจากกลยุทธ์ขยายธุรกิจแบบ Organic จากการเพิ่มปริมาณงานบริการทุกช่องทาง และการเติบโตแบบ Inorganic ด้วยการต่อยอดธุรกิจร่วมกันระหว่างบริษัทเครือข่าย ปัจจุบันครึ่งปีแรกปี 63 สัดส่วนรายได้มาจากการขนส่งทางอากาศ(Air Freight)53%,การขนส่งทางทะเล(Sea Freight)16%,การขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service)21% และงาน Logistics 10%