เอ็ม 16 สวนตำรวจสนั่นกว่า 20 นัดก่อนจบชีวิต-ตำรวจ-อส.ตร.เจ็บ 3 สารวัตรสืบสวนนิ้วขาดกระสุนเฉี่ยวศีรษะรอดหวุดหวิด นี่คือเหตุการณ์เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมาขณะที่ชุดสืบสวนกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ชุดสืบสวน สภ.กมลา จังหวัดภูเก็ต ชุดสืบสวนตำรวจภูธรภาค 8 และ สภ.ลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้สนธิกำลังนำหมายศาลจังหวัดภูเก็ต เข้าปิดล้อม 137/1หมู่ 12 บ้านวังโหล ตำบลกำโลน อำเภอลานสกา จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยในภาพนายปรีชา รัตนมณี เจ้าของบ้านซึ่งเป็นบิดาของนายอุดม รัตนมณี หรือ “เอ วังโหล” มาเปิดประตูบ้านโดยเจ้าหน้าที่แสดงหมายจับและขอร้องให้นายปรีชา ไปเรียกนายอุดมลูกชายปรากฎว่า นายอุดม หรือเอ วังโหลรู้ตัวว่าเจ้าหน้าที่เข้ามาจับกุมได้เปิดประตูบ้านอีกด้านเปิดฉากยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อนที่คลิปจะถูกตัดไป หลังจากนั้นเป็นเหตุการณ์เกิดการณ์ดวลปืนขึ้นอย่างดุเดือด หลังจากเสียงปืนสงบเจ้าหน้าที่พบว่าฝ่ายนายอุดม หรือเอ วังโหล เสียชีวิตพร้อมกับอาวุธปืนเอ็ม 16 และอาวุธปืนขนาด 11 มม.บริเวณหน้าบ้านสภาพศพถูกยิงเข้าศีรษะและลำตัว สวมกางเกงขาสั้นตัวเดียวสะพายกระเป๋าใส่แมกกาซีนอาวุธปืนขนาด 11 มม.พร้อมกระสุนเต็มอัตรา เงินสดในกระเป๋าจำนวนหนึ่ง พร้อมทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 ชนิดลำกล้องสั้น ส่วนฝ่ายเจ้าหน้าที่ได้รับบาดเจ็บในที่เกิดเหตุ 3 รายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นายคือ พันตำรวจตรีพระมูล คงชู สารวัตรสืบสวน สภ.กมลา มีบาดแผลถูกยิงเข้าบริเวณศีรษะกระสุนถากเป็นแผลฉกรรจ์ นิ้วชี้ขวาขาด และมีบาดแผลจากสะเก็นกระสุนบริเวณหน้าแข้งขวา รายต่อมาคือดาบตำรวจวัฒนา กาญจนะ ตำรวจสืบสวน มีบาดแผลถูกยิงเข้าขาขวา อีกรายคือนายถนอมศักดิ์ วิสุทธิ์ศักดิ์ อส.ตร.งานสืบสวน สภ.กมลา ถูกนายปรีชา บิดาของนายอุดม ใช้มีดพร้าฟันศีรษะได้รับบาดเจ็บ ทั้งหมดถูกนำตัวส่ง รพ.ลานสกา ต่อมาพลตำรวจตรีนันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 พลตำรวจตรีสนธิชัย อาวัฒนกุลเทพ ผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช ได้เข้าอำนวยการสอบสวนและทำการเก็บหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ในที่เกิดเหตุพร้อมกันนั้นได้ประสานเจ้าพนักงานอัยการ ฝ่ายปกครอง แพทย์ เข้าร่วมชันสูตรพลิกศพตามเหตุการวิสามัญฆาตกรรรมโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ ขณะที่เพื่อนบ้านของผู้ตายให้ข้อมูลเบื้องต้นว่านายอุดม รัตนมณี หรือเอ วังโหล พ้นโทษคดียาเสพติดมาได้ราว 1 ปีเศษแต่พฤติกรรมค้ายาเสพติดก่อนหน้านี้มีการทำประชาคมหมู่บ้านแบบลับโดยให้ชาวบ้านเขียนข้อมูลแจ้งทางการถึงพฤติการณ์นายอุดม ได้ถูกแจ้งข้อมูลไปแล้ว ส่วนพฤติกรรมของเจ้าตัวนั้นมักเดินทางไปมาระหว่างจังหวัดภูเก็ตและบ้านที่อำเภอลานสกา โดยมีรถใช้หลายคันเวลากลับบ้านจะนำรถไปจอดที่อื่นก่อนเข้ามาในบ้านแบบเงียบๆ เป็นประจำ พลตำรวจตรีนันทเดช ย้อยนวล รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8เปิดเผยว่าเจ้าหน้าที่ได้สืบสวนติดตามผู้ต้องหารายนี้ตามหมายจับหมายจับกุมมา 2 หมายเป็นหมายจับคดีสมคบร่วมกันค้ายาเสพติดและฟอกเงิน หมายแรกคือนายอุดม รัตนมณี หรือเอ วังโหล หมายที่สอง คือนางสาวอารียา พันธ์ทิพย์ ภรรยาของนายอุดม ซึ่งจับกุมได้ในที่เกิดเหตุ กรณีที่เกิดขึ้นเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นในการป้องกันตัวจึงเป็นเหตุในการยิงต่อสู้ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นไปตามกฎหมาย การตรวจค้นในบ้านได้จัดชุดอีโอดี และสุนัขสงครามติดตามกลิ่นยาเสพติดมาด้วย เบื้องต้นเราพบยาเสพติดจำนวนหนึ่งแล้วพร้อมทั้งอาวุธปืนเอ็ม 16 และ 11 มม. ซึ่งได้ตรวจยึดทั้งหมด รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 ระบุ ขณะที่การควบคุมตัวผู้ต้องหาของเจ้าหน้าที่นั้นได้นำตัวนางสาวอารียา พันธ์ทิพย์ ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับคดีสมคบร่วมกันค้ายาเสพติดและฟอกเงินกลับไปดำเนินคดีในท้องที่ สภ.กมลา จ.ภูเก็ต ส่วนนายปรีชา รัตนมณี บิดาของนายอุดม รัตนมณี หรือเอหวังโหล เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินคดีฐานพยายามฆ่าผู้ช่วยเจ้าพนักงานในขณะช่วยในการปฏิบัติหน้าที่ กรณีได้ใช้มีดพร้าฟันนายเฉลิมศักดิ์ วิสุทธิศักดิ์ ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้เข้าเก็บหลักฐานในที่เกิดเหตุอย่างละเอียดเพื่อนำเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมายต่อไป.////// -